SPRC เดินหน้าจ่ายเยียวยาเหตุน้ำมันรั่ว เผยเรือประมงส่วนใหญ่ยอมรับ ปูดพิรุธ “กลุ่มตั้งใหม่” โวยวายไม่เลิก มีคนใส่เสื้อพรรค เชื่อมีการเมืองชี้นำ-สร้างฐานเสียง หวั่นทำภาพลักษณ์ประเทศตกต่ำ ซ้ำเติมวิกฤต ศก.
จากกรณีที่ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ซึ่งเป็นเจ้าของทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยว้ที่เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วกลางทะเล จ.ระยอง เมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค.65 ได้เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วนั้น
รายงานข่าวจาก SPRC ระบุว่า บริษัทฯได้เจรจา
เพื่อมอบเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่มีข้อผูกพันกับผู้รับ และเปิดให้ ผู้ได้รับผลกระทบที่ประกอบอาชีพอื่นๆ และกลุ่มประมงพื้นบ้าน ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.65 ถึง 25 ก.พ.65 โดยมีเป้าหมายคือ การดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว จากนั้นได้รวบรวมคำร้องเรียนก่อนที่เบื้องต้นจะสรุปว่า SPRC จะจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วใน 2 กลุ่มแรก คือ กลุ่มอาชีพอื่น ๆ และกลุ่มประมงท้องถิ่น
โดยกลุ่มแรก กลุ่มอาชีพอื่น ๆ หมายถึงผู้ได้รับผลกระทบที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อาชีพประมงหรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้รับเงินช่วยเหลือเมื่อวันที่ 26 และ 28 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มประมงท้องถิ่น SPRC ได้แจ้งกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนว่า จะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 45,000 บาท ต่อเรือประมง 1 ลำ โดยไม่มีข้อผูกพัน ให้แก่กลุ่มประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ เพื่อแสดงให้เห็นว่า SPRC มีความห่วงใยต่อชาวระยองและสิ่งแวดล้อม จากนี้จะให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคมในการฟื้นฟูธรรมชาติให้กับชาวระยอง รวมถึงเดินหน้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น
ในส่วนกลุ่มประมงท้องถิ่นนั้น ได้เริ่มดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เจ้าของเรือประมงในเกาะเสม็ด ที่ได้ทำการลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ ณ โรงเรียนเกาะแก้วพิสดาร เกาะเสม็ด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 1 มี.ค. สำหรับกลุ่มประมงท้องถิ่นส่วนที่เหลือ จะได้รับเงินช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มี.ค.65 เป็นต้นไป โดย SPRC จะติดต่อไปยังเจ้าของเรือที่มีสิทธิ์ในการรับเงินช่วยเหลือ เพื่อแจ้งวันและสถานที่สำหรับการเข้ามารับเงินช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบมีราวๆ 40 กว่ากลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยและยอมรับการช่วยเหลือจาก SPRC แต่มีเพียง กลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเรา ซึ่งอยู่ไกลจากพื้นที่เกิดเหตุราวๆ 15 กิโลเมตร กลับแสดงความไม่พอใจกับผลการเจรจา และยังพบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นใหม่ได้ไม่นาน โดยเมื่อวันที่ 28 ก.พ.65 แกนนำกลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเรา ได้นำชาวประมงประมาณ 50 คน เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าบริษัท SPRC โดยเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยเดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน พร้อมกับขู่ว่า หาก SPRC ไม่รับข้อเสนอ จะมีการยกระดับในการเรียกร้องต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการนำเรือประมงท้องถิ่นหลายสิบลำ มาลอยลำหน้าบริเวณสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อแสดงในเชิงสัญลักษณ์ ในการขอความชัดเจนเรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือตามที่ได้ยื่นข้อเสนอไปอีกด้วย โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า กรณีที่กลุ่มประมงท้องถิ่นเพียงส่วนน้อย แสดงความไม่พอใจกับผลการเจรจา และเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนมากที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ
รวมทั้งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มชาวประมงท้องถิ่นกลุ่มอื่นว่า อาจมีกลุ่มการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่งอยู่เบื้องหลังกลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเราหรือไม่ โดยปรากฎภาพในวันที่มีการนำเรือประมงท้องถิ่นหลายสิบลำ มาลอยลำหน้าบริเวณสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดว่า คนบนเรือหลายคน โดยเฉพาะเรือลำที่มีลักษณะคล้ายกับเป็นเรือนำขบวนนั้น มีคนสวมเสื้อของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีโลโก้ของพรรคการเมืองพรรคดังกล่าวเห็นได้อย่างชัดเจน
ซึ่งมีความเป็นห่วงว่า หากมีการนำเรื่องขึ้นมาเป็นประเด็นการเมือง หรือมีการชี้นำเพื่อหาประโยชน์ เพียงเพื่อต้องการสร้างฐานเสียงให้กับตัวเองและพวกพ้องเพียงไม่กี่คน ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทั้งประเทศอย่างหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก และในประเทศไทย ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของชาวโลกต่างก็มองว่ามีความแข็งแกร่งและเป็นที่หมายสำคัญที่น่าจะเข้ามาลงทุนนั้น.