xs
xsm
sm
md
lg

อังเกลา แมร์เคิล ผู้นำที่โลกต้องจดจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นพ นรนารถ



เยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีผู้นำสองคนที่พาประเทศผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สร้างชาติใหม่ได้อย่างราบรื่น มั่นคง เป็นที่จดจำในสถานะรัฐบุรุษแห่งชาติ

คนแรกคือ คอนราด อาเดนาว ผู้สร้างเยอรมนีขึ้นใหม่ จากผู้แพ้และผู้ร้ายในสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นประเทศประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง ตลอดการดำรงตำแหน่ง 3 สมัย 14 ปี

คนที่สอง เฮลมุต โคห์ล อยู่ในตำแหน่งนานถึง 16 ปีตั้งแต่ปี 1982-1998 เป็นผู้รวมชาติเยอรมันตะวันออกกับเยอรมันตะวันตกที่แยกกันโดยมีกำแพงเบอร์ลินคั่นกลาง นานถึง 45 ปีในยุคสงครามเย็น ให้เป็นประเทศเดียวกันในปี 1990 และผลักดันให้ยุโรปผนึกกัน รวมทั้งการสร้างเงินยูโร เป็นสกุลเงินตราของอียู

การรวมชาติเยอรมนีโดยโคห์ลทำให้เส้นทางชีวิตของอังเกลา แมร์เคิล หันเหจากนักวิทยาศาสตร์มาเป็นนักการเมือง รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของโคห์ลเป็นครั้งแรก จนก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก เมื่อปี 2005 ตอนที่โคห์ลเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน แมร์เคิลให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของอิตาลีว่า โคห์ลเป็นผู้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเธอไปอย่างสิ้นเชิงด้วยการรวมเยอรมนีเป็นหนึ่งเดียว

อังเกลา แมร์เคิล เกิดที่ฮัมบูร์ก เยอรมันตะวันตกในฤดูร้อนของปี 1954 เธอย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของกำแพงตั้งแต่ยังเป็นทารก เพราะบิดาของเธอซึ่งเป็นนักบวชนิกายโปรเตสแตนต์ ได้รับมอบหมายให้ไปประจำการที่เมืองเพอร์เลเบิร์กในเยอรมันตะวันออก แมร์เคิลเติบโต เรียนหนังสือ ทำงานในเยอรมันตะวันออก เธอเรียนฟิสิกส์เคมี จนถึงขั้นปริญญาเอก จบออกมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางนักการเมืองในปี 1990 หลังการรวมชาติเยอรมนี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสตรีและเยาวชน กระทรวงสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ ในรัฐบาลของเฮลมุต โคห์ล

แมร์เคิลได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี เมื่อปี 2005 ความเป็นผู้หญิงที่มาจากเมืองต่างจังหวัด ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกำแพงเบอร์ลิน ดูบ้านๆ แต่งตัวเชยๆ ทำให้เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนต้องปรับบุคลิกให้มีสีสันบ้าง และถูกดูแคลนว่า คงไปได้ไม่กี่น้ำ

แต่เธอก็เอาชนะคำสบประมาทเหล่านั้นได้ วันนี้แมร์เคิลเป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนีมา 16 ปีแล้ว นานเท่ากับ โคห์ล อาจารย์ใหญ่ทางการเมืองของเธอ สองปีก่อนตอนที่พรรคคริสเตียนเดโมแครตที่เธอเป็นหัวหน้า พ่ายแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นเธอประกาศวางมือทางการเมือง หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป ซึ่งมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา

ตอนที่แมร์เคิลเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในปี 2005 อัตราการว่างงานสูงถึง 16% เศรษฐกิจอ่อนแอ เพราะการรวมประเทศที่ต้องอุ้มเพื่อนร่วมชาติฝั่งตะวันออกซึ่งอยู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์มาเกือบครึ่งศตวรรษ แต่เยอรมนีภายใต้การนำของเธอเข้มแข็งขึ้นมาเรื่อยๆ อัตราการว่างงานลดลงมาเหลือเลขหลักเดียว ในบางช่วงอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันที่เยอรมนีเพิ่งเปิดธุรกิจหลังการระบาดใหญ่ของโควิด อัตราการว่างงานอยู่ที่ประมาณ 6%

ปี 2009 เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะของประเทศในยุโรป เริ่มต้นขึ้นที่กรีซ ตามมาด้วยประเทศโปรตุเกส อิตาลี ในขณะที่อีกหลายๆ ประเทศต่างมีหนี้สาธารณะในอัตราสูง จนหวั่นเกรงกันว่า จะส่งผลสะเทือนเป็นลูกโซ่ ทำให้สกุลเงินยูโรล่มสลาย เยอรมนีซึ่งในทางปฏิบัติคือ ผู้นำอียูร่วมกับฝรั่งเศส รับภาระหนักในการกอบกู้วิกฤต แมร์เคิล ยืนกระต่ายขาเดียวว่า จะให้การช่วยเหลือประเทศที่กำลังเกิดวิกฤต ก็ต่อเมื่อยอมรับเงื่อนไขที่เข้มงวด ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ขึ้นภาษี ลดเงินอุดหนุนประชาชน ทำให้เธอถูกประณามจากคนในประเทศลูกหนี้ว่า โหดร้าย ใจดำ

แต่ในที่สุด อียูก็ผ่านวิกฤตหนี้ที่เลวร้ายครั้งนั้นมาได้

ปี 2015 เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป เมื่อผู้อพยพหนีภัยสงครามในซีเรีย ลิเบีย และแอฟริกานับล้านคน ลงเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาตายเอาดาบหน้าบนแผ่นดินยุโรป หลายๆ ประเทศรับไม่ไหว ต้องผลักดันให้ผู้อพยพเหล่านั้น ลงเรือกลับไปเผชิญความตายในท้องทะเล เยอรมนีเป็นประเทศเดียวที่ประกาศเปิดพรมแดนรับผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านอย่างหนัก เพราะเกรงว่าจะเป็นภาระในระยะยาว แต่แมร์เคิลบอกว่า “เราเอาอยู่” (wir schaffen das) ซึ่งต่อมากลายเป็นคำขวัญประจำตัวของเธอ

ปัจจุบันผู้ลี้ภัยที่ตั้งรกรากอยู่ในเยอรมนี บางคนที่มีลูกเกิดมาถือสัญชาติเยอรมัน ตั้งชื่อทายาทของพวกเขาว่าแมร์เคิลหรืออังเกลา แมร์เคิล เป็นการรำลึกถึงบุญคุณของคนที่ทำให้พวกเขามีชีวิตใหม่

อย่างไรก็ตาม นโยบายเปิดรับผู้ลี้ภัยของแมร์เคิล ทำให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้น และปลุกชีพขบวนการนาซีใหม่ ลัทธิเสรีนิยมใหม่ที่บางครั้งใช้ความรุนแรงกับผู้ลี้ภัย และชุมชนมุสลิม พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือเอเอฟดี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาที่ต่อต้านผู้อพยพ ได้ชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งปี 2017 ได้ 94 ที่นั่ง จากเดิมเพียง 17 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า กลายเป็นพรรคอันดับ 3 รองจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนที่แมร์เคิล เป็นหัวหน้า และพรรคประชาธิปไตยสังคมที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคกรีนในตอนนี้

ภูมิหลังที่เติบโตมาในสังคมระบบคอมมิวนิสต์ของเยอรมันตะวันออก น่าจะบ่มเพาะความเข้าใจ ความเห็นใจในคนที่ได้รับผลกระทบจากระบบการเมือง การปกครองที่โหดร้าย อยุติธรรม ในขณะที่ความเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำให้เธอตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็น ตอนที่ตัดสินใจเปิดรับผู้ลี้ภัย แมร์เคิลบอกว่า เธอตัดสินใจบนความเป็นจริง

คู่แข่งทางการเมืองในประเทศ และคู่ต่อกรในเวทีระหว่างประเทศ มักจะประเมินแมร์เคิลต่ำกว่าความเป็นจริง ด้วยบุคลิกที่เคร่งขรึม ไม่ค่อยแสดงออก ไม่นิยมออกสื่อ ทำให้หลายคนคิดว่า เธอไม่เฉียบแหลม ไม่มีวิสัยทัศน์ แต่การถูกประเมินต่ำกว่าตัวตนที่แท้จริงนี่และคืออาวุธลับ ที่ทำให้อังเกลา แมร์เคิล ทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ตัดสินใจได้เด็ดขาดในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ และเป็นผู้นำที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดคนหนึ่งของเยอรมนีต่อจากคอนราด อาเดนาวร์ และเฮลมุต โคห์ล



กำลังโหลดความคิดเห็น