ระยะนี้พรรคการเมืองเกิดใหม่มากเหมือนดอกเห็ด สะท้อนให้เห็นความคึกคักและความหวังของนักแสวงโชคลาภทางการเมือง นักเลือกตั้งอาชีพ ว่ามีโอกาสจะได้แข่งขันแจ้งเกิดถ้ามีเหตุต้องเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด จะเป็นเพราะอะไรก็ตาม
แม้ลุงห้าวเป้งได้ประกาศ “ไม่ปรับ ครม. ไม่ยุบสภาฯ ไม่ลาออก” จะขออยู่จนครบเทอม หรือจนกว่าจะทำภารกิจเพื่อเกียรติยศ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้สำเร็จ นั่นคือการได้เป็นประธานจัดการประชุมเอเปกในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน ลุงห้าวเป้งจะพาเรือแป๊ะผุด้วยสนิมขุมฟันฝ่ามรสุมและหินโสโครกให้ถึงวันครบวาระหรือไม่ ที่อยู่ทุกวันนี้ก็ป้อแป้ร่อแร่เต็มทน
ถ้าไม่มีประชุมเอเปก ป่านนี้อาจถอดใจไปแล้วก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ ลุงห้าวเป้งเป็นนักสู้ยิบตา แม้จะถูกว่าเป็นเป็ดง่อยดันทุรังก็ตาม จะอยู่ได้รอดหรือไม่ ต้องรอดูผลของการที่จะโดนถลุงหนักในศึกอภิปรายทั่วไปสัปดาห์นี้แหละว่าหนักหนาสาหัสมั้ย
ถ้าออกอาการบอบช้ำบักโกรก หรือแผลเหวอะหวะชนิดที่หมอไม่รับเย็บ สัปเหร่อไม่รับแต่งศพ โอกาสที่จะโดนซ้ำแผลเดิมแถมเปิดแผลใหม่ช่วงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤษภาคม จึงเป็นวาระที่ดูแล้วน่าสยดสยองไม่น้อย
ยังมีอุปสรรคอีกเยอะ ทั้งเรื่องคดีความที่มีนักร้องไปร้อง และประเด็นอยู่ครบวาระ 8 ปี จะได้ไปต่อหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินโดยกฎหมาย
เส้นทางสู่อนาคตอีก 1 สมัยหลังจาก 8 ปี ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องดูว่าพรรคที่ตั้งขึ้นมาจะสามารถกวักมือเรียกคนมีศักยภาพเข้ามาร่วมหรือไม่ หรือต้องใช้พลังกล้วยดูดแบบตกปลาในบ่อเพื่อน ความนิยมของลุงห้าวเป้งจะยังเหลือแค่ไหน
ที่ผ่านมาทำโพลก็ไม่เคยได้มาอันดับ 1 ต้องเป็นรอง “ยังไม่มีคนเหมาะสม” คิดดูแล้วน่าน้อยใจ อยู่มานานกว่า 7 ปี ยังไม่เป็นที่นิยม แถมยังมีคนอยากขับไล่เช้าเย็น
ถ้าลุงห้าวเป้งมีบุญวาสนาเหลือ อาจจะได้เป็นประธานที่ประชุมเอเปก แต่ต้องรอดูว่าวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนจะทำให้เกิดสงครามหรือไม่ ถ้าเกิดจะยืดเยื้อหรือลุกลามไปมากน้อยเพียงใด โอกาสที่ผู้นำรัสเซีย สหรัฐฯ ประเทศอื่นๆ จะมาประชุมมีหรือไม่
ถ้าผู้นำชาติมหาอำนาจไม่มา หรือต้องจัดประชุมผ่านระบบวิดีโอ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเกียรติยศไม่เต็มสูบ ยังดีกว่าไม่มี แต่ถ้ามีวิกฤตสงครามอย่างนั้น จะยังมีประชุมหรือไม่ ถ้ามีจะเรียกร้องความสนใจของประชาคมโลกได้มากแค่ไหน
นั่นเป็นอีกปัญหาหนึ่ง แต่ที่พอจะเดาได้ก็คือลุงห้าวเป้งอยากอยู่ต่อ จึงมีบริวารคนรู้ใจจัดการตั้งพรรคการเมืองรองรับ ให้มีโอกาสเสนอชื่อเป็นคู่ชิงนายกฯ อีกวาระ
“รวมไทยสร้างชาติ” นั่นคือพรรคสำรอง ถ้าลุงห้าวเป้งไม่สนใจพรรคพลังประชารัฐ หรือต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจชุบมือเปิบตีกิน โดยไม่ต้องสมัคร ส.ส.แบบไหน ขอว่ากันง่ายๆ คือ “เป็นนายกฯ อย่างเดียว” ไม่ต้องทดสอบความนิยมกับเสียงประชาชน
คำว่า “สร้าง” ได้รับความนิยมในการเมืองยุคนี้ ตั้งแต่คุณหญิงเจ๊หน่อยตั้งพรรคชื่อ “ไทยสร้างไทย” ก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็มี “พรรคสร้างอนาคตใหม่”
เป็นคำฮิตประจำยุค ก่อนหน้านี้นิยมคำว่า “เสรี” นำหน้าหรือตามหลังในช่วงที่การเมืองเสรีนิยม ประชาธิปไตยเบ่งบาน การค้าเสรี เสรีภาพ การตลาดเสรี อะไรโน่น
“เสรีนิยม” เป็นยุครัฐบาลทหารเพียบ ไม่เอาอะไรที่ใกล้กับลัทธิคอมมิวนิสต์
จากนั้นมาฮิตเมื่อการเมืองแบบสังคมนิยมมาฮอต พรรคการเมืองตั้งมาต้องมีคำว่า “สังคม” เช่น “ธรรมสังคม” ของเสี่ยทวิช กลิ่นประทุม และ “กิจสังคม” ของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช บางช่วงคำว่า “ประชา” ก็ฮิต แต่ไม่แรงมาก
ช่วงที่เป็นสังคมนิยม พวกที่เคยสังกัดพรรค “เสรี” ทั้งหลายก็หันมาตั้งพรรคหรือย้ายพรรค เข้าสังกัดพรรคอะไรที่สะท้อนให้เห็นแนวคิดการเมืองสังคมนิยม ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เพลงเพื่อชีวิตชาวนากรรมาชนกระหึ่ม
ถึงได้บอกว่านักเลือกตั้งเปลี่ยนสี เปลี่ยนลายได้ จากขวาสุดโต่งมาซ้ายสุดขั้ว ทำอะไรก็ได้ ขอให้แหกตาชาวบ้านเพื่อตัวเองได้รับเลือกตั้งเท่านั้น คำว่าอุดมการณ์จึงไม่เคยมีในการเมืองน้ำเน่าแบบไทยๆ มีแต่ผลประโยชน์ที่เป็นเดิมพันของการลงทุน
ทำไมคำว่า “สร้าง” จึงได้รับความนิยมให้เป็นชื่อพรรค หรือว่าบ้านเมืองได้เสื่อมทรุดด้านโครงสร้าง เหลือกำลังลาก ต้องรื้อแล้วสร้างใหม่ “พรรคสร้างอนาคตใหม่” ของกลุ่ม 4 กุมารอ้วนพี คงรู้ว่าบ้านเมืองมีเศรษฐกิจซบเซาตายซากเรื้อรัง
ไม่มีใครบอกได้ว่าจะฟื้นฟูหรือ “สร้าง” เสริมรากฐานของประเทศให้แข็งแกร่งอย่างไร ฝีมือของลุงห้าวเป้งทำให้หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ สูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และรัฐบาลอยู่ในสภาวะ “ถังแตก” เรื้อรัง ไร้ทางออก ที่แข็งอยู่คือ “ปากลุง”
จากภาพที่เห็นอยู่ และหน้าตาของนักเลือกตั้งที่อยู่ในวงจร แทบไม่เห็นอนาคตของประเทศว่าจะไปได้อย่างไร ถึงจะเปลี่ยนรัฐบาลก็ตาม แต่ก็ยังมีคนมองว่าขอให้เปลี่ยนจากลุงห้าวเป้งก็แล้วกัน จะได้มีช่องทางบ้าง ดีกว่าอยู่ในช่องอุดตันไร้ทางออก
ดูฝีมือชื่อชั้นของนัก “สร้าง” บางพวก ยังไม่รู้ตัวว่าที่ผ่านมานั้นเป็นตัวสร้างปัญหาให้บ้านเมือง พรรคร่วมรัฐบาลนี้ต้องไม่หนีความรับผิดชอบว่าได้เป็นตัวก่อปัญหาและสร้างวิกฤตให้กับบ้านเมืองเพราะไปอุ้มลุงห้าวเป้งให้อยู่ในอำนาจ
ความเสียหายช่วงกว่า 7 ปี จึงต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลรับผิดชอบ จะทำเป็นแกล้งเซ่อไร้เดียงสาหน้าซื่อตาใสไม่ได้ ประชาชนต้องจำไว้ให้ดี โดยเฉพาะนักกำจัดคราบสกปรกบนท็อปบูต แต่ปากอ้างว่าต่อต้านเผด็จการนั่นแหละตัวดีนัก