ทักษิณรักลูกสาวตัวเอง แต่ไม่ได้รักประชาชน

หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

ทักษิณพูดถึงลูกสาวอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตรว่า “เขาไม่ได้คิดจะเป็นนักการเมือง และเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ยังไม่รู้เล่นการเมืองหรือแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ แต่ถ้าเกิดประชาชนเลือกแล้วได้เป็นจริง กลัวชะตากรรมจะซ้ำรอยไหมตัวผม หรือ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ ก็ต้องถามประชาชนว่า 16 ปีที่ผ่านมา ช้ำพอหรือยัง เศรษฐกิจ ครอบครัวพังไป เป็นหนี้เป็นสินล้มลุกคลุกคลานจากรัฐประหาร ถามว่าประชาชนเข็ดไหม ถ้าไม่เข็ด เอาอีกก็ไม่เป็นไร”

“ผมพร้อมปกป้องลูก เครื่องบินส่วนตัวก็มี บ้านอยู่หลายประเทศ บินมาปุ๊บ สบาย ไม่เคยกลัว ดังนั้น อย่ามาขู่ เรื่องกลัวไม่มีอยู่แล้ว”

นี่อาจเป็นสัญชาติญาณของคนเป็นพ่อ ทักษิณอาจพูดความจริงก็ได้ว่าเขาพร้อมจะกลับมาปกป้องลูกสาว แม้ฟังแล้วกำกวมว่าเขาจะบินไปที่ไหนเพราะบอกว่ามีบ้านอยู่หลายประเทศ เพราะเขาควรบอกว่าพร้อมจะบินกลับมาเมืองไทยเพื่อปกป้องลูกสาวมากกว่า

เราจะเอาไปรวมกับก่อนหน้านี้ที่ทักษิณเคยบอกว่า ถ้าเสียงปืนดังในประเทศไทยเขาจะมาเดินนำหน้า แต่ถึงเวลาเป็นเพียงคำพูดที่หายไปกับสายลมไม่ได้ เพราะการพูดคราวนั้นไม่ได้เหมือนครั้งนี้ที่พูดถึงการปกป้องลูกสาวของตัวเองไม่ใช่ลูกชาวบ้านที่ต้องล้มหายตายจากไป

แต่ที่ทักษิณพูดไม่ถูกก็คือ หากแพทองธารได้รับเลือกตั้งจริงกลัวจะซ้ำรอยกับเขาและยิ่งลักษณ์ไหมนั้น เขาพูดเหมือนว่า ถ้าชนะเลือกตั้งได้รับเลือกเป็นนายกฯ และจะถูกรัฐประหารเหมือนเขากับยิ่งลักษณ์ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเขาและยิ่งลักษณ์ไม่ได้ถูกรัฐประหารเพราะชนะเลือกตั้ง แต่ถูกรัฐประหารหลังจากใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลแล้วมีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วง และฝ่ายเขาใช้ประชาชนออกมาปะทะพร้อมกับใช้ความรุนแรงมีการใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงผู้ชุมนุมนั้นต่างหากที่ทหารใช้เป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ

คนที่ยืนยันและพูดเรื่องนี้ก็คือสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

แต่จริงๆ ทักษิณและพวกก็พูดอย่างนี้มานานแล้ว ให้ดูเหมือนว่า เขาถูกรัฐประหารเพราะมีคนอิจฉาเขาที่ทำให้ประชาชนรัก โดยไม่พูดถึงการกระทำผิดของตัวเอง คนที่แวดล้อมทักษิณที่เป็นฝ่ายซ้ายเก่าก็เห็นด้วย มีการโจมตีว่าอำนาจเก่าเป็นฝ่ายหนุนรัฐประหารเพราะกลัวอำนาจของทักษิณที่กำลังขยายตัว

มีการขยายคำว่า อำนาจเก่าให้หมายถึงอำนาจที่อยู่เหนือขึ้นไป ด้วยใช้คำว่า อำมาตย์ ศักดินาเป็นต้น เพื่อโยงขึ้นไปสู่สถาบัน ไม่มีการยอมรับว่า การรัฐประหารนั้นเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลของตัวเอง เหมือนกับที่คนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ถูกเป่าหูให้เชื่อว่าการรัฐประหารเชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ถ้าอุ๊งอิ๊งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยแล้วได้รับเลือกตั้ง ถามว่า ทำไมทหารจะต้องรัฐประหารรัฐบาลอุ๊งอิ๊งถ้าไม่ฉ้อฉลไม่มีประชาชนออกมาประท้วงและใช้ความรุนแรงกับประชาชน ตอนที่ทักษิณชนะเลือกตั้งก็ปล่อยให้บริหารประเทศมาตามปกติ แต่เมื่อทักษิณใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลนั่นต่างหากจึงมีประชาชนออกมาประท้วงชุมนุม ยิงลักษณ์ก็เช่นเดียวกันเมื่อเธอชนะเลือกตั้งก็ได้บริหารประเทศตามปกติเกือบสามปี แต่เมื่อเธอใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลนั่นต่างหากจึงมีการชุมนุมประท้วง

ดังนั้นถ้าอุ๊งอิ๊งชนะการเลือกตั้งจริงแล้วไม่ได้ใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลเช่นเดียวกับพ่อและอา จะมีเหตุผลอะไรที่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่หรือทหารออกมารัฐประหาร

แต่เข้าใจว่า การพูดแบบนั้นของทักษิณและลิ่วล้อที่พูดเสมอมาถูกทหารรัฐประหารขับไล่จากอำนาจ แต่ไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่แท้จริง วันนี้แม้แต่จะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลของทักษิณและยิ่งลักษณ์ถูกจำคุกเพราะใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล ซึ่งน่าจะเป็นบทพิสูจน์ไปแล้ว แต่ทักษิณก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง

คนที่ศรัทธาบัตรเลือกตั้งก็จะบอกว่า ถ้าทักษิณหรือรัฐบาลของทักษิณใช้อำนาจฉ้อฉล ก็ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร เพราะประเทศที่เจริญแล้วและเป็นประชาธิปไตยเขาไม่มีการรัฐประหาร ถึงเวลาหมดจากอำนาจก็ไม่ต้องไปเลือกรัฐบาลนั้นอีก คำพูดนั้นฟังแล้วอาจจะถูก แต่ถามว่า เมื่อประชาชนออกมาประท้วงขับไล่มันก็เป็นสิทธิในระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกันไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมีการจัดตั้งประชาชนออกมาปะทะและยิงอาวุธสงครามเข้าใส่ การทำแบบนั้นมันเรียกว่า ฝ่ายประชาธิปไตยตรงไหน

ประเทศที่เจริญแล้วเมื่อประชาชนออกมาชุมนุมเขาก็ไม่เอาอาวุธสงครามมาซุ่มยิงไม่ใช่หรือ แล้วถ้ารัฐบาลที่ประชาชนขับไล่ปล่อยให่มีการใช้อาวุธสงครามมาซุ่มยิง ประชาชนเขาควรจะพึ่งพาใคร

ผมไม่เชื่อหรอกครับว่ามีประชาชนคนไหนชอบการรัฐประหาร แต่เมื่อเขาไม่สามารถพึ่งพิงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ เขาก็จำเป็นต้องยอมรับการรัฐประหารไปโดยปริยาย

แต่ที่ทักษิณถามว่า 16 ปีที่ผ่านมาช้ำพอหรือยัง มันก็ขึ้นอยู่กับว่าถามประชาชนฝั่งไหน ถ้าฝั่งที่ชื่นชอบระบอบทักษิณก็บอกว่า พอได้แล้ว ไม่เอาแล้ว แต่ถ้าถามประชาชนที่เกลียดระบอบทักษิณเขาก็บอกว่า พอใจกับรัฐบาลที่เป็นอยู่เพราะกลัวระบอบทักษิณจะกลับมาอีก

ทักษิณนั้นห่วงลูกสาวตัวเองแน่ แต่ห่วงประชาชนไหมคำพูดและเหตุการณ์ในอดีตก็น่าจะพิสูจน์แล้ว ถ้าทักษิณห่วงประชาชนจะมีคนตายมากขนาดนั้นที่ราชประสงค์ไหม จะปล่อยให้มีการใช้อาวุธสงครามเข้ามาในที่ชุมนุมไหม จะมีชายชุดดำมายิงถล่มทหารที่สี่แยกคอกวัวไหม เพราะรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายไม่มีทางสู้กับกองทัพได้

ตอนชุมนุมที่ราชประสงค์ถ้ายอมสลายการชุมนุมหลังจากการเจรจาที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับปากว่าจะยุบสภา วันนั้นก็ไม่มีคนตายมากขนาดนี้ แต่ที่คนตายมากขนาดนี้ เพราะวิสา คัญทัพ เคยแฉว่า เพราะบรรดาแกนนำเมื่อรับสายทางไกลแล้วไม่ยอมยุติการชุมนุม ไม่ยอมรับข้อเสนอของอภิสิทธิ์ เพราะบอกว่า ต้องการชัยชนะที่มากกว่านี้ เพราะเห็นว่าตอนนั้นมวลชนกำลังลุกฮือ

“ชัยชนะที่มากกว่านี้” คืออะไร วันนี้วิสายังมีชีวิตอยู่น่าจะถามเขาได้ว่าคืออะไร

แต่ที่รู้ๆ ก็คือ ถ้าไม่ต้องการชัยชนะที่มากกว่านี้ก็คงไม่มีคนตายมากขนาดนี้

มันพิสูจน์แล้วว่า ทักษิณไม่ได้รักประชาชนหรอก เขารักประชาชนที่ทำให้เขาได้ประโยชน์ เขาตอบแทนประชาชนที่ตอบแทนเขา เหมือนที่ที่เขาบอกว่า ประชาชนที่เลือกเขาจะได้รับการดูแลก่อนซึ่งน่าไม่ใช่ความหมายของนักประชาธิปไตยแน่ แต่พวกคนเดือนตุลาจำนวนหนึ่งพากันแห่แหนทักษิณ เพราะสองสามเหตุผลก็คือ ทักษิณมีเงินที่ตอบสนองชีวิตที่ดีแก่พวกเขาได้ และต้องการใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือในการตอบสนองอุดมการณ์ของตัวเอง

เพราะพวกเขาเห็นว่า ทักษิณกำลังครองใจคนหมู่มากซึ่งเป็นคนรากหญ้าและคนชนบทบารมีของทักษิณจึงขึ้นมาท้าทายต่อสถาบันมากที่สุด ไม่แปลกหรอกที่เราเห็นทักษิณแสดงออกต่างๆนานารวมไปถึงคำพูดว่า มากระซิบข้างหูจะลาออกทันที

ครั้งหนึ่งสุรชัย แซ่ด่าน เคยพูดว่า ใช้ทักษิณล้มเจ้าก่อนแล้วค่อยจัดการทักษิณทีหลัง

แน่นอนทักษิณรักลูก เขารู้ว่าลูกของเขาต้องการอะไร อุ๊งอิ๊งนั้นน่าจะมีเลือดของพ่อมากกว่าคนอื่น เชื่อเถอะว่า สุดท้ายแล้วอุ๊งอิ๊งนี่แหละคือแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคการเมืองพรรคนี้เป็นของทักษิณ พรรคเพื่อไทยเป็นของครอบครัวทักษิณ วันนี้อุ๊งอิ๊งจึงเข้ามารับบทบาทของหัวหน้าครอบครัว ไม่มีทางหรอกที่ทักษิณจะปล่อยให้คนอื่นในพรรคมาแย่งชิงแคนดิเดทของลูกสาวตัวเอง เพียงแต่เขาต้องการให้ค่อยเป็นค่อยไปเหมือนจะเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่มีประชาธิปไตยในพรรคนี้หรอก ไม่เชื่อถามสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือการุณ โหสกุลดู

และก็คงไม่มีลูกพรรคเพื่อไทยคนไหนจะขวางประกาศิตของทักษิณได้

ทักษิณดีดลูกคิดรางแก้วดูแล้วแหละว่า 8 ปีของรัฐบาลประยุทธ์นั้นอยู่ในช่วงขาลง คนจำนวนมากเริ่มเบื่อทั้งศักยภาพของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเอง หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากสถานการณ์โควิด แม้คนจะแบ่งออกมาเป็นสองขั้วที่ยากจะสวิงข้ามฝ่าย แต่มีคนกลางๆจำนวหนึ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงกระแสคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่เอารัฐบาลประยุทธ์ การผลักดันลูกสาวของตัวเองออกมาในช่วงนี้จึงเหมาะสมที่สุด

ทักษิณรักลูกสาวของตัวเองแน่ แต่สำหรับประชาชนทักษิณรักไหมมันก็น่าจะมีบทพิสูจน์มามากเพียงพอแล้ว

ติดตามผู้เขียนได้ที่https://www.facebook.com/surawich.verawan