xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตยูเครน...ยังไม่ถึงกับต้อง“หูแหก-ตาแหก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



ปิดฉากสัปดาห์นี้...ก็ยังไม่ถึงกับต้อง “หูแหก-ตาแหก” หรือ “ขนหัวลุก-ขนคอตั้ง” อะไรกันมากมายหรอกทั่น!!! เพราะการที่รัฐบาลหมีขาวรัสเซีย เขาประกาศ “รับรองเอกราช” ของประเทศ “Donetsk” และ “Lugansk” ที่เป็นถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของยูเครน รวมทั้งส่งทหารจาก “กองกำลังรักษาสันติภาพ” หรือ “CSTO” ที่เคยส่งไปช่วยประเทศคาชัคสถานจากความวุ่นวายในการประท้วงเมื่อช่วงเดือนมกราฯ ฯลฯ ที่ผ่านมา เข้าไปในดินแดนทั้งสอง อันที่จริง...ต้องถือว่าอาจเป็นตัวช่วยไม่ให้เกิดรายการ “ตึงตัง-ตูมตาม” อย่างที่เริ่มๆ ทำท่าว่าจะเกิดเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หรือช่วยไม่ให้เกิดฉากเหตุการณ์แบบที่เคยๆ ว่ากันว่าประมาณ “สงครามล้างเผ่าพันธุ์” เอาเลยถึงขั้นนั้น ในการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนกับฝ่ายกบฏแยกดินแดนเมื่อช่วงประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว....

อีกทั้งเมื่อกองทัพ กองกำลังของ “นาโต” เขาไม่ได้คิดจะมาตั้งรับ หรือคิดจะมาสู้กับกองทัพรัสเซียกันภายในประเทศยูเครนเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ถอยกรูดไปออกันอยู่แถวๆ ประเทศลัตเวีย ลิทัวเนีย หรือเอสโตเนีย ฯลฯ โน่นเลย ไม่ว่าจะเป็นทหารอเมริกัน อังกฤษ แคนาดา ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆ ที่คงต้องออกอาการฮึดๆ ฮัดๆ กันไปตามสภาพ ด้วยเหตุเพราะยูเครนนั้น...ยังไม่ได้ถือเป็นหนึ่งในสมาชิกของ “นาโต” ที่จะต้องส่งกองทัพ กองทหาร เข้าไปปกป้อง คุ้มครอง ตามสัญญาตามข้อตกลงมาตรา 5 ของนาโต ดังนั้น...สิ่งที่ส่งๆ เข้าไป ก็คงมีแต่รถถัง จรวด และอาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ ต่างๆ รวมทั้ง “เงินช่วยเหลือ” ไปตามมี-ตามเกิด ด้วยเหตุนี้ “กองทัพยูเครน” ที่เล็กกว่า ศักยภาพน้อยกว่า “กองทัพรัสเซีย” แบบชนิดแทบเทียบกันไม่ได้ เขาก็คงพอที่จะรู้จักบันยะ-บันยัง ไม่ได้คิดจะ “ตาย-เป็ง-ตาย” กันมากมายสักเท่าไหร่นัก หรือมันยังมี “พื้นที่” สำหรับการพูดคุยเจรจา การหาทางออกทางการทูตอยู่อีกเยอะ ไม่จำเป็นถึงกับต้อง “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” แต่เพียงลูกเดียวเท่านั้น...

หรือว่าไปแล้ว... “วิกฤตยูเครน” คราวนี้ ยังน่าจะ “เบา” กว่า “วิกฤตคิวบา” เมื่อช่วง 50-60 ปีที่แล้ว ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะครั้งนั้น...คุณพ่ออเมริกาท่านออกอาการฮึดๆ ฮัดๆ หนักซะยิ่งกว่าหมีขาวรัสเซียครั้งนี้ แบบชนิดหวิดๆ จะกลายเป็นการจุดชนวน “สงครามโลกครั้งที่ 3” เอาเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงแต่ส่งเรือรบ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินตรวจการณ์ ฯลฯ แล่นไป-แล่นมาทั่วน่านน้ำสากล ห้ามไม่ให้เรือรัสเซียเข้ามาในรัศมีใดๆ ได้โดยเด็ดขาด ถึงขั้นเปิดฉากยิง เปิดฉากทิ้งระเบิดกดดันเรือดำน้ำรัสเซีย ที่บรรทุกขีปนาวุธนิวเคลียร์เอาไว้เพียบ แต่สุดท้าย...ทุกสิ่งทุกอย่างก็พอคลี่ๆ คลายๆ ลงไปได้ เมื่อทั้งผู้นำอเมริกาและผู้นำสหภาพโซเวียตรัสเซีย พร้อมที่จะถอยกันคนละก้าว อเมริกาเลิกกดดันโซเวียตด้วยการถอนขีปนาวุธที่ติดตั้งไว้ในอิตาลีและตุรกี ขณะที่โซเวียตรัสเซีย เลิกคิดที่จะขนจรวดนิวเคลียร์ไปไว้ในคิวบา...

ด้วยเหตุนี้...แค่ผู้นำรัสเซียยุคปัจจุบัน อย่างประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ท่านตัดสินใจส่งทหารกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปใน “Donetsk” และ “Lugansk” อันเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยชาวยูเครนเชื้อชาติรัสเซีย และยังอาจเต็มไปด้วยทหารรัสเซียมาแล้วก่อนหน้านั้น หรือเป็นพื้นที่ที่กองทัพและรัฐบาลยูเครน ไม่อาจเกลี้ยกล่อม โน้มน้าวให้ร่วมกัน “โปรตะวันตก” เหมือนกับรัฐบาลมาโดยตลอด จนต้องหาข้อยุติ หาจุดลงตัว ด้วยข้อตกลง “The Minsk Agreement” มาตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว อีกทั้งผู้นำรัสเซียท่านก็ป่าวประกาศว่า ไม่ได้คิดจะเข้าไปรบ ไปยิงกับทหารยูเครนกันลูกเดียว โดยเฉพาะถ้าหากรัฐบาลยูเครนนั้น พร้อมที่จะ “เลิกโปรตะวันตก” แบบสุดลิ่มทิ่มริดสีดวงทวาร หรือพร้อมคิดสมัครเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนาโต รวมทั้งถ้าหากคุณพ่ออเมริกาและตะวันตก ยอมที่จะให้ “หลักประกัน” ตาม “ข้อเสนอ” ของรัสเซียที่ส่งไปยังอเมริกาและนาโตมาก่อนหน้านั้น ว่าจะไม่ขยายอำนาจอิทธิพล (Enlargement) เข้าไปถึงปากประตูบ้านของรัสเซีย หรือไม่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับประเทศรัสเซียหลังจากยุค “สงครามเย็น” เป็นต้นมา ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็น่าจะเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ พูดคุยเจรจากันได้ไม่ยากส์ส์ส์ หรือยังพร้อมที่จะ “เปิดพื้นที่ทางการทูต” เอาไว้เสมอๆ...

ดังนั้น...ในเมื่อคุณพ่ออเมริกาและนาโต ท่านยังไม่คิดจะทำตาม “ข้อเสนอ” ของรัสเซีย สิ่งที่คงต้องดำเนินต่อไป ก็คงหนักไปทางการงัดเอามาตรการ “แซงชั่น” นานาชนิด ออกมากดดัน เล่นงาน รัสเซียนั่นแหละเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล บุคคล ระบบธุรกิจ การเงิน-การทอง ไปจนถึงท่อแก๊ส ท่อขนส่งพลังงานของรัสเซีย ฯลฯ คงต้องถูกคว่ำบาตรชนิดระเนนระนาดอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ แต่ก็อย่างที่ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ของรัสเซีย หรือโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน “นางหัว ชุนอิง” (Hua Chunying) ที่ “ปากคม” ไม่น้อยไปกว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย คุณ “มาเรีย ซาคาโรวา” เธอได้ออกมากางสถิติให้เห็นกันจะจะระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนช่วงวันพุธ (23 ก.พ.) ที่ผ่านมานั่นแหละว่า ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศ “ผู้นำโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกา ได้หันมา “แซงชั่น” ใครต่อใครที่จำต้องอยู่ร่วมกันภายในโลกใบเดียวกันนี้ไม่ต่ำไปกว่า 3,800 ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา...

ด้วยเหตุนี้...มาตรการ “แซงชั่น” ต่อรัสเซียนับจากนี้ ไม่ว่าจะหนักหน่วง หนักหนาสาหัสไปถึงขั้นไหน นอกจากไม่ได้ถือเป็นการช่วย “แก้ปัญหา” ใดๆ ต่อกรณี “วิกฤตยูเครน” อย่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนท่านว่าไว้ ก็ยังไม่น่าจะถึงกับทำให้หมีขาวตัวนี้ ต้องตายโหง-ตายห่า ถึงขั้นต้องคิดถอนตัว ถอนทหาร ออกไปจากดินแดน “Donetsk” และ “Lugansk” เอาง่ายๆ เพราะนอกจากจะเคยถูก “แซงชั่น” จากคุณพ่ออเมริกาจนน่าจะ “ชินซะแล้ว” การแอบขนเงินดอลลาร์เตรียมเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินนับเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์ของรัสเซีย ก็คงถือเป็นการเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วล่วงหน้า แต่สิ่งที่อาจกลายเป็น “ผลในทางตรงกันข้าม” นี่แหละ...ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือไปๆ-มาๆ ผู้ที่อาจต้องแบกรับภาระจากการแซงชั่นรัสเซีย อย่างชนิดหนักหนา สาหัสไม่น้อยไปกว่ากัน อาจกลับเป็นคุณพ่ออเมริกาและบรรดาประเทศยุโรปทั้งหลาย ทั้งปวงซะมากกว่า!!!

เพราะอย่างที่สถาบันวาณิชธนกิจระดับโลก อย่าง “JP Morgan” เขาได้ออกมาให้ความคิด ความเห็น กับสำนักข่าว “CNN” เมื่อช่วงวันอังคาร (22 ก.พ.) ที่ผ่านมานั่นแหละว่า การแซงชั่นประเทศที่ถือเป็นผู้ผลิตพลังงานนอกโอเปกสูงที่สุดในโลก อย่างรัสเซียนั้น ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบพลังงานทั่วทั้งโลก ต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ยังมีส่วนกระทบต่อปัญหา “ภาวะเงินเฟ้อ” ที่ทำให้บรรดาประเทศยุโรปและอเมริกา แทบกลายเป็น “ประเทศเงินเฟ้อ” ไปแล้วในทุกวันนี้ คือการประกาศปิดท่อส่งแก๊ส ไม่รับแก๊สจากรัสเซีย ตามโครงการ “Nord Stream 2” ของเยอรมนี หรือของประเทศตะวันตกทั้งหลาย ถ้าว่ากันตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน “European Studies Institute” แห่งมหาวิทยาลัย “MGIMO” อย่าง “นายOleg Barabamov” ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ “รู้ๆ กันอยู่” ว่าจะต้องออกมาในแนวนี้อยู่แล้วแน่ๆ เพราะขนาดยังไม่ทันเกิดเรื่อง เกิดราว โครงการดังกล่าวของรัสเซียก็ถูกต่อต้านโดยคุณพ่ออเมริกา จนแทบกลายเป็น “The Lost project” มาโดยตลอดการไม่สามารถส่งแก๊ส LNG ไปยังยุโรป จึงไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียต้องตายโหง ตายห่า เอาง่ายๆ ตรงกันข้าม...กลับส่งผลให้ราคาแก๊สในยุโรป พุ่งระเบิดเถิดเทิงไปถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิกเมตรไปแล้วในทุกวันนี้...

แถมยังทำให้เกิดภาวะอย่างที่อดีตผู้เชี่ยวชาญการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และธนาคารโลก อย่าง “นายHarry Broadman” สรุปเอาไว้เมื่อช่วงอังคารที่ผ่านมานั่นแหละว่า... “การแซงชั่นรัสเซียของอเมริกาและตะวันตก ทำให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างเป็นเนื้อ-เป็นหนัง ก็คือ...ประเทศจีน” หรือทำให้การหันไปซื้อแก๊ส ซื้อน้ำมัน หรือซื้อ-ขายอะไรต่อมิอะไรกับรัสเซียของ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ที่พร้อมจะ “Back-to-Back” กันไปโดยตลอดอย่างคุณพี่จีน ยิ่งเป็นไปในแบบระเบิดเถิดเทิงยิ่งขึ้นไปอีก ขณะที่มหาอำนาจคู่แข่งอย่างอเมริกาและยุโรปอาจต้องเจอกับวิกฤตพลังงาน วิกฤตภาวะเงินเฟ้อ ชนิดระบบเศรษฐกิจอาจถึงขั้นต้อง “ถดถอย” อย่างเป็นระบบเอาเลยก็ไม่แน่!!! แถมยังไม่อาจช่วยแก้ปัญหาต่อ “วิกฤตยูเครน” ได้เลยด้วยเหตุนี้...ถ้าหากยังไม่ถึงกับเกิดการ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาอย่างเป็นเรื่อง-เป็นราว ยังเป็นเพียงแค่การ “แซงชั่น” กันไป-กันมา ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็น่าจะ “เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนจีน” และ “โรงเรียนรัสเซีย” ไปตามสภาพ...



กำลังโหลดความคิดเห็น