หลังจากกองกำลังตอลิบานยึดอัฟกานิสถานในได้อย่างเด็ดขาดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ในประเทศอยู่ในสภาพเลวร้ายลงทุกวัน องค์การสหประชาชาติรายงานว่าประชาชน 23 ล้านคนกำลังเผชิญกับความอดอยาก
ที่ร้ายกว่านั้นคือประชากร 95 เปอร์เซ็นต์ของชาวอัฟกานิสถานไม่ได้รับอาหารพอเพียงในแต่ละวัน และรัฐบาลตอลิบานยังไม่แสดงความสามารถในการบริหาร
แต่ละวัน แกนนำตอลิบานมุ่งแต่จะคิดหาวิธีออกกฎบังคับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและสตรีในการศึกษา การใช้ชีวิต ออกกฎใหม่ๆ ด้านสังคมทำให้สิ้นสภาพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน มุ่งแต่จะอ้างกฎชารีอะห์ของมุสลิม
พฤติกรรมของตอลิบานยังไม่เปลี่ยนจากการครองอำนาจในอัฟกานิสถานช่วงแรกเมื่อ 20 ก่อนที่กองทัพสหรัฐฯ บุกเข้ามาขับไล่ตอลิบานในปี 2001 ประชาชนได้รับบรรยากาศแห่งเสรีภาพด้านการศึกษา การแต่งกาย วัฒนธรรมทางสังคม
ตอลิบานเข้ามายึดอำนาจได้ แต่พยายามจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ยุคโบราณด้วยกฎเกณฑ์ศาสนา ไม่คำนึงถึงการพัฒนาชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม มุ่งแต่การเมือง การกระชับอำนาจ กดขี่ประชาชน เป็นรูปแบบเผด็จการโดยอ้างกฎศาสนา
สภาพที่เป็นอยู่ องค์การยูเอ็นดีพีประเมินว่าระบบการเงินการคลังของอัฟกานิสถานกำลังอยู่ในสภาพระส่ำระสาย ประชาชนขาดรายได้ สะสมหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ การจำกัดการถอนเงินทำให้กระแสเงินสดหายจากระบบ
คาดกันว่ากระแสเงินสดในระบบ เมื่อเทียบกับมูลค่าดอลลาร์สหรัฐ มีเพียง 5 พันล้านดอลลาร์ แต่อยู่ในกระแสการใช้จ่ายมีอยู่เพียง 500 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับค่าสกุลเงินอัฟกานี ของประเทศ ชาวบ้านส่วนใหญ่เก็บเงินไปในบ้าน
รัฐบาลตอลิบานจำกัดการถอนเงินได้เพียง 1 ครั้งในแต่ละสัปดาห์ ห้ามใช้เงินดอลลาร์ ความพยายามที่จะสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนแห่ถอนเงินเพื่อควบคุมไม่ให้เงินหมดธนาคาร ซึ่งมีการประเมินว่าสภาพเช่นนี้จะยื้ออยู่ได้อย่างมากก็ 6 เดือน
การขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงในกระแสเงินสด ทำให้เงินหายาก รัฐบาลตอลิบานไม่มีทรัพยากรบุคคลที่จะบริหารประเทศเพราะไม่ไว้ใจผู้อื่นนอกจากพวกเดียวกัน
นับตั้งแต่ยึดอำนาจ ยังไม่มีการรับรองสถานภาพของรัฐบาล ประชาคมนานาชาติประกาศคว่ำบาตรประเทศและแกนนำตอลิบาน ความช่วยเหลือจากนานาชาติไม่เหลือ ทำให้ขาดแคลนทุกด้าน และตอลิบานก็ไม่สนใจจะแก้ปัญหา
พนักงานของรัฐบาลและหน่วยงานสาธารณะ ไม่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง นับตั้งแต่ตอลิบานยึดอำนาจ แต่จำเป็นต้องทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข มีประชาชนเจ็บป่วยเพราะขาดอาหารอย่างมาก
รัฐบาลตอลิบานกำลังนำพาประเทศไปสู่ความอดอยากแร้นแค้น ถึงขั้นล่มสลายด้านการเงิน การธนาคารเพราะระบบกำลังเสื่อมโทรม คนมีช่องทางหลบหนีพยายามหาทางออกไปนอกประเทศ เพราะถ้ายังอยู่จะเป็นแบบไร้อนาคต
รายงาน 3 หน้ากระดาษของยูเอ็นดีพีระบุว่าถ้าระบบการเงินล่มสลาย จะนำไปสู่วิกฤตด้านสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในขั้นหายนะใหญ่หลวง
ดังนั้นความจำเป็นเร่งด่วนคือการช่วยเหลือระบบการเงิน การธนาคาร แต่ยังทำไม่ได้เพราะยังมีการคว่ำบาตรประเทศและบุคคลแกนนำตอลิบาน
ทุกวันนี้ธนาคารหยุดการปล่อยเงินกู้อย่างเด็ดขาด หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระบบธนาคารได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ นับจากเดือนกันยายน 2020
ประชาชนเป็นหนี้ ไม่สามารถใช้คืนได้ ธนาคารขาดเงินฝาก เพราะมีแต่คนแห่ถอนเงิน การขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดการล่มสลายของระบบ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายทศวรรษสำหรับการแก้ไข แต่จะทำได้ถ้ามีการช่วยเหลือจากนานาชาติ
แต่ประชาคมนานาชาติยังไม่อยากช่วย เพราะต้องการให้ถึงหน่วยงานที่มีความต้องการอย่างแท้จริง ความช่วยเหลือไม่ควรตกอยู่ในมือของแกนนำตอลิบาน
ก่อนหน้าที่ประเทศจะตกอยู่ภายใต้การยึดครองของตอลิบาน สภาวะเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานก็ย่ำแย่ แต่อยู่ได้เพราะกระแสอัดฉีดด้วยเงินดอลลาร์จากสหรัฐฯ แต่ละเดือนเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ การใช้จ่ายโดยทหารอเมริกัน
เมื่อตอลิบานยึดอำนาจได้ ทรัพย์สินและเงินฝากในบัญชีต่างประเทศก็ถูกระงับ การช่วยเหลือจากองค์กรต่างๆ ก็หยุดชะงักเช่นกัน ทำให้เกิดขาดแคลนทุกด้าน
ปีที่ผ่านมา อัฟกานิสถานนำเข้าสินค้าและบริการมูลค่ารวม 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอาหาร สภาวะเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว ถ้าประเทศขาดเงินสำหรับการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ จะเกิดวิกฤตร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่
ถ้าไม่มีระบบการธนาคารที่ใช้การได้ตามปกติ การนำเข้า การค้าขายระหว่างประเทศก็จะไม่เกิดขึ้น การนำเข้าโดยองค์กรต่างๆ เท่ากับเป็นการช่วยเหลือตอลิบาน
โฆษกของรัฐบาล ซูเฮล ชาฮีน บอกว่านานาประเทศที่อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน ความจำเป็นด้านมนุษยธรรม ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ด้วยการยกเลิกการคว่ำบาตร และให้รัฐบาลนำเงินจากการอายัดเข้ามาใช้จ่าย
มีการประเมินว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ในต่างประเทศมี 9 พันล้านดอลลาร์ แต่การที่ไม่ได้รับการยอมรับโดยประชาคมโลก ทำให้ตอลิบานอยู่อย่างโดดเดี่ยว ยิ่งมุ่งเน้นแต่การใช้อำนาจ การจำกัดสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิต จะทำให้ไม่มีใครอยากคบ
ชะตากรรมของชาวอัฟกันภายใต้ตอลิบาน จึงเป็นสภาพที่ไม่มีอนาคต