"โสภณ องค์การณ์"
สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนคงจะไม่จบสิ้นลงในเร็ววันเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไปพร้อมทุ่มงบประมาณให้อย่างมหาศาลเพื่อเป็นหนทางเดียวที่จะให้รัสเซียติดหล่ม พร้อมกับความเสียหายด้านเศรษฐกิจจากมาตรการคว่ำบาตรให้มากที่สุด
ล่าสุดสภาผู้แทนของสหรัฐได้ผ่านกฎหมาย เพื่อให้ความช่วยเหลือยูเครนเป็นเงิน 13.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่องค์กรการเงินระหว่างประเทศก็ได้ให้เงินช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนมากถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ทำให้รัฐบาลยูเครนมีเงินใช้จ่ายอีกนาน
นั่นหมายความว่าถ้าวิกฤติสงครามยืดเยื้อต่อไปอีกไม่รู้กี่ชีวิตจะต้องสูญเสียและบาดเจ็บล้มตายในการสู้รบเพราะเห็นกันอยู่แล้วว่ากองทัพยูเครนไม่มีหนทางจะสู้สงครามเต็มรูปแบบ โครงสร้างทางทหารได้ถูกทำลายยับเยินจนแทบสิ้นสภาพการรบในช่วงต้นของสงคราม
เท่ากับว่าฝ่ายโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ไม่สนใจใยดีกับความพินาศของประเทศยูเครนและความสูญเสียในชีวิตของประชาชนซึ่งมากกว่า 2 ล้านคนแล้วที่ได้อพยพออกจากประเทศเพื่อหนีภัย คาดการณ์ว่าตัวเลขจะสูงถึง 7 ล้านคนถ้าการสู้รบยังดำเนินต่อไปและขยายไปทั่วประเทศ
ยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่างบประมาณมหาศาลที่สหรัฐฯ และไอเอ็มเอฟอนุมัติให้ยูเครนนั้นจะใช้เพื่อกิจการใดหรือเพื่อจัดซื้ออาวุธมาสู้รบ เท่ากับว่าถ้าเงินนั้นซื้ออาวุธจากประเทศในกลุ่มนาโต้ก็ไม่ต่างจากการควักกระเป๋าซ้ายจ่ายกระเป๋าขวา ทำให้ผู้ผลิตอาวุธมีรายได้เพิ่มจากสงครามนั่นเอง
หมายความว่ากลุ่มนาโตและประชาคมยุโรปยังต้องการใช้ยูเครนเป็นกับดักสงครามเพื่อให้รัสเซียอ่อนแอลงทุกด้านทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ในสายตาของประชาคมโลกและยังจะถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
การเจรจากันระหว่างตัวแทนของรัสเซียและยูเครนที่มีตุรกีเป็นเจ้าภาพยังไม่ส่อเค้าว่าทั้งสองฝ่ายจะมีข้อตกลงกันโดยเร็ววัน เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายยื่นให้ต่อกันนั้นล้วนเป็นประเด็นลำบากสำหรับการยอมรับและต้องใช้เวลาในการต่อรองกันมากขึ้น
เท่ากับว่าทหารสองฝ่ายทั้งยูเครนและรัสเซียรวมทั้งประชาชนยูเครนยังต้องเสี่ยงกับการเสียชีวิตและความลำบากกับความหนาวเย็นความอดอยากและความกังวลด้านความปลอดภัยของแต่ละบุคคลต่อไป
สภาพของการยืดเยื้อของสงครามยังมีอีกในประเด็นที่มีทหารรับจ้างเป็น 10,000 คนเข้าไปรับงานในยูเครนเพื่อคุ้มครองประชาชนที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศและยังจะต้องเสี่ยงกับการปะทะกับทหารรัสเซีย ทำให้บรรยากาศของความเป็นปฏิปักษ์ร้อนแรงยิ่งขึ้น
ฝ่ายโลกตะวันตกได้รับรู้หรือตระหนักแล้วว่ากองทัพรัสเซียต้องการสลายศักยภาพทุกด้านของยูเครนให้สิ้นสภาพจนไม่สามารถ สู้รบได้เพราะรัสเซียต้องการให้ยูเครนเป็นรัฐที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใดแต่จะเป็นรัฐกันชนระหว่างกลุ่มนาโต้และรัสเซีย
สภาพที่เป็นอยู่ผู้นำยูเครนซึ่งเป็นอดีตตัวตลกบนจอทีวียังชื่นชมกับบทบาทของฮีโร่ที่ฝ่ายโลกตะวันตกอุ้มประคองให้เป็นและใช้ลีลาดราม่ออดอ้อนขอความช่วยเหลือด้านอาวุธและการสนับสนุนทุกด้านโดยไม่สนใจว่าประชาชนยูเครนจะต้องเสียชีวิตหรือประสบกับภัยสงครามอย่างไรจนถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด
การดิ้นรนแสวงหาเครื่องบินรบจากโปแลนด์ก็แสดงให้เห็นว่าผู้นำยูเครนอยากจะรบต่อไปอีกโดยที่ไม่ได้คิดว่ากองทัพอากาศของยูเครนนั้นถูกทำลายในช่วงแรกของสงครามแล้วและยังจะต้องเสริมกำลังทางอากาศเพื่อให้สงครามยืดเยื้อออกไปอีก
โลกตะวันตกคงต้องการให้ยูเครนย่อยยับเพราะว่าพื้นที่ของนาโต้และประชาคมยุโรปไม่ได้รับผลกระทบ บ้านเมืองไม่ได้เสียหายเพียงแต่มีผลรุนแรงด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียและผู้ที่เสียหายน้อยที่สุดและได้กำไรมากที่สุดก็คือสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ห่างไกลอีกซีกโลกหนึ่ง
สื่อหลักในกลุ่มประเทศตะวันตกได้กลายเป็นกระบอกเสียงของนาโต้และประชาคมยุโรปโดยไม่คำนึงถึงความเป็นกลางในการรายงานเท่ากับว่าเป็นการเลือกข้างชัดเจนและการรายงานข่าวยังคล้ายกับการโฆษณาชวนเชื่อและเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่เป็นผลลบต่อรัสเซีย
อีกไม่นานคงมีคำถามว่าเมื่อยูเครนรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางชนะรัสเซียได้แต่จะดึงดันสู้ศึกเพื่อให้บ้านเมืองย่อยยับเพื่ออะไรๆ และผลสุดท้ายของการดิ้นรนนั้นจะทำให้ถึงกับสิ้นชาติและยอมรับได้เช่นนั้นหรือ
นาโตและประชาคมยุโรปจะต้องมีส่วนรับผิดชอบทางศีลธรรมที่ส่งเสริมให้ยูเครนสู้รบในสงครามที่ไม่มีทางชนะ การใช้ยูเครนเป็นเบี้ยเพื่อทำลายรัสเซียนั้นก็ต้องจัดอยู่ว่าเป็นกลุ่ม ชาติที่เลือดเย็นไม่น้อยเช่นกัน การสนับสนุนด้วยเงินและอาวุธให้ยูเครนเท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนสงครามและการเข่นฆ่ากันจะมาอ้างว่าเป็นฝ่ายธรรมะไม่ได้
การส่งเสริมสนับสนุนระบบประชาธิปไตยเสรีนิยมที่ฝ่ายโลกตะวันตกต้องการให้ชาติอื่นเอาอย่างนั้นย่อมไม่ใช่กระทำโดยการส่งเสริมให้เกิดสงครามแน่นอนและฝ่ายนาโตและประชาคมยุโรปย่อมไม่ต่างจากปีศาจคาบคัมภีร์ในสายตาของวิญญูชนที่รักสันติอย่างแท้จริง
ระบบประชาธิปไตยเสรีนิยมย่อมไม่ถูกใช้เป็นหน้ากากของลัทธิความเป็นจ้าวที่สหรัฐฯ รับบทอยู่ในการขยายอิทธิพลไปทั่วโลกและสร้างปัญหาให้กับประเทศอื่นๆ ที่ถูกกดดันทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
สุดท้ายประชาคมโลกต้องยอมรับผลกระทบจากราคาพลังงานอัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นและบางประเทศต้องประสบกับความขาดแคนอาหารและทุกข์ยากอื่นๆอันเนื่องมาจากความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจ
สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจึงไม่มีฝ่ายใดถูกหรือผิดอย่างชัดเจนเพราะมีส่วนในการสนับสนุนและบทบาทเพื่อให้สองฝ่ายนั้นใช้อาวุธประหารกัน และจะต้องรับความสูญเสียมากน้อยแล้วแต่ความเกี่ยวข้อง
ชาวโลกเพียงได้แต่หวังว่าสงครามจะไม่ลุกลามไปจนเป็นการเผชิญหน้ากันด้วยอาวุธนิวเคลียร์