xs
xsm
sm
md
lg

หนี้เน่าอสังหาฯ จีนลามหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



วิกฤตการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน Evergrande ยังไม่ได้รับแก้ไข ปัญหาการผิดนัดการชำระหนี้ยังได้ลามไปอีก 2 บริษัท เกี่ยวโยงกับหนี้รวมจำนวนเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ สร้างความวิตกว่าจะลามหนัก

การซื้อขายหุ้นของ Evergrande ถูกสั่งพักการซื้อขายวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวว่าจะขายทรัพย์สินมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ให้กลุ่ม Hopson Development ในฮ่องกง เพื่อจะระดมเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ก้อนมหาศาล

ที่ผ่านมารัฐบาลจีนยังไม่แสดงออกให้เห็นว่าจะอุ้ม Evergrande ซึ่งมีหนี้รวมกว่า 300.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นทั้งในรูปแบบของหุ้นกู้และพันธบัตรขายให้ทั้งสถาบันการเงินและเอกชนทั่วไป แต่บอกว่าจะช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหา

Evergrande มีทั้งลูกค้าที่ชำระเงินล่วงหน้าสำหรับซื้อโครงการต่างๆ แต่ยังสร้างไม่เสร็จ และมีลูกค้าที่ซื้อพันธบัตร ซึ่งอาจได้คืนเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวม แต่โครงการต่างๆ ที่ยังค้างคาอยู่ ไม่มีความชัดเจนว่า Evergrande จะสร้างต่อหรือไม่

ขณะเดียวกัน ยังมีอีก 2 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้เช่นกัน เช่น Sinic Holdings ซึ่งผิดนัดการชำระหนี้ดอกเบี้ย และมีความไม่แน่นอนกับการชำระเงินคืนหนี้พันธบัตรเงินกู้จำนวน 246 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7 พันล้านบาท

Fitch Ratings ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับสินทรัพย์ได้ลดระดับความน่าเชื่อถือของกลุ่ม Sinic Holdings ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเซี่ยงไฮ้ หลังจากบริษัทประกาศว่าจะไม่สามารถชำระหนี้คืนเมื่อถึงกำหนดครบวาระภายในสิ้นเดือนนี้

ซ้ำร้ายนายจาง ยวนหลิน ผู้บริหาร Sinic Holdings ยังเสียหายหนักเมื่อความมั่งคั่งส่วนตัวได้ลดลงฮวบฮาบจาก 1.3 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 250.7 ล้านดอลลาร์ หลังจากความผันผวนของราคาหุ้นในตลาดเมื่อเกิดวิกฤต Evergrande

ความเสียหายเป็นเพราะมีการสั่งห้ามขายหุ้นของ Sinic Holdings ในตลาดหุ้นฮ่องกง เมื่อมูลค่าหุ้นตกเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเงินก็หายไปกับมูลค่าหุ้นด้วย นับว่านายจางเป็นเหยื่อของความตกต่ำของตลาดโดยเฉพาะหุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ยังมีอีกราย Fantasia Holdings ก็ประสบกับชะตากรรมเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทผิดนัดการชำระหนี้เป็นพันธบัตรมูลค่า 205.7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 6 พันล้านบาท ทำให้มูลค่าในตลาดของพันธบัตรของบริษัทตกไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์

บริษัท Fantasia Holdings มีสำนักงานอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น แถลงว่าไม่สามารถชำระหนี้ด้วยการไถ่ถอนพันธบัตรนั้นได้ ทำให้ซ้ำเติมสถานการณ์ในหุ้นของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ให้เลวร้ายกว่าเดิมในสภาพที่เกิดความซบเซาในธุรกิจภาคนี้

บริษัทเป็นผู้ก่อสร้างโครงการคอนโดฯ และอะพาร์ตเมนต์หรูในเซินเจิ้นได้ชี้แจงต่อตลาดหุ้นว่ากำลังประเมินสถานการณ์และขีดความสามารถการระดมเงิน รวมทั้งสภาวะเงินสดที่ถือครองอยู่เพื่อชำระหนี้ แต่ดูแล้วอยู่ในความลำบากอย่างยิ่ง

ทั้ง S&P และ Moody’s ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ประเมินว่ากลุ่ม Fantasia ไม่น่าจะมีขีดความสามารถในการชำระหนี้ที่ครบกำหนด

บริษัทที่ติดร่างแหตามไปด้วยคือ Country Garden ซึ่งเป็นบริษัทจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีขนาดใหญ่อันดับ 2 รองจากกลุ่ม Evergrande โดยจำนวนยอดขาด ก็แถลงว่าไม่ได้รับการชำระหนี้ 109 ล้านดอลลาร์ จาก Fantasia Holdings

ผลที่ตามมา ราคาหุ้นของ Country Garden Services ในตลาดหุ้นฮ่องกงตกลง 3.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หุ้นของ Country Garden Holdings ตกลง 2.8 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้นยังมีความกังวลอย่างมากจากวิกฤตของ Evergrande จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก คำถามก็คือว่ารัฐบาลจีนจะปล่อยให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Evergrande ล้มได้หรือไม่

หนี้ระดับ 300.5 แสนล้านดอลลาร์ถือเป็นก้อนมหาศาล โอกาสที่จะฟื้นตัวได้ก็คือการพยายามขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ แต่จะถูกกดราคาอย่างหนัก โดยผู้ซื้อซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทคู่แข่ง และต้องมีสภาพคล่องสูง มีสถาบันการเงินสนับสนุน

เพียงแค่การหาเงินมาชำระดอกเบี้ยของพันธบัตรและหุ้นกู้ก็นับว่าลำบากในยามที่ตลาดซบเซา ถ้าต้องจ่ายเงินต้นหรือตราสารหนี้ที่ครบวาระเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ด้วยแล้ว การระดมเงินคงเพียงทำให้ด้วยการเร่งขายทรัพย์สินเท่านั้น

ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของจีน เงินกู้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนมากถึง 29 เปอร์เซ็นต์ของสินเชื่อในธนาคารและสถาบันการเงิน เพราะอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีมูลค่าสูง 30 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี

จากผลกระทบของการผิดนัดการชำระหนี้ของ Fantasia Holdings และกลุ่ม Evergrande ทำให้บรรยากาศในธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่สดใส สร้างความวิตกต่อผู้ซื้อบ้าน บริษัทพัฒนา ธนาคาร และทำให้ผู้ประกอบการเร่งเสริมสภาพคล่อง

แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนดูไม่สดใส ยอดขายของบริษัทใน 30 เมืองขนาดใหญ่ของประเทศตกไปกว่า 31 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนจากปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซึ่งเสี่ยงในการซื้อพันธบัตรของ Evergrande ต่างเจ็บตัวไปตามกัน

ทั้งยังมีความกังวลว่าจะเกิดสภาวะโดมิโน ทำให้บริษัทอื่นๆ มีปัญหาเช่นกัน นั่นหมายความว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของจีนและตลาดการเงิน เพราะเป็นที่รู้กันว่า Evergrande มีปัญหาเรื้อรังมากว่า 1 ปี ตั้งแต่รัฐบาลควบคุมการกู้เงิน

มาตรการเข้มเริ่มเดือนสิงหาคม 2020 ไม่ให้ตลาดอสังหาฯ ร้อนแรงจนเกินไป


กำลังโหลดความคิดเห็น