“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ทำไมชาติกับประชาชนไทยจึงโชคร้ายนักหนา! ในสภาฯ ส่วนใหญ่ จึงมีแต่“นักการเมืองเลว” นั่งกันหน้าสลอน?
ไม่ต้องทำโพลล์ก็รู้ได้ว่า สิ่งที่“คนไทย”ต้องการมากที่สุด คือ“นักการเมืองดีมีคุณภาพ” ซื่อสัตย์ รักชาติกับประชาชนอย่างจริงใจ..
ปีนี้ การเมืองไทยจะครบ 90 ปี! นับแต่“คณะราษฎร”ทำรัฐประหาร เปลี่ยนการปกครองเป็น ระบอบ“ประชาธิปไตยเลือกตั้งทุนสามานย์” ได้ลอกเลียนแบบตาม“ชาติตะวันตก”ทั้งดุ้น โดยไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ของชาติกับประชาชนในหลากมิติ แม้จะมี“เรื่องดี”ให้เห็นอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ก็มี“เรื่องเลวร้าย”อยู่มากมหาศาล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญๆที่ชี้เป็นชี้ตาย จนทำให้ชาติไม่เจริญเท่าที่ควร และทำให้ชีวิตประชาชนส่วนใหญ่ ไม่หลุดพ้นจากความยากไร้ ฯลฯ
หลังยึดอำนาจรัฐได้ “นักการเมืองเลือกตั้ง”มักจะคอร์รัปชั่นโกงชาติ เพื่อแสวงหาและกอบโกย“เงินทอง”เข้ากระเป๋าตนเองกับพลพรรค สะสมไว้เป็น“เสบียงกรัง” สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะ“การเลือกตั้งไทยสกปรก”ซื้อเสียงได้ และโกงได้สารพัดด้วยนะเว้ยเฮ้ย..!
ดังยุคของมหาเศรษฐี“ตามองฟ้าเท้าติดดิน” ที่เป็น“นักธุรกิจการเมือง” เข้ามาลงทุนด้วยเงินทองมหาศาล สร้างภาพสวยหรู เป็น“คนรุ่นใหม่หน้าเหลี่ยม” เท่เก๋ไก๋กับ“คำพูด”ที่น่าเชื่อถือ ทั้งๆที่เป็นการโกหกหลอกลวงผู้คนหน้าด้านๆว่า..
“เชื่อผมสิ.. ผมรวยแล้ว ผมมีเงินเยอะ ใช้ชาตินี้ก็ไม่หมด.. ผมมีอำนาจเมื่อไหร่ จะไม่โกงชาติแน่นอน”!!!
ต้องบอกตรงๆ ว่า ห้วงนั้นกระแส“..คำพูดของคนรวยหน้าเหลี่ยม น่าเชื่อถือที่ซู้ดดด..” ทั้งต่อ“นักการเมืองเลือกตั้ง”ใหญ่น้อย! “ข้าราชการ”ทุกกระทรวงทบวงกรม! “นักวิชาการ”วัยละอ่อนกับเฒ่าชะแลแก่ชรา! “สื่อมวลชน”ชายหญิงทุกสาขา! “ประชาชน”ทุกวิชาชีพ ฯลฯ ต่างพากันร้อง“ว้าวๆๆ!!!” เพราะหลงใหลได้ปลื้ม“ลมปากมหาเศรษฐีเหลี่ยม”
การเลือกตั้งครั้งนั้น! ประชาชนยังไม่รู้“สันดาน”เอาแต่ได้ไม่รู้จักพอ จึงพากันไปลงคะแนนเสียงให้บรรดา“ผี-นักการเมือง”อย่างท่วมท้น ทำให้“พรรคเหลี่ยม”ได้“ส.ส.”เกินครึ่งสภาฯ มากเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองของชาติไทยเลยล่ะ..
นั่นทำให้มหาเศรษฐีได้เป็น“นายกรัฐมนตรีหน้าเหลี่ยม” สมใจนึกบางพลัด “คุณหญิงเพิงหมาแหงน”หรือ“นายใหญ่หญิง” กับบรรดา“ลูกชายหญิงทองแท้”ทั้งสามหน่อ ได้เฮฮาปาร์ตี้บันเทิงเริงรมย์อย่างสนุกสนาน..
ทว่า..เรื่องควรจะ“โชคดี”กลับเป็น“โคตรโชคร้าย” เพราะแทนที่มหาเศรษฐี“นายกฯเหลี่ยม”กับ“ครอบครัว” จะสั่งสมความดี สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล เป็น“ทองแท้จริง” ด้วยการเสริมส่งทำโครงการดีๆให้ชาติกับประชาชน ตาม“คำประกาศ”ของ“เหลี่ยม”ที่ว่า “..ผมรวยแล้วจะไม่โกงชาติแน่อน” หรือพูดแบบชาวบ้านว่า “กูรวยเป็นมหาเศรษฐีแล้ว..ชาตินี้กูไม่โง่เสียชื่อเพราะโกงชาติหรอกโว้ย”!!!
รัฐบาล“นายกฯเหลี่ยม”กับเครือข่าย ใช้อำนาจรัฐโกงชาติไม่รู้จักพอ ความชั่วที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ถูกเปิดโปงอย่างครึกโครม จนประชาชนผู้รักชาติและเสียสละกับกล้าหาญ ในนาม“พธม.”และ“กปปส.” ต้องออกมาต่อสู้ด้วยวิธีสันติอหิงสา ยืนหยัดขับไล่“นายกฯเหลี่ยม”กับรัฐบาลเครือข่าย ที่โกงชาติและบังอาจ“ล้มเจ้า”นานแรมปี..
แต่“เผด็จการรัฐสภาเหลี่ยม” กลับใจอำมหิต ได้ใช้กลไกรัฐ จับกุมคุมขัง กับใช้อันธพาลการเมือง เข่นฆ่าทำร้ายประชาชนอย่างป่าเถื่อน จนบาดเจ็บล้มตายมากมาย
ในที่สุด ความบ้าอำนาจของ“นายกฯเหลี่ยม”กับรัฐบาลเครือข่าย ที่ได้ทำชั่วต่อชาติกับประชาชน ก็ถูก“คณะนายทหาร” ออกมาทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง เป็นการ“ตัดอำนาจรัฐอธรรม” ของบรรดา“นักการเมืองเลว”ด้อยคุณภาพ มิใช่“รัฐบาลประชาธิปไตยเลือกตั้งของประชาชน”อย่างแท้จริง
นี่แหละ..“ประชาธิปไตยเลือกตั้งทุนสามานย์” ที่ลอกแบบมาจากชาติตะวันตกทั้งดุ้น ชาติไทยมี“นักการเมือง”มานานเกือบ 90 ปี ไม่ได้ทำให้ชาติเจริญมั่นคงมั่งคั่ง คุณภาพชีวิตประชาชนไม่ดีขึ้นอย่างที่ควร
แต่..“นักการเมือง-ข้าราชการ-นักธุรกิจ”ใหญ่น้อย กลับร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น“ประชาธิปไตยทุนสามานย์” ที่ส่วนใหญ่มีแต่เรื่องทำร้ายทำลายความมั่นคง ของชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตตราบปัจจุบันจรดอนาคต..
“นักการเมือง” หลังชนะการ“เลือกตั้ง” ยังมักเป็น“รัฐบาลเผด็จการรัฐสภาฯ” มุ่งแต่โกงชาติ กอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวและพวกพ้อง ซ้ำร้ายบางรัฐบาลเหิมเกริมบังอาจ“ล้มเจ้า”! การเมืองไทยจึงอยู่ในสภาพเน่าแล้วเน่าอีก โกงแล้วโกงอีกไม่รู้จักพอ ถึงขั้นไม่รู้จักเรื่องควรไม่ควร ไม่แยกแยะเรื่องถูกเรื่องผิด ฯลฯ
เรียกว่า..“นักการเมืองไทย”ต้องเก่งโกง เก่งโกหก ทำให้การเมืองไทยเป็น“มหกรรมโกงบวกโกหก”ไปแล้ว..เฮ้อ..ช่างน่าขยะแขยงจริงๆว่ะ..
เรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ ดำเนินมาตลอดจนทุกวันนี้ แม้จะเป็น“สิ่งไม่พึงปรารถนา”อย่างยิ่ง ทั้งต่อชาติกับประชาชน ทว่า“นักการเมืองเลือกตั้ง”ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาจนทุกวันนี้ ก็ยัง“ไม่คิดเปลี่ยนตัวเอง” ให้เป็น“นักการเมืองดีมีคุณภาพ” ที่รักชาติและรักประชาชนอย่างแท้จริง
นี่มันเป็น“การเมืองทำลาย” มากกว่า“การเมืองสร้างสรรค์”ไปแล้วนะโว้ย.!.
เมื่อการเมืองประชาธิปไตยทุนสามานย์ไทย มัก“เลือกตั้งสกปรก” จากการซื้อเสียงและโกงได้ ทำให้“นักการเมืองไทย” หมกมุ่นแต่เรื่อง“ถอนทุนบวกกำไร” ด้วยการโกงชาติเป็นหลัก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง จนกลายเป็น“ต้นเหตุปัญหา”สำคัญอันดับแรกๆ ที่ทำให้“คณะนายทหาร”ใช้เป็น“ข้ออ้าง” ทำรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า เข้ายึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลเลือกตั้งไงล่ะ..จริงไหม?
การเมืองไทยได้กลายเป็นเรื่อง “หนีเสือ-ปะ-จระเข้” กับ“สมบัติชาติผลัดกันโกง” ของ“รัฐบาลเลือกตั้งโกงชาติ”ที่เป็น“เผด็จการรัฐสภา” กับ“รัฐบาลรัฐประหารไม่ปฏิรูปชาติ” ที่เป็น“เผด็จการรัฐสภาทหาร” ซึ่งใช้สารพัดเล่ห์ร้ายแก่งแย่งต่อสู้ ผลัดกันยึดและสืบทอดอำนาจรัฐ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำซากมาจนปัจจุบันไงล่ะ..
ทุกวันนี้การเมืองไทยยังคงปั่นป่วนวุ่นวาย กับการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อแย่งชิง“อำนาจรัฐ”อย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง จากฝ่าย“อดีตนายกฯเหลี่ยม”กับเครือข่าย ที่เคยโกงชาติและล้มเจ้า กับฝ่าย“นายกฯตู่”ที่ทำรัฐประหาร โค่นล้มเครือข่าย“รัฐบาลเหลี่ยม” และยังสืบทอดอำนาจรัฐต่อเนื่องนานเกือบ 8 ปี
โดยมี“เสือซุ่มทอน”กับพลพรรคอีกกลุ่ม ที่มุ่งจะยึดอำนาจรัฐหวังได้เป็น“นายกฯทอน” แต่เพราะ“ทอน”หลงผิดไปเชื่อและโกหกว่า ต้อง“ปฏิรูปเจ้า”เป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องสำคัญที่เลวร้ายอื่นๆของชาติกับประชาชน “พรรคทอน”สนใจน้อยมาก ..บอกว่า “เก็บเอาไว้ทำทีหลัง”โน่นเลย..
แต่ความลับ“ทอน”กับพลพรรคปิดไม่มิด เพราะดันไปปักหลักหนุน“ม็อบล้มเจ้า” ที่โกหกหลอกผู้คน“จะปฏิรูปพระมหากษัตริย์”เท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติทั้ง“คำพูด”กับ“พฤติกรรม” กลับเดินหน้าอย่างเปิดเผย มุ่งจะ“ปฏิวัติ”โค่นล้ม“สถาบันพระมหากษัตริย์”ลงให้ได้ โดยมี“ทอน”กับพลพรรค สนับสนุนชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู..
ศึกแย่งอำนาจโค่นล้ม“นายกฯตู่” ผู้“ไม่ทำตามคำพูด”ว่าจะ“ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง” อีกทั้งไม่ได้“แก้ต้นเหตุปัญหาต่างๆ”ของชาติ ฯลฯ ทำให้ผลงานตู่“ไม่เข้าตาประชาชน”ดังควร จน“ความน่าเชื่อถือ”ตกฮวบฮาบ
“อดีตนายกฯเหลี่ยม”ที่ควรหมดอนาคตทางการเมืองไปแล้ว สบโอกาสกลับมาผงาดอีกครั้งในนาม“โทนี ณ คลับเห่า” กระหน่ำโจมตี“ตู่” และยังมีอีแอบร่วมกับ“ต่างชาติ” ส่งเสียงเชียร์“ทอน”กับพลพรรคอีกด้วย
ส่วน“นายกฯบิ๊กตู่” ที่บริหารแบบ“เอาตัวรอดเป็นยอดดี” จึงสูญเสีย“เพื่อนพ้องน้องพี่”ไปเรื่อยๆ!
“แฟนคลับตู่”ก็ลดลงไปเรื่อยๆด้วยนะ! เสียง“ส.ส.”หนุน“ตู่”ในสภาฯก็หดหาย กลายเป็น“รัฐบาลเป็ดง่อย”อีกครั้ง เกิดความระส่ำระสายแตกแยกหนักขึ้นเรื่อยๆ..
การประชุมสภาฯ“ล่มแล้วล่มอีก”! “เรือแป๊ะตู่”ทำท่าจะล่มมิล่มแหล่! เฮ้อ..ทั้งหมดนี้ต้องโทษ“ตัวกัปตันตู่”นั่นแหละว่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า..เอิ๊ก..!!