“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ศึกสงครามการเมือง “สืบทอดอำนาจตู่” กับ “แย่งอำนาจเหลี่ยม” ในปี “เสือดุ”!
ห้วงปลายปี “วัวป่วย 2564” ด้วยไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำร้ายทำลาย“ มนุษย์” ทั้งดีกับชั่วทั่วโลก รวมทั้งส่งผลให้ “เศรษฐกิจโลกดิ่งเหว” ทุกหนแห่งจวบจนขณะนี้..
บรรดา “โหรจริง-หมอดู” ชื่อดังทั้งหลาย รวมถึง “โหนต่องแต่ง-หมอดูผสมหมอเดา” อ้างถึงผลการ “จับยามสามตา” ด้วยสารพัดสูตร ทั้งคำนวณจาก “ตัวเลข-ราศี-ลัคนา-ราหู-ดวงดาว” ฯลฯ พยากรณ์กันอุตลุดตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งต่างกันบ้าง-ใกล้เคียงกันบ้าง-ตรงกันเป๊ะบ้าง ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่สรุปค่อนข้างเหมือนกันว่า..
ห้วงปี “ขาล 2565” ที่ “เสือป่วย” ต่อจากวัว จนอาจบานปลายกลายเป็น “เสือบ้า” จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายเรื่อง ที่สำคัญจะเกิดเรื่อง “เข็มขัดสั้น” หรือเรื่อง “คาดไม่ถึง” อย่างฉับพลันนะว้อย..!
เฮ้ย!.. เมื่อบรรดา “หมอดู-หมอเดา” ทั้งหลาย ต่าง“ ฟันธงเปรี้ยง” ทางการเมืองตรงกัน เรื่องจะมีการเปลี่ยนแปลงโดย “ไม่คาดฝัน”!
งานนี้..ทำเอาคนไทยหลากอาชีพทั้งรวยจน ต่างเกิด “คำถาม” ที่รอ “คำตอบ” เอ๊ะ!..แล้วจะเปลี่ยนแปลงเรื่องอะไรบ้าง? จะเปลี่ยนแปลงกันหลายเรื่องขนาดไหน? จะเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่มากแค่ไหน?
แน่นอน..“นายกฯบิ๊กตู่” กับพรรคพวก ได้พยายามทำเรื่องสารพัด ทุกวิถีทาง เพื่อรักษาปกป้องกับสืบทอดอำนาจรัฐ อันพิกลพิการไม่สมประกอบ โดยไม่ได้แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ที่เลวร้ายต่างๆนานาของชาติ
ที่สำคัญ..ไม่ได้ปฏิรูปชาติแทบทุกมิติ ฯลฯ
เกือบแปดปีก่อน “นายกฯ บิ๊กตู่” ทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลเครือข่ายรัฐบาล “บิ๊กเหลี่ยม” และทำผิด “คำพูด” ที่ประกาศว่า จะ “ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง” ด้วย “ตู่-เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” หลงในอำนาจ จึงหันมาจัด “การเลือกตั้งไร้การปฏิรูปชาติ” มุ่งจะสืบทอดอำนาจรัฐในกำมืออย่างต่อเนื่อง ด้วยผลงานที่ผสมปนเป ทั้งเรื่องจำเป็นน้อย-จำเป็นมาก-จำเป็นมากหน่อย รวมถึงเรื่องที่จำเป็นจริงๆ ก็มีอยู่ด้วย..
ต้องยอมรับความจริงว่า โครงการที่ใช้เงินมหาศาล อย่างการขนส่งทางรางหลายเส้นทาง ถนนบางสาย รัฐบาลยังไม่จำเป็นต้องทำ เพราะไม่เร่งด่วนอะไรเลยในห้วงยากลำบาก เงินงบประมาณชาติมีจำกัด แต่รัฐบาลกลับใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ก็มีอยู่ด้วยมิใช่น้อยจริงไหม “บิ๊กตู่”?
ในปี 2564 โควิด-19 ระบาดไปทุกหย่อมหญ้า ผู้คนทั่วโลกเจ็บป่วยล้มตาย ติดเชื้อหลายร้อยล้านคน ล้มตายหลายล้านคน สภาพเศรษฐกิจตกต่ำลงเหวอย่างหนัก รายได้ของประชากรส่วนใหญ่ตกต่ำลงอย่างไม่คาดคิด..
ในเบื้องต้น “รัฐบาลบิ๊กตู่” มีผลงานต้านโควิดได้ดีพอสมควร ประชาชนคนไทยให้ความร่วมมือ พากัน “ตั้งการ์ดต้านโควิด” อย่างจริงจัง แม้รายได้จะอยู่ในสภาพลำบาก “หาเช้าไม่พอกินค่ำ-หาค่ำไม่พอกินเช้า” แต่ผู้คนก็ทำตามความต้องการของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ด้วยความเต็มใจ..
ห้วงโรค “โควิด” ระบาดกว้างขวาง พร้อมๆ กับ “เศรษฐกิจ”ดิ่งเหว! กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้ง “บุคลากรทางการแพทย์” ทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ ภายใต้ “หมอหนู-รมว.” กับ “หมอตี๋-รมช.” บริหารงาน ผลงานการต้าน “โควิด” ระบาดดีพอสมควร ถึงขนาดประชาคมโลกทึ่งและชื่นชมยกย่อง ทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” กับ “รมว.ทุกคน” กับ “หมอการเมือง” ข้างตัว “นายกฯ บิ๊กตู่” พากันดี๊ด๊า “หน้าบานราวกระด้ง” เลยทีเดียว..
แต่แล้ว..“นายกฯ บิ๊กตู่” ผู้บริหาร “รัฐราชการ” ก็ต้องเจอฤทธิ์เดชของ “ข้าราชการ” จำนวนไม่น้อย ที่ยังติดนิสัย “รับเงินใต้โต๊ะ” จากบรรดา “นักธุรกิจสีเทาสีดำ” มากมาย จนเกิดจุดผิดพลาดหลายครั้งหลายครา
ในขณะที่ “ประชาชนตั้งการ์ดสูง” ต้านทั้งโควิดระบาด และกระเสือกกระสนกับสภาพขาดรายได้เจอจุนครอบครัว ภายใต้ “ข้อห้ามของกฎหมาย” ของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ฯลฯ
“ข้าราชการบางกลุ่ม” มิได้เกรงกลัวต่อ “คำห้าม” ของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” แม้แต่น้อย! โดย “ข้าราชการกลุ่มนี้” ได้เปิดเวทีมวยหน้าตาเฉย! ปล่อย “บ่อนเถื่อน” แอบพนันขันต่อกันเฉยเลย! ปล่อย “คลับบาร์คาราโอเกะ” ผิดกฎหมาย เปิดบริการกลางกรุงเทพอย่างเปิดเผย ถึงขนาด “รมว.บางคน” กับ“นักธุรกิจบางกลุ่ม” เข้าไป “ดื่มสุราเคล้านารี” สนุกสนาน ฯลฯ
เรียกว่า “ข้าราชการกลุ่มหนึ่ง” ทำผิดกฎหมาย ด้วย “หิวเงินสีเทาสีดำ” อย่างหน้าด้านๆ ทำให้โรคโควิดระบาดใหญ่ เชื้อโรคกระจายไปทั่วประเทศ ทำร้าย “ผู้คน” ให้เจ็บป่วยและล้มตายมากมายแบบก้าวกระโดด
ท่ามกลางความยากไร้หนักขึ้น จากรายได้ที่ลดลงจากการคำสั่งของรัฐบาล ควบคุมการทำธุรกิจต่างๆ ควบคุมการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคร้าย ฯลฯ
คดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งจี้ ปล้น หลอกลวงทางไซเบอร์ สถิติการฆ่าตัวตาย ทั้งรายตัวกับยกครัวสูงสุดในรอบ 15 ปี อันมีสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ
นอกจากความผิดพลาดที่ทำให้โรคร้ายระบาดอย่างหนัก.. ยังเกิดความโกลาหลกับวิกฤต “หน้ากาก-เจลล้างมือ ขาดตลาด!” ประชาชนต้องหาซื้อกันในตลาดมืด ด้วยราคาแพงผิดปกติ!
เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มทวี ทำให้อุปกรณ์จำเป็นทางการแพทย์-เตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ กระทั่งวัคซีนและยาต้านโควิดขาดแคลน “รัฐบาลตู่” สั่งซื้อช้าไม่ทันการณ์ อีกทั้งไม่หลากหลายเท่าที่ควร ทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ถูกโจมตีจากทุกฝ่ายอย่างหนัก..
ห้วงนั้น เป็นโอกาสให้กลุ่ม “ม็อบล้มเจ้า” ออกมาเคลื่อนไหว โดยมี “ฝ่ายค้านบางกลุ่ม” ร่วมกับ “ตะวันตกบางชาติ” หนุนหลังเสริมส่ง ให้มุ่งถล่มโจมตี “กองทัพไทย” กับ “นายกฯ บิ๊กตู่” และ “รัฐบาลชุดนี้” สารพัดวิธีอย่างสถุล หยาบช้าถ่อยเถื่อนอย่างหนัก ที่สำคัญ “ปกปิด” เป้าหมายที่แท้จริง ด้วยการหลอกลวงประชาชนคนส่วนใหญ่ว่า “พวกเขาแค่ต้องการจะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ทั้งๆ ที่เป้าหมายแท้จริงคือ“โค่นล้ม” ให้ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ล่มสลายไปจากชาติไทย!
งานนี้..เป็นเรื่อง “ทฤษฎีสมคบคิด” ของ “นักการเมืองสามานย์” ทั้งในกับนอกประเทศ..รวมทั้ง “ตะวันตกบางชาติ” เป็นการชี้นำบงการของ “มหาเศรษฐี” และ“ลูกมหาเศรษฐี” รวมทั้ง “นักวิชาการล้มเจ้า” บางคน ใช้ข้อมูลเท็จผสมข้อมูลจริงบางส่วน หลอกใช้ “ม็อบล้มเจ้า” ออกมาเคลื่อนไหว ผสานกับทั้งในและนอกสภาฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งลับและเปิดเผยอย่างไม่หยุดหย่อน..
รัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” ที่ผิดคำพูด! ไม่ปราบขบวนการคนโกงชาติ! ไม่ลดความเหลื่อมล้ำมิติสำคัญๆโดยเฉพาะเรื่องสร้างความเป็นธรรมทางรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อย! ที่สำคัญไม่ปฏิรูปชาติในเรื่องที่ชี้เป็นชี้ตาย ในความเจริญของชาติ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ฯลฯ
เรียกว่า..“นายกฯ บิ๊กตู่” ยึดและสืบทอดอำนาจรัฐ ต่อเนื่องยาวนานเกือบ 8 ปี โดยไม่ได้แก้ “ต้นเหตุปัญหา” ของชาติกับประชาชน ซึ่งถือว่า “ผลงานหลักโดยรวม” ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรเลย
แม้มี “จุดดี” อยู่บ้าง โดยเฉพาะ“ตัดอำนาจชั่วคราว” ของ “รัฐบาลเลือกตั้งเครือบิ๊กเหลี่ยม”ที่ โกงชาติกับล้มเจ้านั้น
แต่กลับสร้าง “จุดอ่อน” มากมายมหาศาล ทำให้ “นักธุรกิจการเมืองเหลี่ยม” กับ “ตี๋ทอน” โผล่ออกมาเคลื่อนไหวมีอิทธิพล ถูกบ้างแต่ผิดเป็นหลัก ป่วนชาติอยู่ในถนนการเมือง ท่ามกลางโรคโควิดระบาด และเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งเหวในวันนี้
แน่นอน..การกระทำมากมายหลายเรื่องของ “บิ๊กเหลี่ยม-ตี๋ทอน” ชี้ชัดแล้วว่า พวกเขาไม่ได้ “รักชาติรักประชาชน” จริงดัง “ปากพูด” ฯลฯ
ต้องบอกว่า..ทั้ง “รัฐบาล”และ “ฝ่ายค้าน”! รวมทั้งบรรดา “นักวิชาการ” บางคน กับ “ม็อบล้มเจ้า”! กำลังทำให้ชาติกับประชาชนไทย เกิดวิกฤติอันเลวร้ายอยู่ในทุกวันนี้ เพราะเรื่อง “ต้องทำ-เสือกไม่ทำ” เรื่อง“ไม่ควรทำ-เสือกทำ”..จริงไหม?