“บิ๊กเหลี่ยม” กลับมาหวังสอย “บิ๊กตู่”! (ตอนยี่สิบเจ็ด) “เหลี่ยม” เป็น “กรรมไล่ตามสนองตู่”ว่ะ..?

“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
 
ท่าน “ว.วชิรเมธี” ได้ให้ถ้อยคำสั้นๆ แต่ลึกซึ้งสำหรับมนุษย์ทุกคนว่า..

“คนเห็นแก่ตัว อาจได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีทางได้หัวใจคน”!

อืม..การ “ไม่มีทางได้หัวใจคน” หรือ “ไม่ชนะใจคน” เพราะเป็น “คนเห็นแก่ตัว” เช่นนั้น ช่างตรงกับบรรดา “ผู้มีอำนาจ” ทั้งหลาย ซึ่งมาจาก “เลือกตั้ง” แล ะ“รัฐประหาร” ที่ส่วนใหญ่ดันเป็นคนประเภทดวงตามืดมัว หลงผิด “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว”

อีกทั้งยังมัก “ผิดคำพูด” กับ “พูดอย่างทำอย่าง” หวังเพียง “อำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์สิน” จากสันดานละโมบโลภมิรู้จักพอนั่นเอง..

ตัวอย่าง “ผู้มีอำนาจ” แค่ไม่กี่คน อย่าง “บิ๊กตู่-บิ๊กเหลี่ยม” กับพลพรรค ที่ชีวิตวนเวียนซ้ำซากอยู่ใน “วังวนอำนาจ” ก็ทำให้ “ผู้คน” ในสังคมไทยรู้แจ้งแล้วว่า บรรดา “ผู้มีอำนาจ” วันนี้กับวันก่อน มักมีพฤติกรรม ไม่ทำ “เรื่องควรกระทำ” แต่กลับทำ “เรื่องไม่ควรทำ” เสมอ สะท้อนถึงความเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง ไม่ได้เห็นแก่ชาติกับประชาชนเป็นหลัก

อดีตนายกฯ มหาเศรษฐี “บิ๊กเหลี่ยม” โมฆะบุรุษฉายา “จอมโจรคนโกงชาติ” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “นายกฯ รวยแล้วยังโคตรโกง”!..

“บิ๊กเหลี่ยม” ผันตัวเองจาก “อดีตนายตำรวจ” ที่ร่วมกับ “ลูกสาวนายตำรวจใหญ่” ผู้ภรรยา เปิดร้านขายของเล็กๆ อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่สินค้าขายไม่ได้มากมายเท่าที่ควร จึงมักเกิดขัดสนเงินหมุนเวียนสะดุดเสมอ จนต้องหันไปทำธุรกิจการเมืองคู่ขนานไปด้วย

อาศัยเส้นสาย “นักการเมือง” ในเครือญาติ ทำให้ “เหลี่ยม” ได้ “ผูกขาด” ธุรกิจโทรคมนาคม จนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองหลายหมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็ว

ภายหลัง “เหลี่ยม” รวยเร็วราวโกหก “เขา” ได้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ถนนการเมือง “นักการเมืองบิ๊กเหลี่ยม” ได้สร้างภาพเลิศหรู จากทีมงานที่ปั้น “เขา” ให้เป็น “คนรุ่นใหม่” เป็นบุรุษที่แม้“ตามองฟ้า” แต่หลอกว่า “เท้าติดดิน”(ว่ะ)

ทำให้ “บิ๊กเหลี่ยม” กลายเป็นความหวังใหม่ ที่จะสร้างชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น และจะทำให้ประชาชนทั่วแดนไทย อยู่ดีกินดีมีสตางค์กระเป๋าตุง..ว้าว!..

“ความหวังใหม่” ทำให้ราศีจับ “บิ๊กเหลี่ยม” เปล่งประกายวิบวับ ประชาชนพากันหลงลมปากบุรุษหน้าเหลี่ยม.. เทคะแนนเสียงให้ผู้สมัครฯ “ส.ส.พรรคเหลี่ยม” ในสนามเลือกตั้งอย่างท่วมท้น

จน “บิ๊กเหลี่ยม” ได้ “ส.ส.” ล้นเกินครึ่งสภาฯ และ “เหลี่ยม” ก็ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” สมใจนึก..

ผลงานเบื้องต้นของ “นายกฯ บิ๊กเหลี่ยม” มีหลายเรื่องที่ดี จากนโยบาย “ประชานิยม” เช่น โครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของ “หมอกลุ่มหนึ่ง” ที่มีจิตเอื้ออาทร

หมอกลุ่มนี้ได้เคยพยายามเสนอ และผลักดันโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” ให้หลายพรรคการเมือง แต่ถูกปฏิเสธมาตลอด

จนกระทั่งเข้ามาเสนอกับ “กลุ่มคนสนิท” กับ “เหลี่ยม” ซึ่งในอดีตเป็น “นักเคลื่อนไหว” ทางการเมือง เคยเรียกร้องรัฐธรรมนูญในยุคเผด็จการครองเมือง บางคนได้ผันตัวมาเป็น“ลูกจ้าง” ทำงานกินเงินเดือนบริษัทใหญ่โตร่ำรวยอู้ฟู่ ของ “นายใหญ่ชาย” กับ “นายใหญ่หญิง”

ซึ่ง “เหลี่ยม” ชอบเรียก “กลุ่มลูกจ้าง“ ที่มาทำงานการเมืองเหล่านี้ว่า พวก “ผี-โม่แป้ง”..

เมื่อ “บิ๊กเหลี่ยม” ได้รับรู้แนวคิดของ “หมอกลุ่มนี้” แล้ว.. ด้วยความกล้าคิดกล้าทำ ประกอบกับสมองอันชาญฉลาด และที่คิดแต่หาผลประโยชน์ส่วนตน จึงได้ผลักดันหนุนแนวคิด “หมอกลุ่มนี้” ให้เป็นหนึ่งในนโยบายประชานิยม ในนามโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” และนำไปโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในการ “หาเสียง” ของ “พรรคบิ๊กเหลี่ยม”

จวบจนวันนี้.. ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” เป็นผลงานที่ดีต่อประชาชนคนส่วนใหญ่ ที่ด้อยโอกาสในการเข้าถึง “ระบบสาธารณสุข”

งานนี้.. ต้องไร้อคติต่อ “บิ๊กเหลี่ยม” โดยต้องขอชม “ลูกจ้างกลุ่มหนึ่ง” และตัวอดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” ที่กล้า “หาเสียง” ด้วยนโยบายประชานิยม และทำให้นโยบายประชานิยมที่ดีมีคุณค่านี้ ปรากฏเป็นจริง..

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณแทนประชาชน ในความคิดสร้างสรรค์ของ “หมอกลุ่มนี้” แต่น่าเสียใจและเสียดายอย่างที่สุด ที่ “หมอสงวน นิตยารัมย์พงศ์” ผู้ผลักดันโครงการนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทิ้งผลงานโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” ที่ทรงคุณค่าเอนกอนันต์ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมไทย.. ขอน้อมคารวะหมอสงวน นิตยารัมย์พงศ์ ด้วยหัวใจ ณ โอกาสนี้

แม้ว่าโครงการ“30 บาทรักษาทุกโรค” จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง และมีการโกงเงินชาติเกิดขึ้นก็ตาม..แต่ต้องถือโดยภาพรวมของโครงการ ทำให้“ทุกรัฐบาล”ต้องสานต่อ และพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นเรื่อยๆ..
ทว่า.. แทนที่อดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” ผู้ทำโครงการดีเลิศชิ้นโบว์แดงจนสำเร็จได้นี้ จะฉวยโอกาสใช้อำนาจบริหารชาติ ทำดีเพื่อชาติและประชาชนให้ถึงที่สุด ให้ได้รับการยกย่องเป็นรัฐบุรุษ..

“บิ๊กเหลี่ยม” กลับทำให้ประชาชนผิดหวังอย่างยิ่ง ทำลายความรู้สึกดีๆในเบื้องต้นให้พังครืนลง เสมือนประชาชนถูก “แทงข้างหลัง” อย่างจัง..

โดย “บิ๊กเหลี่ยม” ได้พูดโกหก “พูดดี-ทำชั่ว” หน้าตาเฉย โดยเฉพาะการหลงอำนาจจนลืมตัว ได้แสดงพฤติกรรม “บ้าอำนาจ” จนถึงกับ“ ตระบัดสัตย์” ที่ได้ประกาศไปทั่วทั้งวงการ“นักการเมือง” และ “ผู้ใหญ่” มากมายหลายคนในสังคมไทย ให้หลงเชื่อกันทั่วว่า “ผมรวยแล้วจะไม่โกงชาติแน่นอน”

แต่.. เมื่อมีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ “บิ๊กเหลี่ยม” ก็ไม่อาจปกปิดสันดานโลภได้.. มหาเศรษฐีอดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” กลับกระทำตรงกันข้ามกับ “คำพูด” ดื้อๆ ไม่แยแสใดๆ ต่อความรู้สึกของประชาชน ไม่ยำเกรงใดๆ ต่อกฎหมายบ้านเมือง

“บิ๊กเหลี่ยม” ในฐานะ “ผู้นำชาติไทย” ใช้อำนาจรัฐ ปฏิบัติการ “รวยแล้วยังโคตรโกงชาติ” มโหฬาร จนเป็นข่าวถูกเปิดโปงฉาวโฉ่อย่างต่อเนื่อง..

หนำซ้ำ.. อดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” กับพลพรรค “ผี-โม่แป้ง” ทั้งหลาย ยังเหิมเกริมบังอาจใช้อำนาจ สนับสนุนบรรดาขบวนการให้ร้ายป้ายสี และหมิ่นพระเกียรติ์ ทำลายความมั่นคงของ“สถาบันพระมหากษัตริย์” ทั้งลับและแจ้ง ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย..

เมื่อพฤติกรรมอันเลวร้ายสารพัด ของอดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” กับประดา “ผี-โม่แป้ง” ได้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน ทำให้ผู้คนรู้กันทั่วว่า “เหลี่ยม-รวยแล้วยังโคตรโกง” ชนิดไม่รู้จักพอ รวมทั้ง“เหลี่ยม-บ้าอำนาจ” บังอาจจะ“ล้มเจ้า”อีกด้วย..

เหตุชั่วร้ายอันใหญ่โตมโหฬารเช่นนั้น ของรัฐบาลอดีตนายกฯ“บิ๊กเหลี่ยม” ได้สร้างความไม่พอใจอย่างใหญ่หลวงต่อชาวไทย ทำให้ประชาชนผู้รักชาติ รักสถาบันฯ จำต้องออกมาชุมนุมต่อสู้ขับไล่ “รัฐบาลเผด็จการรัฐสภาฯ” ของ “บิ๊กเหลี่ยม”

ประชาชนผู้รักชาติ ที่ชุมนุมมือเปล่าอย่างสันติ ถูก “ผี-โม่แป้ง” อันธพาลการเมือง และ“ กลไกรัฐ” บางส่วนของอดีตนายกฯ “บิ๊กเหลี่ยม” ทั้งจับกุม-ปรามปราม-เข่นฆ่าอย่างทารุณ ฯลฯ โดยหวังจะสลายการชุมนุมที่ถูกต้อง เป็นธรรม อย่างเสียสละ และกล้าหาญนานแรมปี

น่าอนาถที่อดีต“บิ๊กเหลี่ยม”หลงเชื่อว่า การใช้“อำนาจรัฐอธรรม”ประดามีนั้น จะเอาชนะอำนาจของปวงชนที่ต่อสู้อย่างชอบธรรมได้..

“ผู้นำกองทัพ” ยุคนั้น ได้ฉวยโอกาส ใช้เป็นข้ออ้างในการยกกำลังพลพร้อมอาวุธ ออกมาทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาล “บิ๊กเหลี่ยม” ตัดอำนาจลงได้.. แต่ก็เพียงแค่ชั่วคราว..

ทว่า.. เป็นที่น่าเสียดาย และอเนจอนาถใจของประชาชนไทยอย่างยิ่ง.. การรัฐประหารในครานั้น “หัวหน้าคณะรัฐประหาร” และ “รัฐบาลรัฐประหาร” ได้ทำให้การ “รัฐประหาร-เสียของ” เพราะ “เยี่ยวไม่สุด” เป็นการ “ต้มกองเชียร์” จนเสียผู้เสียคนป่นปี้ไปหมด..

จึงต้องถือว่า “บิ๊กเหลี่ยม” กับพลพรรค “โชคดีสุดๆ”!

“บิ๊กเหลี่ยม” ยังคงมีเงินล้นฟ้า! ยังคงแอบบงการอยู่ข้างหลังการเคลื่อนไหวทางการเมือง จ้าง “ผี-โม่แป้ง” ให้ป่วนชาติได้ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
ด้วยอำนาจเงินมหาศาลของ “บิ๊กเหลี่ยม” ทำให้ “บิ๊กเหลี่ยม” ยังอ้างตำแหน่ง “อดีตนายกฯ”.. ยังคงทั้ง “เห่า” ทั้งหนุน ป่วนประสาท เขย่าเก้าอี้“ นายกฯ บิ๊กตู่” ได้อยู่ทุกวี่ทุกวัน

เรียกได้ว่า.. “เหลี่ยม” เป็น “กรรมไล่ตามสนองตู่”.. (ว่ะ)..จริงไหม?