xs
xsm
sm
md
lg

ใช้งบหลวงเร่หาเสียง...?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



การเมืองแบบเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบหรือเต็มใบก็ตาม เป็นเกมซึ่งต้องช่วงชิงจังหวะให้ได้ความสนใจของประชาชน จะเป็นพรรคตั้งใหม่ หรือพรรคเก่าแก่ก็ต้องเตรียมพร้อม เพราะเป็นจังหวะสำคัญในการลงทุนครั้งใหญ่

เป็นการลงทุนที่ต้องทุ่มทรัพยากรและบุคลากรที่มีอยู่ เพื่อหวังเก้าอี้ในสภาผู้แทนฯ ให้มากที่สุด แต่ก็มีพรรคเล็กพรรคน้อยได้เพียง 2-3 เสียงก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับการแจ้งเกิดของแกนนำ ก่อนจะไปสร้างค่าตัวตามรูปแบบการเมืองไร้หลักการ

บ้านเรามีพรรคการเมืองมากกว่า 100 สร้างความรู้สึกเหมือนว่าแต่ละพรรคมีอุดมการณ์ แนวคิด นโยบายของตนเอง ถ้าไปเพ่งดูเนื้อในแล้ว ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าต่างคนต่างอยากเป็นใหญ่ แสวงหาโอกาส ถ้าจับพลัดจับผลูได้ที่นั่งแล้วนั่นคือโอกาส

จะเป็นการต่อยอดสู่ระดับที่ดีกว่า ถ้าพรรคย่อยจับกลุ่มเป็นก๊วนก็สามารถต่อรองกับพรรคใหญ่ที่มีความมั่นคงในการจัดตั้งและคงอยู่ยาวของรัฐบาล

การมีพรรคย่อยเยอะกว่า 100 จะว่าเป็นความหลากหลายทางชีวภาพก็ถูก เปิดช่องทางให้ใครตั้งพรรคก็ได้ ถ้าเข้าตามกฎระเบียบเบื้องต้น เช่นจำนวนสมาชิก สำนักงาน นั่นนี่โน่น ยุคนี้ดูจะยากกว่ายุคก่อน ซึ่งมีเงิน มี 2-3 คน มีห้องเช่า ก็ได้แล้ว

ช่วงนี้พรรครัฐบาลเร่งเดินหน้า จัดทัพหาเสียงอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่ม 3 ลุง ใช้การตรวจราชการ ใช้งบหลวงลงพื้นที่พบปะประชาชนประสบภัยน้ำท่วม แจกถุงยังชีพ นั่นเป็นการใช้เงินภาษีประชาชน ไม่ยอมควักทุนส่วนตัว เพราะอาศัยอำนาจรัฐ

การใช้เงินของคนอื่น ก็เป็นอีกแบบของการประหยัด เช่นเดียวกับการเดินทางลัดในการตั้งพรรคด้วยการตกปลาในบ่อคนอื่น ไม่ต้องเสียเวลามากในการหาคนใหม่

ก็เป็นจังหวะการตีกิน ใช้เงินคนอื่น ไม่ต้องคำนึงถึงหลักการและยางอาย พรรคร่วมรัฐบาล เช่นพรรคเก่าแก่ก็ขึ้นป้ายหลายพื้นที่ หัวหน้าพรรคประกาศตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ผลงานไม่มีอะไรน่าประทับใจ มีแต่เรื่องฉาวที่เข้าตาชาวบ้าน

เรื่องหน้ากากอนามัยงี้ ถุงมืออนามัยงี้ ทำเอาเงินหายไป 2 พันล้านยังจับมือใครดมไม่ได้ว่ามีหน้าไหนหากินกับถุงมือ ป้ายโปสเตอร์โชว์หัวหน้าพรรคยิ้มกว้าง ดูมั่นใจ ทั้งๆ ที่ในใจของคนในพรรคอาจจะสงสัยว่าจะได้มากถึง 20 เสียงหรือไม่

แต่ก็นั่นแหละ การเมืองเป็นเรื่องของการหาเสียงที่ต้องคุยฟุ้ง โกหกพกลมไปตามเรื่อง เข้าข่ายเฟกนิวส์ทั้งนั้น เพราะมีแต่อ้างผลงานความสำเร็จที่ไม่แจ่มชัด แต่ความเสียหาย หรือมีอะไรนอกใน แนวทำมาหากิน ไม่มีใครมาบอกชาวบ้านให้รับรู้

ช่วงนี้ยังมีข่าวความเคลื่อนไหวของคณะ 3 ลุงต่อเนื่อง สร้างข่าวกลบความล้มเหลวในการจัดการโควิด-19 สภาวะเศรษฐกิจตายซากเรื้อรัง หนี้ครัวเรือนกระฉูด หนี้สาธารณะจะเป็นดินพอกหางหมู ไม่มีการปฏิรูปตามคำมั่น เป็นสภาวะรัฐล้มเหลว

การเมืองต้องอาศัยจังหวะหาเรื่องใหม่มากลบข่าวร้าย แหกตาชาวบ้าน เรื่องความร้าวฉานของ 3 ลุง มีกระพือข่าวต่อเนื่อง มีกิจกรรมเสริมความน่าเชื่อทุกวัน เช่นการจะตั้งพรรค การแยกสาย แบ่ง ส.ส.ลงพื้นที่ ทำเป็นว่าแยกทางกันเดินแล้ว

เมื่อมีทั้งปฏิเสธความแตกแยก การสร้างภาพสารพัด ผลสุดท้าย ชาวบ้านเริ่มสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้ว ทั้ง 3 ลุงเป็นการเล่นคนละหลายหน้า ทำเป็นแตกร้าว ขยันปฏิเสธ ทำให้คนสงสัย สร้างปฏิกิริยาย้อนแย้ง แท้ที่จริงก็เป็นการเล่นกันคนละบท

ชาวบ้านก็รู้ทันว่าข่าวเรื่องความแตกแยก ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้กลบความล้มเหลวในผลงานต่างๆ ที่ว่ามาก่อนหน้านี้ ใช้ความสับสนในความเคลื่อนไหวเป็นม่านพรางตาชาวบ้าน ให้ลืมเรื่องโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง

เมื่อข่าวความร้าวฉานมีคนรู้ทัน ก็มีกระแสใหม่ ปล่อยข่าวเรื่องการจะปรับคณะรัฐมนตรี จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ชาวบ้านและนักวิจารณ์ก็เล่นไปตามจังหวะที่คณะ 3 ลุงและพวกกำหนดให้เต้น ขีดเส้นให้เดิน แท้ที่จริงไม่มีอะไร

ยุทธวิธีแบบนี้ ฝรั่งเรียกว่า diversionary tactic หรือด้วยการสร้างตัวล่อ หรือ decoyเอาไว้ลวงให้ชาวบ้านสับสน นับว่าพวก 3 ลุงไม่เสียแรงที่ได้ร่ำเรียนโรงเรียนเสธฯ แล้วปรับมาใช้ได้กับการเมืองน้ำเน่า จนได้ผลระดับหนึ่ง แต่ก็ได้ไม่กี่ครั้ง

ก็มาถึงประเด็นการเดินสายหาเสียง แล้วอ้างว่าต้องการพบปะประชาชน และสร้างความสนิทสนมกับนักเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งประเภทเขี้ยวลากดิน เขาชนดาว และพวกหิวแสง ปากก็อ้างเสียงแข็งว่ายังไม่มีผลยุบสภา รับรองว่าจะอยู่จนครบเทอม

จะครบเทอมหรือไม่ การหาเสียงไว้ก่อน ถือเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ยิ่งไม่มีผลงาน มีแต่ความล้มเหลว การหาเรื่อง สร้างกิจกรรม ไปปั่นหัว เป่าหู แหกตาชาวบ้านได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เอาเวลาหลวงไปใช้ด้วย

ช่วงนี้มีโครงการประชานิยม “คนละครึ่ง” รอบใหม่มาปลอบใจชาวบ้าน ถือว่าเป็นจังหวะดี แต่ก็นั่นแหละ โลกไม่ได้สวยทุกเวลา เพราะลุงห้าวเป้งคนชอบส่งสัญญาณ “วิคตอรี่ ไอเลิฟยูนะจ๊ะ” ไปเจอทีเด็ดที่ชัยภูมิและนนทบุรี แบบคาดไม่ถึง

ก่อนหน้านี้มีขบวนการจัดฉาก เอาข้าราชการ ชาวบ้านมาต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์ “สู้ๆ” เสียงดังก้อง ลุงห้าวเป้ง ก็หน้าบาน นึกว่าเป็นของจริง เมื่อโดนต้อนรับแบบโหดที่ชัยภูมิและนนทบุรี แบบไม่ไว้หน้า ก็ทำเสียขบวน ซ้ำร้าย “ป้าเป้า” ไปรอขอโชว์ของอีก

เจอเข้าแบบนี้ ลุงห้าวเป้งก็ทำท่าประดักประเดิด เพราะเสียงด่าดังกว่าเสียงเชียร์ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าด้วย จากนี้ไป จะไปลงพื้นที่ไหนต้องระวัง เลี่ยงได้ก็ต้องทำ เพราะโดนเข้าบ่อยๆ หลายพื้นที่ ผลโพลที่โชว์ความเน่าอยู่แล้ว จะซ้ำแผลให้ลึกอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น