xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองเยอรมนีเปลี่ยนแนว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


โอลาฟ โชลซ์
เยอรมนี ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของยุโรป และอันดับ 4 ของโลก กำลังจะเปลี่ยนทิศทางและแนวนโยบายของประเทศ หลังจากมีแนวโน้มว่าจะได้ผู้นำคนใหม่มาจากพรรคกลางซ้าย ซึ่งจะกำหนดชะตากรรมของประเทศ และของยุโรปเช่นกัน

ผลเบื้องต้นจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งปรากฏว่า โอลาฟ โชลซ์ หัวหน้าพรรค Social Democratic Party หรือ SPD มีคะแนนนำเหนือพรรคคู่แข่ง ซึ่งเป็นของนางอังเกลา แมร์เคิล นำโดยนายอาร์มิน ลาสเชต ซึ่งไม่ค่อยมีสีสันมากนัก

ลาสเชตถูกมองว่ายังขาดบุคลิก ประสบการณ์ ความเป็นผู้นำ และมือไม่ถึงสำหรับปัญหาของเยอรมนีและยุโรป รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย

เป็นชัยชนะอย่างเฉียดฉิวของ SPD หลังจากทั้ง 2 พรรคใหญ่หายใจรดต้นคอกันมาโดยตลอด SPD ชนะด้วยคะแนน 25.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วน CDU/CSU ของอังเกลา แมร์เคิลได้ 24.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพรรคกรีนได้ 14.8 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นอันดับ 3

กว่าจะรู้ผลชัดเจน คงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ รอคะแนนจากทุกฝ่ายเข้ามา แต่ต้องนับว่าเป็นความสำเร็จของพรรค SPD ซึ่งมาเพียง 20.5 เปอร์เซ็นต์ในการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านี้ โชลซ์จึงอ้างว่าประชาชนต้องการให้ตัวเองเป็นนายกฯ

โชลซ์อยู่ในวัย 63 ปี ถือว่ามีฝีมือพอตัวในยุคที่ตัวเองเป็นขุนคลัง และคงจะสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตซึ่งเกิดจากการระบาดของโควิด-19 แต่ต้องรอดูผลการนับคะแนนที่จะต้องใช้เวลา SPD เชื่อมั่นว่าจะทิ้งระยะห่างได้ตลอด

ถ้าผลสุดท้ายพรรค SPD จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องดูว่าจะร่วมกับใคร เพราะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก และการเจรจาอาจต้องใช้เวลานาน เมื่อต้องต่อรองและนำนโยบายของแต่ละพรรคร่วมมาประสานเพื่อให้ลงตัว

โอลาฟ โชลซ์ เป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง และรองนายกรัฐมนตรีในยุคของอังเกลา แมร์เคิล เช่นกัน ดังนั้น กลุ่มประชาคมยุโรปยังค่อนข้างมั่นใจว่าเยอรมนีภายใต้ผู้นำคนใหม่จะมุ่งรักษาเสถียรภาพทางการเงิน การคลังเพื่อเป็นแกนหลักของยุโรป

แต่ SPD ยังจะเน้นนโยบายความแตกต่างจากปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของเยอรมนี โดยเน้นด้านสวัสดิการสังคม สภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคม เด็ก และชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งจะต้องดูว่ามีพรรคร่วมเป็นกลุ่มใด และเน้นนโยบายเช่นใด

ถ้ายังรวมกับพรรค CDU ของอังเกลา แมร์เคิล ก็จะต้องประสานว่าทิศทางระหว่างกลางซ้ายกับกลางขวาจะเป็นไปได้อย่างไร และที่สำคัญ ไม่ว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำ คงจะต้องมีพรรคกรีน ซึ่งเน้นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่ด้วย

เมื่อยังต้องรอการนับคะแนนผลสุดท้าย ซึ่งรวมทั้งโหวตที่ผ่านไปรษณีย์ อาจมีความแปรผันในด้านความแตกต่างในคะแนนระหว่าง 2 ค่ายหลักคือ SPD และ CDU เพราะ อาร์มิน ลาสเชต ยังมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมพรรคอื่นๆ เพื่อตั้งรัฐบาลได้

ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็จะมีแกนนำ 2 ขั้วแย่งพรรคที่เหลือในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็จะมีพรรคกรีนด้วยเช่นกัน และพรรค CDU ก็จะสานต่อนโยบายปัจจุบันของอังเกลา แมร์เคิล ซึ่งยังเป็นไปได้ยาก เพราะถ้า SPD เฉือนชนะได้ก็ถือว่าเป็นฉันทมติหลัก

โชลซ์ปราศรัยหลังจากรับทราบผลเบื้องต้นว่าคนเยอรมนีต้องการความเปลี่ยนแปลงหลังจาก 16 ปี ภายใต้การนำของนางแมร์เคิล ซึ่งถูกมองว่าเป็นสตรีเหล็กของยุโรป และเป็นผู้นำของโลกคนหนึ่ง เป็นคนที่กล้าเผชิญกับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหน้า

ถ้าผลสุดท้าย โชลซ์เป็นนายกฯ คนต่อไป เท่ากับว่าเป็นการสิ้นสุดยุคของแมร์เคิลซึ่งได้สร้างตำนานการเป็นผู้นำของเยอรมนีไว้ด้วยเวลายาวนาน เป็นหลักความมั่นคงของเศรษฐกิจของยุโรปที่ช่วยอุ้มหลายประเทศที่มีวิกฤตด้านเศรษฐกิจ

เป็นตัวหลักในการคานอำนาจกับสหรัฐฯ ในความพยายามกดดันยุโรปให้เข้าอยู่ใต้การควบคุม เพราะเยอรมนียังต้องการอิสระในการดำรงความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีน เพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และทรัพยากรวัตถุดิบ

จนกว่าจะได้ตัวนายกฯ คนใหม่ แมร์เคิลก็จะยังคงอยู่เป็นผู้นำจนกว่าจะถึงวันมอบตำแหน่ง โลกจะต้องจดจำเธอในตำแหน่งที่มีความสำคัญ ทั้งด้านชีวิตส่วนตัวและการเมือง และยังจะฝากตำนานไว้ให้การเมืองเยอรมนีในฐานะผู้นำหญิงแกร่ง

ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ถ้าโชลซ์ได้เป็นผู้นำคนใหม่ เธอต้องยอมรับว่าคนเยอรมันส่วนหนึ่งต้องการความเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าเธอได้ฝากผลงานไว้อย่างดีก็ตาม แต่จุดที่เป็นรอยด่างที่คนเยอรมันไม่ชอบคือการเปิดกว้างรับผู้ลี้ภัยมากจนเกินไป

ช่วงที่มีวิกฤตในซีเรียและแอฟริกา แมร์เคิลประกาศเปิดรับผู้ลี้ภัยมากถึง 1 ล้านคน หวังว่าจะได้มีแรงงานใหม่เข้ามาทำงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ แต่เมื่อมีปัญหาจากผู้ลี้ภัย ทำให้ความนิยมของเธอถดถอยและถูกโจมตีอย่างหนัก

การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีพรรคซึ่งต่อต้านการรับผู้ลี้ภัยด้วย ดังนั้นต้องดูว่าจะเป็นทางเลือกของพรรคใดที่จำเป็นต้องรับนโยบายด้านนี้เข้าไปด้วย

แต่แมร์เคิลได้รับการยอมรับด้านการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับจีน โดยความร่วมมือด้านเทคโนโลยี 5G และการผลิตวัคซีน ไม่ยอมทำตามแรงกดดันของสหรัฐฯ ดังนั้น การจากไปของแมร์เคิลจะทำให้การเมืองเยอรมนีขาดสีสันไประดับหนึ่ง

จากนี้ไปทั้งยุโรปและฟากฝั่งอเมริกาต้องรอดูว่าใครจะเป็นผู้นำคนใหม่ของเยอรมนีและของยุโรป รวมทั้งบทบาทสำคัญในองค์กรต่างๆ รวมทั้งนาโตด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น