อธิปไตยเป็นภาษาสันสกฤต ถ้าเป็นภาษาบาลีเป็นอธิปัตย์แปลว่า เป็นใหญ่ทั้งสองคำ
ดังนั้น คำว่า ประชาธิปไตย จึงหมายถึงประชาชนเป็นใหญ่หรือความเป็นใหญ่เป็นของประชาชน ซึ่งเปรียบได้กับ “โลกาธิปไตย” ตามคำสอนในพุทธศาสนาที่แปลว่าโลกเป็นหรือความเป็นใหญ่ของชาวโลก และคำว่า โลก ในที่นี้หมายถึงหมู่สัตว์คือประชาชนนั่นเอง
แต่ท่านพุทธทาสแห่งสวนโมกข์ ซึ่งเป็นนักปราชญ์ทางพุทธศาสนาได้อธิบายความหมายของคำว่า ประชาธิปไตยไว้ในเชิงปรัชญาว่าหมายถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ มิใช่ถือจำนวนประชาชนเป็นใหญ่ โดยให้เหตุผลในเชิงตรรกะไว้ว่า ถ้าถือจำนวนข้างมากเป็นใหญ่ ถ้าบังเอิญเสียงข้างมากเป็นคนไม่ดี เป็นคนผิด ก็จะทำให้เสียงข้างน้อยซึ่งเป็นคนดี และปกป้องประโยชน์ของประเทศก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมไปถึงประเทศชาติก็จะเสียหาย
เกี่ยวกับประเด็นนี้ มีตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมที่รัฐบาลซึ่งพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยเสียงข้างมากกว่าพรรคอื่น และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้ดำเนินกิจกรรมทางด้านนิติบัญญัติในลักษณะเผด็จการทางสภาฯ ออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและครอบครัว ทำให้ประเทศชาติและประชาชนโดยรวมได้รับความเสียหาย
การที่พรรคการเมืองดังกล่าวข้างต้นดำเนินการเยี่ยงนี้ได้ ก็ด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. เป็นการเมืองที่ตั้งขึ้น โดยมีนายทุนใหญ่ใช้ทุนเงินก้อนโตดึงดูด ส.ส.เก่าจากพรรคโน้นพรรคนี้เข้าพรรค และในขณะเดียวกัน รวบรวมนักวิชาการเข้ามาเป็นสมองของพรรค เพื่อจัดทำนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้คนในระดับล่าง โดยเฉพาะในชนบท และดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในทำนองเดียวกันกับการทำธุรกิจคือ มีการลงทุนในการเลือกตั้ง และถอนทุนเมื่อได้เป็นรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ ทั้งตามน้ำและทวนน้ำ ในที่สุดก็เกิดกระแสต้านจากกลุ่มคนที่รู้เท่าทัน โดยการออกมาชุมนุมขับไล่ และจบลงด้วยการถูกโค่นล้มจากกองทัพ
2. แต่ใช่ว่าพรรคการเมืองที่ว่านี้ได้ทำผิดไปทั้งหมด โดยเฉพาะในด้านนโยบายทางสังคม และเศรษฐกิจได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้คนในระดับรากหญ้า โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น ยังได้รับความนิยมจนกระทั่งปัจจุบัน และยังเป็นต้นแบบให้พรรคการเมืองอื่นนำมาต่อยอดสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่นโยบายประชานิยมในยุคต่อมาเป็นการให้มากเกินไป และในหลายๆ รูปแบบไม่รอบคอบรัดกุมเท่าที่ควรจะเป็น จึงทำให้เกิดผลทางลบมากกว่าทางบวก จะเห็นได้จากการที่ประชาชนเกิดวิกฤตศรัทธา ดังที่กำลังเกิดขึ้นกับรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในขณะนี้
ด้วยเหตุดังกล่าวแล้วข้างต้น การเลือกตั้งเป็นเพียงรูปแบบของระบอบประชาธิปไตย ถ้านักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งไม่มีความรู้ ความสามารถ และขาดคุณธรรม หรือแม้มีความรู้ ความสามารถ แต่ขาดคุณธรรมกำกับการใช้ความรู้ ความสามารถ เสียงข้างมากที่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ อันได้แก่ประเทศชาติ และประชาชน อันเป็นส่วนรวม ในทางกลับกัน ก่อให้เกิดความหายนะแก่ประเทศชาติ และประชาชน ดังที่เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยตลอดมา โดยเฉพาะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน และจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ถ้าไม่มีการแก้ไข และป้องกันระบบทุนเข้ามาครอบงำการเมือง