xs
xsm
sm
md
lg

ทางออกและการหยุดยั้ง โศกนาฏกรรมในสังคมไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

แม้ว่าจะระส่ำระสายไปเพราะความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ แต่ตอนนี้เหมือนจะตั้งหลักได้แล้วเมื่อนับจำนวนมือในพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูจะยังเหนือพรรคฝ่ายค้านไปไม่น้อย ท่าทีและการแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงดูมั่นใจมากขึ้น แม้จะมีรอยขอบตาช้ำเมื่อเขาปรากฎตัวผ่านสื่อเหมือนกับคนที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ตาม

วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์คงจะฝันไปไกลถึงเวทีเอเปกที่เขาจะไปยืนเฉิดฉายกับบรรดาผู้นำโลกทั้งหลาย

ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์วันนี้ไม่น่าจะใช่ฝ่ายค้านหรือเกมการเมืองในสภา แต่เป็นความขัดแย้งแตกร้าวที่เกิดขึ้นในสังคมไทยของคนต่างรุ่นที่ฝ่ายหนึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมค่านิยมแบบใหม่ และพวกเขากำลังเติบโตขยายตัวขึ้นเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม ในขณะที่คนรุ่นเก่าที่ต้องการรักษาจารีตแบบเก่าค่อยๆ ร่วงโรยไป

การเมืองนั้นแก่งแย่งแข่งขันกันไปตามเกม วันนี้ฝ่ายตรงข้ามกันวันหน้าอาจจะจับมือเป็นฝ่ายเดียวกันเป็นแบบนี้มาเนิ่นนานไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความทรุดโทรมของการเมืองและระบอบที่ดำรงอยู่ แต่ความคิดของคนรุ่นใหม่วันนี้ไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขาถูกปลูกฝังให้เชื่อว่า ระบอบที่ดำรงอยู่นั้นไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องและต้องเปลี่ยนแปลงให้ได้

พวกเขาไม่มีความหวังในสังคม พวกเขาไม่เชื่อมั่นในระบอบที่ดำรงอยู่จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีได้ และพวกเขาเชื่อว่าองคาพยพและโครงสร้างของสังคมที่เป็นอยู่นี่แหละที่กัดกร่อนประเทศไทยให้ย่ำอยู่กับที่

พวกเขาเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์บนท้องถนน แม้ความคิดนี้จะท้าทายความเชื่อศรัทธาของคนรุ่นเก่าจำนวนมาก แต่ยิ่งกว่านั้น ความคิดเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเขาเป็นเพียงสารตั้งต้นที่มีจุดมุ่งหมายที่แท้จริงไปมากกว่านั้น ถ้าเราสดับเสียงของพวกเขาในการชุมนุมหรือการส่งเสียงแบบไร้ตัวตนในโซเชียลมีเดียก็จะรู้ว่าแท้จริงเขามีความคิดที่มากกว่า “ปฏิรูป”

เสียงเรียกร้องให้ลดทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ดังมานานแล้วจากคนอย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลที่ลี้ภัยไปฝรั่งเศส แต่วันนี้เสียงของเขาได้รับการขานรับอย่างเป็นรูปธรรมจากคนรุ่นใหม่จำนวนมาก พวกเขามีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุลเป็นแกนนำและความหวังของพวกเขา

แม้วันนี้ทั้งธนาธรและปิยบุตรจะถูกอัปเปหิออกจากการเมืองชั่วคราว แต่ระยะเวลานั้นก็ไม่นานเกินรอไปสำหรับพวกเขาทั้งสอง ที่สำคัญพวกเขาได้ลงหลักปักฐานพรรคการเมืองที่เหมือนเป็นตัวแทนของคนรุ่นเขาที่ต้องการท้าทายสถาบันพระมหากษัตริย์เอาไว้แล้วในทางการเมือง ทำให้พวกเขามีความชอบธรรมที่จะเคลื่อนไหวแสดงออกเหมือนที่พวกเขาพูดถึงการใช้งบประมาณของหน่วยราชขการส่วนพระมหากษัตริย์ในสภา หรือการประกาศจะแก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ

เป้าหมายของพวกเขาก็คือการเดินไปสู่เป้าหมายแรกนั่นคือการลดทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้ก้าวเดินไปสู่เป้าหมายต่อไปที่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่านั้น

วันนี้พวกเขามีโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่ทรงพลัง พวกเขามีสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะเป็นกระบอกเสียง เราจึงเห็นสื่อมวลชนกล้านำเสนอข่าวที่แหลมคมและท้าทายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น และยากมากที่อำนาจรัฐจะทัดทานกับกระแสคลื่นของกาลเวลาได้

ถึงจะมีเสียงของบรรดาขุนพลองครักษ์ที่จะพิทักษ์ความเชื่อและศรัทธาของสังคมไทยออกมาส่งเสียงทัดทานเพียงใดก็ไม่มีความหมายหรอก เพราะพวกเขาเชื่อและรับฟังอยู่ในกลุ่มของเขา

แม้ว่าการชุมนุมของคนรุ่นใหม่บนถนนจะเงียบไปแล้ว เพราะแกนนำหลายคนถูกดำเนินคดีทั้งที่ยังถูกจองจำอยู่และปล่อยตัวออกมาแบบมีเงื่อนไข แต่ใช่ว่าความมุ่งหมายของพวกเขาจะลดลง เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อและความคิดของพวกเขาที่ถูกปลูกฝังลงไปได้

พวกเขาคงรอคอยเงื่อนไขของเวลาที่เป็นต่อ ชีวิตที่จะอยู่อย่างยืนยาวมากกว่า ที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นมาวันใดวันหนึ่งที่อีกฝ่ายอ่อนแอเพื่อพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินไปตามอุดมการณ์ที่พวกเขามุ่งหวัง

ถึงตอนนี้ยังดูไม่ออกเลยว่าอำนาจเก่าที่อ่อนล้า ค่านิยมสังคมแบบเก่าที่อ่อนแรงจะทัดทานกับคลื่นของการเปลี่ยนแปลงที่โหมกระหน่ำมาได้อย่างไร ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดจากกระแสภายนอกเท่านั้น แต่มันจะเกิดจากใจกลางของอำนาจเก่าที่คอยกัดกินทำลายความเชื่อและความศรัทธาของตัวเองให้ตกต่ำลงด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นการอยู่ในอำนาจรัฐแปดปีของ 3 ป.ก็ถูกเอาไปอิงแอบว่าเป็นฐานค้ำยันอำนาจเก่า ก็ไม่ได้ใช้โอกาสทำให้เกิดความเชื่อและความศรัทธาขึ้นมาได้ว่าจะพาไปสู่สังคมที่ดีกว่า แต่กลับนำพาอำนาจรัฐไปสู่การแก่งแย่งผลประโยชน์ คอร์รัปชั่น จนกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของคนรุ่นใหม่ที่เขาเชื่อว่าพวกเขาต้องการสังคมที่ดีกว่านี้และสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ด้วยมือของคนรุ่นเขา

วันนี้คนที่ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นคนส่วนมากและไม่ยอมให้ความคิดที่ต้องการลิดรอนกระทำการได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องสนับสนุนการดำรงอยู่ของ 3 ป.เพราะเชื่อว่านี่เป็นขอนไม้เดียวที่จะเกาะเกี่ยวได้ในกระแสน้ำเชี่ยวได้ แต่ 3 ป.ก็ไม่ได้สำเหนียกเลยว่า ความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายอยู่ในอนาคตข้างหน้านั้นจะต้องหาทางออกอย่างไรที่จะตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงนั้นให้ได้

พูดง่ายๆ ว่าพวกเขาเชื่อว่ากลไกรัฐ อำนาจ กฎหมายและกองทัพที่หนุนหลังจะเป็นเครื่องมือที่จะตั้งรับการความท้าทายและกระแสคลื่นที่กำลังจะโหมซัดมาได้ตลอดไป แต่พวกเขาไม่ได้เรียนรู้กับกฎอนิจจัง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่งคงที่อยู่อย่างเดิมได้ตลอดไป ขึ้นอยู่กับว่าจะเปลี่ยนแปลงช้าหรือเปลี่ยนแปลงเร็วเท่านั้น แต่ที่แน่ๆ ก็คือสิ่งต่างๆ ทั้งหมดจะถูกกาลเวลาทำให้เปลี่ยนแปลงเปลี่ยนสภาพไปอย่างแน่นอน สิ่งใดมีการเกิดขึ้นในตอนต้น สิ่งนั้นแม้จะคงมีอยู่ในท่ามกลาง แต่ก็ยังต้องมีความเสื่อมสลายดับไปในที่สุด

นั่นหมายถึงพวกเขาไม่สามารถตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงด้วยอำนาจและปืนได้ พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งคนรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นและเติบโตขึ้นตามกาลเวลาได้ แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องทำให้คนรุ่นใหม่เชื่อว่า เราจะนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาคตที่ดีได้ ด้วยการทำให้เห็นว่าการเมืองที่ดี การใช้อำนาจรัฐที่เป็นธรรมนั้นมีอยู่จริง แม้มันอาจจะยากอยู่ที่จะไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อความคิดที่คนรุ่นใหม่ถูกปลูกฝังเอาไว้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่างของความชั่วร้ายที่พวกเขาเอามาอ้างได้

ถามว่าวันนี้คนรุ่นใหม่คนวัยทำงานที่ถูกปลูกฝังให้ด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นมีมากไหม ก็ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่ของคนรุ่นใหม่มีความเชื่อและทัศนคติเช่นนี้ เราอาจจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อและความคิดของพวกเขาไม่ได้ แต่เราต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าจารีตค่านิยมของสังคมที่ดำรงมานั้นมีความดีงามที่จะต้องรักษาไปอย่างไร แม้ว่าสิ่งที่เราทำจะถูกหมางเมินจากพวกเขาก็ตาม

นั่นหมายความว่าเราต้องไม่ทำให้เขาเห็นการเมืองที่ชั่วร้าย การใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม การหาผลประโยชน์จากอำนาจ เพื่อให้พวกเขาเห็นว่าบ้านเมืองยังมีความหวังที่จะฝากอนาคตเอาไว้ได้

ไม่ว่าฝ่ายไหนคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ล้วนต้องการสังคมที่ดี เราจึงควรจะหาทางออกร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความสูญเสีย เรายังมีเวลาที่จะแก้ไขและหันหน้าเข้าหากันเพื่อจะใช้สติยั้งคิดและร่วมมือกันเพื่อหนทางที่กว่าได้ แต่ผู้มีอำนาจในวันนี้ก็ต้องตระหนักด้วยว่า จะไม่ทำตัวเป็นปัญหาเสียเอง อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ทำไป อะไรที่เลวก็งดเว้นเสีย

ถ้าหากเราต่างช่วยกันแก้ไขเปลี่ยนแปลง โศกนาฏกรรมในสังคมที่ตั้งเค้าอยู่ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น