ปิดฉากสัปดาห์นี้...คงแทบไม่หลงเหลือบรรยากาศแบบ “เบาๆ-สบายๆ” ใดอีกต่อไปแล้ว อันเนื่องมาจาก “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ที่กำลังทาบทาไปทั่วทั้งทวีปยุโรป หลังการ “บุกยูเครน” ของกองทัพรัสเซีย และแม้จะมีการเริ่มต้น “ตั้งโต๊ะเจรจา” เริ่ม “ตามหาสันติภาพ” กันมั่งแล้ว ระหว่างตัวแทนฝ่ายรัสเซียและยูเครน ที่ประเทศเบลารุส เริ่มต้น “ยกแรก” เมื่อช่วงวันจันทร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา แต่ก็อย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายSergei Lavrov” ท่านว่าเอาไว้เมื่อวัน-สองวันนั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะยูเครนได้ถูกหันซ้าย-หันขวา หรือหันไปน้อมรับคำสั่งจากวอชิงตันซะเป็นหลัก การเจรจา “ยกสอง” ตัวแทนฝ่ายรัสเซียเลยต้องชักสะพานแหงนถ่อ นั่งรอ นอนรอ ตัวแทนฝ่ายยูเครน ชนิดเมื่อยแข้ง เมื่อยขาไปตามๆ กัน...
คืออาจเป็นเพราะช่วงระหว่างนี้...คุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ที่สามารถควบคุมและบงการรัฐบาลยูเครนให้หันไปทางไหนต่อทางไหนก็ย่อมได้ ค่อนข้างที่จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเอามากๆ ในแง่ของ “สงครามด้านข้อมูล-ข่าวสาร” แม้ว่าในด้าน “สงครามแท้ๆ” อาจอยู่ในช่วงระหว่างเจียนอยู่-เจียนไป เมืองหลวงของยูเครนอย่างกรุง “Kyiv” ใกล้จะแตกแหล่-มิแตกแหล่ยิ่งเข้าไปทุกที แต่ก็ด้วยการปลุกขวัญ-ปลุกกำลังใจ ของบรรดาผู้ที่ “ไม่รู้เรื่อง” หรือไม่รู้อีโหน่-อีเหน่ ไม่ได้คิดจะสนใจที่มา-ที่ไป ไม่ได้วิเคราะห์เจาะลึก ไปถึง “เหตุปัจจัย” ที่ทำให้เกิดกรณีดังกล่าว ซึ่งมีอยู่เยอะแยะมากมายเสียเหลือเกินภายในโลกใบนี้ หรือโลกที่ “ผู้ใดกุมข้อมูล-ข่าวสาร...ผู้นั้นควบคุมโลก” อะไรประมาณนั้น การทำให้รัสเซียกลายเป็น “ผู้ร้าย” หรือเป็น “ดาวร้าย” ที่จะต้องหาทางขจัดกวาดล้าง หาทางปฏิเสธและต่อต้าน จึงออกจะได้ผลเอามากๆ ถึงขั้นแม้แต่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ยังมีประเภทพวก “3 นิ้ว-3 กีบ” หรือประเภทใดๆ ก็แล้วแต่ ถึงกับ “ของขึ้น” คิดจะไปสมัครเป็นนักรบเพื่อปกป้องประเทศยูเครนไม่ว่าจะห่างไกลสุดขอบฟ้าขนาดไหนก็ตาม...
อีกทั้งด้วยความร่วมมือในการใช้มาตรการ “แซงชั่น” แบบชนิด “โหดสุดๆ” ของคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ที่พร้อมจะปล่อยให้กองทัพยูเครนสู้รบกับรัสเซียไปตามลำพัง ขณะที่ตัวเองและพันธมิตรถอยไปตั้งหลักอยู่ที่อื่นซะยังงั้น ก็คงต้องยอมรับว่าออกจะหนักหนา-สาหัสเอาการ สำหรับหมีขาวรัสเซีย โดยเฉพาะถ้าดูจาก “ค่าเงินรูเบิล” ที่ร่วงผล็อยไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในทันที-ทันใด แต่ก็นั่นแหละ...อย่างที่ใครต่อใครเขาเคยว่าๆ เอาไว้ประมาณว่า “สงครามไม่จบ...อย่าเพิ่งนับศพจำนวนทหาร” การบุกยูเครนของกองทัพรัสเซียคราวนี้ จึงคงต้องมองกันยาวๆ เพราะมันคงไม่ใช่แค่การคิดจะยึดพื้นที่เล็กๆ แค่ประมาณ “แมวดิ้นตาย” ไม่ว่า “Donetsk” หรือ “Lugansk” หรือแม้แต่ประเทศยูเครนทั้งประเทศก็แล้วแต่ หรืออย่างที่นักวิเคราะห์รัสเซีย “นายFyodor Lukyanov” หัวหน้ากองบรรณาธิการวารสาร “Russian in Global Affairs” และประธานสภานโยบายป้องกันต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสโมสร “Valdai International Discussion Club” ที่เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิด ความเห็น ของนักคิด นักวิชาการ นักการเมืองรัสเซีย ระดับเบ้งๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น แกสรุปเอาไว้ในบทความชิ้นล่าสุด ว่าการบุกยูเครนของรัสเซียคราวนี้ไม่ต่างอะไรไปจากการ “ปักหมุดหมาย” ให้กับการเริ่มต้น “ปลดปล่อยระเบียบโลก” (Liberal World Order) หรือการเริ่มต้นยุติยุคสมัยแบบเก่าๆ เดิมๆ (The End of an Era) มาสู่ยุคใหม่ๆ ประวัติศาสตร์ใหม่ๆ หรือ “ระเบียบโลกแบบใหม่” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
จริง-ไม่จริง เป็ง-ปาย-ล่าย เป็ง-ปาย-ม่ายล่าย...ก็คงต้องไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน แต่คงต้องยอมรับว่าภายใต้ความได้เปรียบในแง่ “สงครามข้อมูล-ข่าวสาร” รวมทั้งการบดบี้ ขยี้รัสเซีย ด้วยมาตรการแซงชั่นแบบโหดสุดๆ นอกเหนือไปจากนั้นคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ก็ยังไม่ได้แสดงความเหนือกว่า “มหาอำนาจคู่แข่ง” ไม่ว่ารัสเซียหรือจีนแต่อย่างใด ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือการทหาร มีแต่ต้องหันไปอาศัยรายการ “ยั่วยวนกวนส้นตีน” คู่แข่งต่อไปเรื่อยๆ โดยแม้ว่าจะพยายามส่งตัวแทนระดับสูงของอเมริกา ไม่ว่าตั้งแต่อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ “นายMike Pompeo” อดีตประธานเสนาธิการทหาร “พลเอกMike Mullen” อดีตรองที่ปรึกษาความมั่นคง “นายMeghan O’Sullivan” อดีตรัฐมนตรีกลาโหม “Michele Flournoy” ไปจนถึงผู้ประสานงานความร่วมมือยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก อย่าง “นายKurt Campbell” ไปเยือนเกาะไต้หวันในช่วงจังหวะที่กำลังเกิด “วิกฤตยูเครน” แบบพอดิบ พอดี ชนิดไม่ต่างอะไรไปจากการแสดงความพร้อมสำหรับการ “เปิดศึก 2 ด้าน” แต่ก็อย่างที่สื่อทางการของจีนอย่าง “Global Times” เขาสรุปเอาไว้นั่นแหละว่า แค่เฉพาะ “ศึกด้านเดียว” หรือ “ศึกยูเครน” กองทัพอเมริกัน...ก็ทำท่าว่าไม่คิดจะเอาแล้ว!!! ต้องถอยไปตั้งหลักไกลถึงลัตเวีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย หรือโปแลนด์ ฯลฯ ไปโน่น ด้วยเหตุเพราะการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงกับใครต่อใครใน “ศึกเวียดนาม” หรือ “ศึกอัฟกานิสถาน” ช่วงล่าสุด ยังคงตามหลอกหลอนหรือไม่ อย่างไร ก็คงต้องไปคิดๆกันเอาเอง...
ส่วนการหันมา “แซงชั่นทางเศรษฐกิจ” แทนการ “เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 3” อย่างที่ผู้นำอเมริกัน “ผู้เฒ่าโจ ซึมเซา” ได้ออกอรรถาธิบายกับอเมริกันชนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ก็อาจส่งผลแบบที่บรรดานักเศรษฐกิจจำนวนไม่น้อยออกมาสรุปว่า แทบไม่ต่างไปจาก “การควักปืนออกมายิง...หัวแม่เท้าตัวเอง” (Shoot Itself in Foot) เอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะไม่ว่าจะอเมริกาและบรรดาพันธมิตรยุโรปทั้งหลาย ต่างกำลังเผชิญกับ “ภาวะเงินเฟ้อ” โดยเฉพาะอันเนื่องมาจากราคาพลังงานที่เป็นตัวฉุดกระชากให้สินค้าต่างๆ ทะลุเพดาน ทะลุหลังคา ยิ่งเข้าไปทุกที อเมริกานั้น...เฟ้อระดับ 7 เกือบ 8 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อังกฤษกว่า 5-6 เปอร์เซ็นต์ และล่าสุดเยอรมนีเฟ้อไปถึง 5.5 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว ฯลฯ แค่เฉพาะราคาแก๊สในยุโรปที่ขึ้นไปถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิกเมตร...ก็ตายแล้ว แต่จากข่าวล่า-มาเรือเห็นว่าขึ้นไปถึง 2,200 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิกเมตร เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
ดังนั้น...ถ้ามองกันยาวๆ หรือในแง่ระยะยาว ถ้าหากรัสเซียเขาสามารถยืนหยัด หันไปใช้ระบบการโอนเงินแบบ “SPFS” ที่เพิ่งประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือหันไปใช้ระบบ “CBDC” (Central Bank digital currency) อย่างที่ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย “Sun Yat-sen” “นายLin Jiang” คาดเดาเอาไว้ก่อนล่วงหน้า จนสามารถอยู่รอดปลอดภัยหรือ “อยู่ๆ กันไปได้” โอกาสที่อเมริกาและพันธมิตรตะวันตกนั่นแหละ...ที่จะเป็นฝ่าย “ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี” ซะเองก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...
และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ความพยายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ของคุณพ่ออเมริกาต่อบรรดามหาอำนาจคู่แข่ง ไม่ว่าใน “แนวรบยุโรปตะวันออก” และ “แนวรบทะเลจีนใต้” จนทำให้ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” เริ่มปรากฏขึ้นมารางๆ เลยไม่ได้ถึงกับทำให้ผู้ที่ไม่ได้ถึงกับ “ดุ” อะไรมากมายสักเท่าไหร่ แต่ถนัดในการลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพันซะมากกว่า อย่างพญามังกรจีน จึงยังไม่ถึงกับคิดจะบุกโน่น บุกนี่ เหมือนอย่างหมีขาวรัสเซีย หรืออย่างผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกันศึกษา แห่ง “The Chinese Academy of Social Sciences” อย่าง “นายLu Xing” แกได้สรุปเอาไว้นั่นแหละว่า... “โลกอยู่ในช่วงโกลาหลอลหม่านมาพอสมควรแล้ว ทั้งอเมริกา ไต้หวัน (หรือแม้แต่ยูเครน) ไม่ควรที่จะปลุกกระตุ้นอะไรให้มากมายเกินไปกว่านี้ และจีนเองก็ยังไม่ควรแสดงปฏิกิริยาใดๆ ที่จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก แต่คงต้องมุ่งมั่นอยู่กับการเสริมสร้างเสถียรภาพ สนับสนุนการหาทางออกเพื่อสันติภาพให้กับโลกทั้งโลก โดยอาศัยความอดทน อดกลั้น และความจริงใจเป็นที่ตั้ง...” นี่...ต้องเรียกว่าฟังแล้วรู้สึกเบาๆ-สบายๆ ขึ้นมาเป็นกอง ส่วนจะสามารถเป็นไปตามนั้นหรือไม่ อย่างไร คงต้อง “วอท เอฟเวอร์ วิลบี วิลบี” กันต่อไปนั่นแหละท่านเอ๋ย...