ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาปัญญาและการวิเคราะห์ธุรกิจ
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ผมไปไหนมาไหนต้องควักโทรศัพท์มือถือเปิดให้ดูใบวัคซีนจากหมอพร้อมก่อนเลย บางที่ประชุมไลน์มาถามก่อนเลยว่ามีใบวัคซีนและผลตรวจ ATK ไม่เกิน 7 วันหรือไม่ ให้ส่งมาให้ทางไลน์ก่อนเข้าประชุม จะได้สะดวก แค่วัดอุณหภูมิอย่างเดียว
ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะก็ขอตรวจใบวัคซีนและขอผลตรวจ ATK ไม่เกิน 7 วันสำหรับคนที่เข้าไปติดต่อ
ประวัติการฉีดวัคซีน ไม่ใช่ความลับอะไร ตรงกันข้าม เป็นใบเบิกทาง ใบผ่านทาง ไม่ให้สังคมรังเกียจ และเข้าไปติดต่อในสถานที่ต่างๆ ได้ คนเห็นใบวัคซีนของผมเป็นร้อยๆ คนแล้วด้วยซ้ำ และวิธีการใช้หมอพร้อมก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ดาวน์โหลดและกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น
ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 6 ระบุไว้ว่า
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้
คำว่าระบุตัวบุคคลได้คือ personal identifier ยกตัวอย่างเช่น มีนายคนหนึ่ง ฉีด Sinovac Sinovac และ AstraZeneca เป็นเข็มกระตุ้มเข็มที่สาม ไม่เพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลนั้นได้เลย เพราะคนไทยที่ฉีดวัคซีนแบบนี้คงมีหลายแสนหลายล้าน จึงไม่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด
แต่เบอร์โทรศัพท์มือถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลเพราะทำให้ระบุตัวตนของผู้ใช้ที่ต้องจดทะเบียนได้
ประวัติการฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ได้เป็นความลับอะไร ไม่ใช่ประวัติการรักษาโรค ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการรับประทานยาที่อาจจะทำให้ทราบว่าป่วยเป็นโรคอะไร เช่นหากรับประทานยาต้านไวรัสเอดส์ก็อาจจะทำให้คนทราบว่าเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือ HIVS ดังนั้นข้อมูลประวัติการฉีดวัคซีนจึงไม่ใช่ข้อมูลที่อ่อนไหว (Sensitive data) แต่อย่างใด
การเปิดเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนทำให้ได้รับการยอมรับและเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้เพื่อให้สามารถควบคุมโรคระบาดได้ นอกจากนี้ยังมีคนเข้าถึงข้อมูลประวัติการฉีดวัคซีนของเราอยู่แล้วมากมาย
วัคซีนซื้อมาด้วยเงินภาษีของประชาชน ใครได้ฉีดวัคซีนอะไร ในเวลาไหน ในเวลาที่วัคซีนมีจำกัดและมีประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงได้อีกมาก จึงเป็นข้อมูลที่สมควรตรวจสอบได้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้จัดสรรวัคซีนอย่างเป็นธรรม เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ มีประชาชนหรือคนมีอิทธิพลใดที่ทำลายความเท่าเทียมกันในสังคมในการเข้าถึงวัคซีน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะต้องได้รับการตรวจสอบได้ จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม
ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปที่ทำตามกติกาและกฎเกณฑ์ของรัฐในการเข้าถึงวัคซีนย่อมไม่มีใครเดือดร้อนเสียหายจากใบประวัติการฉีดวัคซีน ยกเว้นคนที่ลัดคิว ทำผิดหลักการ กฎเกณฑ์ในการจัดสรรทรัพยากร หรือเป็นอภิสิทธิชนในเวลาที่ประชาชนอื่น ๆ ยังขาดแคลนและเข้าไม่ถึงวัคซีน
น่าสงสารเหลือเกินที่มีนักการเมืองหลายๆคน ดิ้นแทบเป็นแทบตายเมื่อประวัติการฉีดวัคซีนของตนเองได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณะ คงมีพฤติกรรมที่เลวร้าย ย้อนแย้ง ทำลายความยุติธรรม เพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคม เป็นพวกปากว่าตาขยิบ เป็นพวกเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง เป็นพวกปีศาจคาบคัมภีร์ เป็นพวกที่สังคมคงตั้งคำถามได้ใช่หรือไม่?