มาถึงขั้นนี้...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ขีดความสามารถในการ “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ของคุณพ่ออเมริกาทั่น ต้องเรียกว่า “เอาเรื่อง” มิใช่น้อย!!! คือถ้ายั่วพญามังกรจีน ที่ทั้งนิ่ม ทั้งเนียน ถนัดในการลอยเลื้อยโอบกระหวัดรัดพัน ในแถบ “แนวรบทะเลจีนใต้” ก็ยังไม่ถึงกับเท่าไหร่ เพราะผู้นำจีนอย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ท่านยังพอ “สีทนได้” ยังพร้อมอดทน อดกลั้น ไม่คิดถลำเข้าไปสู่ “กับดัก” หรือ “ดงส้นตีน” มากมายสักเท่าไหร่นัก...
แต่สำหรับหมีขาว อย่างคุณน้ารัสเซียนี่สิ!!! ที่ออกจะดุแสนดุมาโดยตลอด ใครที่คิดจะแหย่เสือหลับ-แหย่หมีหลับ คงต้องคิดกลับไป-กลับมาสักสี่เที่ยว-ห้าเที่ยว ยิ่งมีอดีตเคจีบีอย่างท่านประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” เป็นผู้นำด้วยแล้ว การยั่วยุและยุแยงตะแคงรั่วอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ มาตั้งแต่ยุค “สงครามเย็น” สิ้นสุดลงไปแล้ว ด้วยการขยายเขตอิทธิพลของตะวันตก รุกเข้าไปจ่อปากประตูบ้านรัสเซียยิ่งขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย...ก็เลยส่งผลให้ต้องเกิดรายการ “บุกยูเครน” กันจนได้ และขณะที่นั่งปั่นต้นฉบับชิ้นนี้ เห็นว่ายังอุตลุด ชุลมุน วุ่นวาย ยังบึ้มไป-บึ้มมา ไม่รู้จบ...
คือถ้าว่าถึงวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายของรัสเซียเขา...คงไม่ได้แค่คิดจะยึดยูเครน ยึด Donetsk และ Lugansk ให้ต้องกลายเป็น “ภาระ” ต่อไปโดยใช่เหตุ แต่ต้องการมุ่งตรงไปยังตะวันตก ยังนาโตและคุณพ่ออเมริกานั่นแหละ ว่าอย่าคิดได้ “แหย่หมีหลับ” เป็นอันขาด ดังนั้น...หลังจากบึ้มไป-บึ้มมาพอสมควรแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเข้าสู่ “โต๊ะเจรจา” ไปตามกระบวนการและตามกำหนดการ ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเป็นโฆษกประจำตัวของประธานาธิบดียูเครน อย่าง “นายSergey Nikiforov” ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กไว้เมื่อวันเสาร์ (26 ก.พ.) ที่ผ่านมา ว่ายูเครนพร้อมที่จะตั้งโต๊ะเจรจากับรัสเซียเพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและสันติภาพ หรือทูตยูเครนประจำอิสราเอล “นายYevgen Korniychuk” ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์ก ไทมส์” ว่าได้ขอร้องให้ “ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งรัสเซียและยูเครนอย่างอิสราเอล” ช่วยเป็น “ตัวกลาง” ในการเจรจาคราวนี้ หรือแม้แต่ตัวประธานาธิบดียูเครน อย่าง “นายVolodymyr Zelensky” เอง ก็บอกเอาไว้ตั้งแต่วันศุกร์ (25 ก.พ.) ที่แล้ว ว่าพร้อมจะเจรจากับรัสเซียได้ในทุกที่-ทุกเวลา...
แต่ก็นั่นแหละ...ภายในรัฐบาลยูเครนเอง ก็เต็มไปด้วยฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน ไม่รู้จะกี่ฝ่ายต่อกี่ฝ่าย แม้แต่ฝ่ายนิยม “นาซี” หรือพวก “นีโอ-นาซี” ก็ยังมีบทบาทมิใช่น้อย ด้วยเหตุนี้การตั้งโต๊ะเจรจาที่ทำท่าจะเริ่มๆ กันในอีกไม่กี่วันนับจากนี้ เลยทำท่าว่าจะเป็นไปไม่ได้ หรือไม่เป็นไปตามนั้นขึ้นมาอีกซะแล้ว โดยเฉพาะเมื่อที่ปรึกษาประธานาธิบดี “นายAlexey Arestovich” ได้ออกมาปฏิเสธแบบเสียงดัง-ฟังชัดว่าไม่คิดจะคุยกับรัสเซียโดยเด็ดขาด เพราะ “พวกมัน...พยายามบีบบังคับด้วยกำลังเพื่อให้เราต้องตกเป็นฝ่ายยอมจำนน” รวมทั้งตัวประธานาธิบดียูเครนก็เริ่มออกอาการ “ตลก69” หรือทำท่าคิดจะกลับลำ คิดจะปฏิเสธการเจรจาขึ้นมาดื้อๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะโหยหวนครวญคราง ว่า “ไม่มีใครช่วยเราเลย” แต่จากที่หลายต่อหลายประเทศได้จัดส่งอาวุธเข้าไปเพิ่มเติม รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” ที่ได้ออกมาป่าวประกาศดังๆ ไปเมื่อวันเสาร์ (26 ก.พ.) ที่ผ่านมา ว่าสหรัฐฯ ที่ถอยกรูดไปตั้งรับอยู่แถวๆ ลัตเวีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย ฯลฯ กำลังคิดจะส่งความช่วยเหลือทางทหารเป็นมูลค่าไม่น้อยไปกว่า 350 ล้านดอลลาร์ ไปให้กับยูเครนในเร็วๆ นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เลยเกิดอุปสรรคชะงักงันขึ้นมาซะยังงั้น!!!
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...กองทัพรัสเซียเขาเลยต้องหันมาลุยต่อ เริ่มเปิดฉากบึ้มไป-บึ้มมาอีกครั้งเมื่อช่วงวันเสาร์ เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลยูเครน ให้หันหน้ามาสู่โต๊ะเจรจาโดยเร็วไว โดยถ้าหากตัวตลก 69 ของยูเครน อย่างประธานาธิบดี “Zelensky” ยังคิดจะปฏิเสธการเจรจาต่อไป อนาคตของยูเครนจะเป็นไปในรูปไหนต่อรูปไหน ก็ยังมิอาจคาดคะเนได้ จะยับเยินยุ่ยแยกแตกกระจายเป็นชิ้นๆ หรือจะกลายเป็น “กับดักหมี” ที่คุณพ่ออเมริกาท่านได้เตรียมจัดวางเอาไว้มานานแล้ว หรืออย่างที่ผู้นำอเมริกา “ผู้เฒ่าโจ ไบเดน” ท่านได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า อเมริกามี “ทางเลือก” อยู่เพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น คือทางแรกก็คือ...เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 3 และทางที่สอง ก็คือหาทางเล่นงานมหาอำนาจคู่แข่งอย่างรัสเซียด้วยการแซงชั่นทางเศรษฐกิจ โดยคงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า...การ “แซงชั่น” ที่ได้ตระเตรียมเอาแล้วล่วงหน้าคราวนี้ ออกจะเป็นอะไรที่ “โหดสุดๆ” ไม่ว่าตั้งแต่การค้า-การขาย ระบบการเงิน การกีฬา ตัวบุคคล ฯลฯ ต่างถูกบดขยี้โดยคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก อย่างชนิดไม่คิดจะปรานีปราศรัยเอาเลยแม้แต่น้อย...
ดังนั้น...การหาทาง “ยื้อ” เพื่อไม่ให้ตัวเองถึงขั้นต้องแพ้ราบคาบต่อกองทัพรัสเซีย ของผู้นำยูเครนอย่าง “นายZelensky” โดยที่จะสามารถยื้อต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่ หรือถึงขั้นต้องเผ่นหนีจากเมืองหลวงอย่างกรุง “Kyiv” ไปตั้งมั่นอยู่ที่เมือง “Lvov” ดังที่ประธานสภาดูมา “นายVyacheslav Volodin” ออกมาเปิดเผยเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไร แต่ต้องถือเป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญของ “กับดักหมี” ที่จะส่งผลให้กองทัพ รัฐบาล หรือผู้นำรัสเซีย ต้องดิ้นรนทุรนทุรายหรือต้องเจ็บปวดรวดร้าวกันไปอีกถึงขั้นไหน อันนี้...ก็คงต้อง “วอท เอฟเวอร์ วิลบี วิลบี” กันต่อไป แต่ที่น่าสนใจ และน่าสังเกตเอามากๆ ก็คืออย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...แนวรบทั้งสองแนวรบ คือ “แนวรบยุโรปตะวันออก” กับ “แนวรบทะเลจีนใต้” นั้น มันค่อนข้างจะมีความเชื่อมต่อ เชื่อมโยง ไม่ว่าในทางหนึ่ง-ทางใดอย่างมิอาจปฏิเสธ...
ด้วยเหตุนี้...ขณะที่กำลังเกิดการบึ้มไป-บึ้มมาในยูเครน แถวๆ ทะเลจีนใต้ก็ใช่ว่าจะอยู่ในสภาวะ “สงบ-เรียบนิ่ง” แต่อย่างใดเพราะหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสฯ (24 ก.พ.) ว่าเครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพจีนประมาณ 9 ลำ ยังบินล่วงล้ำเขต “ADZ” หรือ “Air Defense Zone” ของไต้หวัน ส่งผลให้เมื่อวันเสาร์ (26 ก.พ.) ที่ผ่านมานี่เอง เรือพิฆาตติดขีปนาวุธจากกองทัพเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ คือเรือ “USS Ralph Johnson” ก็ถูกส่งให้เข้าไปแล่นไป-แล่นมาในช่องแคบไต้หวัน ชนิดที่ทำให้สื่อทางการของจีน อย่าง “Global Times” ต้องเรียกขานปฏิบัติการครั้งนี้ของอเมริกาว่าเป็นปฏิบัติแบบ “On Two Sides of the World” หรือแบบพร้อมที่จะ “เปิดศึก 2 ด้าน” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
ด้วยเหตุนี้...มันจึงเกิดรายการขยับเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจเอามากๆ สำหรับ “แนวรบทะเลจีนใต้” โดยเฉพาะต่อผู้ที่ต้องการจะมอง “ป่าทั้งป่า” ไม่ใช่มองแค่เฉพาะใบไม้ “กำมือเดียว” นั่นก็คือ...อันดับแรก ได้แก่การประกาศ “ยกระดับความสัมพันธ์” ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ ภายใต้ “สถานการณ์ใหม่” อันเป็นสถานการณ์ที่ “คาดเดาแทบไม่ได้” ซึ่งได้รับการเปิดเผยโดยสำนักข่าว “KCNA” ของเกาหลีเหนือเมื่อช่วงวันเสาร์ (26 ก.พ.) ที่ผ่านมา ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้น หรือวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) สำนักข่าว “Yonhap” ของเกาหลีใต้ จะออกมาเปิดเผยถึงการทดสอบขีปนาวุธระดับ “IRBM” ครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ได้ทดสอบมาแล้วถึง 8 ครั้ง แค่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนอันดับต่อมาก็คือแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ที่ได้อ้างถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำจีน ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” กับผู้นำรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” เมื่อช่วงวันศุกร์ (25 ก.พ.) ที่ได้บทสรุปออกมาประมาณว่า นอกจากผู้นำจีนจะแสดงความเข้าใจต่อการบุกยูเครนของรัสเซีย ว่าเป็นไปเพื่อปลดปล่อยการเสริมสร้างกำลังและการขจัดกวาดล้างการครอบงำด้วยลัทธินาซี (Demilitarize and Denazify) แล้ว ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องต้องกัน ที่จะต้อง “ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด” และ “สนับสนุนซึ่งกันและกัน” รวมทั้งเพื่อร่วมประณามการแซงชั่นที่ไม่ชอบธรรมและเห็นแก่ตัว ว่าเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” ฯลฯ...
นี่...อันนี้ต้องเรียกว่า เมื่อหนีไม่พ้นต้องโยงแนวรบทั้งสองแนวรบ เข้ามาเชื่อมต่อระหว่างกันและกัน ไม่ว่าในทางหนึ่ง-ทางใด โดยถ้าหาก “แนวรบยุโรปตะวันออก” ยังไม่มีบทสรุปภายในระยะเวลาอันสั้น หรือทำท่าว่าอาจกลายเป็น “กับดักหมี” ขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะก็ โอกาสที่ “แนวรบทะเลจีนใต้” จะสงบ-เรียบนิ่ง แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย แนวโน้มที่ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” จะลุกพึ่บๆ พั่บๆ ขึ้นมาภายในช่วงเวลาอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล ย่อมมีความเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที!!!