xs
xsm
sm
md
lg

คนอัฟกันนับหมื่นรอเสี่ยงตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ชาวอัฟกันนับหมื่นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงก่อนกลุ่มตอลิบานยึดประเทศได้ รวมทั้งคนอเมริกันบางส่วนที่ยังหลงเหลือจากการอพยพโดยเครื่องบินสหรัฐฯ ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงชีวิตสูงสุด ถ้าตอลิบานหาทางเล่นงานหรือล้างแค้น

นั่นหมายถึงอย่างดีที่สุดก็แค่โดนจับกุมคุมขัง แต่โอกาสถูกประหารก็มีมากด้วย

คนเหล่านี้จะถูกทิ้งโดยสหรัฐฯ ภายใต้การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะไม่ยอมเลื่อนระยะเวลาการขนผู้อพยพหลังจากวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นเส้นตายภายใต้ข้อตกลงกับกลุ่มตอลิบานในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำทำเนียบขาวปีที่ผ่านมา

ไบเดนประกาศว่า “ยิ่งจัดการภารกิจให้สำเร็จก่อนเส้นตายได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น” แต่ฝ่ายที่เฝ้ามองสถานการณ์มองว่าจะยังมีคนตกค้างอีกหลายหมื่นคน รอการโดนเล่นงานโดยตอลิบาน แม้การขนผู้อพยพจะทำให้ได้กว่า 7 หมื่นรายแล้วก็ตาม

ช่วงนี้การขนผู้อพยพอยู่ในการเร่งรีบอย่างมาก มีเครื่องบินออกจากกรุงคาบูล 1 ลำทุกๆ 45 นาที เอาผู้อพยพอัฟกันไปไว้ในประเทศต่างๆ ทั้งในตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์ และฐานทัพสหรัฐฯ ในเยอรมนี เพื่อรอการขนย้ายไปจุดหมายปลายทางสุดท้าย

ไบเดนไม่ใส่ใจแม้จะมีคนตกค้าง เพราะตอลิบานประกาศว่าจะไม่ยอมเลื่อนวันเพื่อการอพยพไปหลังจากสิ้นเดือนนี้ เพราะจะเป็นการผิดข้อตกลง

ผลที่เห็นชัดก็คือความล้มเหลวของผู้อำนวยการซีไอเอ วิลเลียม เบิร์นส ที่ไบเดนส่งตัวเป็นภารกิจลับในการเจรจากับหัวหน้ากลุ่มตอลิบานในกรุงคาบูล หาช่องทางยื้อเวลา

กรณีของอัฟกานิสถานกำลังถูกมองว่าเป็นความล้มเหลวของงานด้านนโยบายต่างประเทศของไบเดน เป็นการประเมินผิดพลาดอย่างแรงที่หวังว่ากองทัพและรัฐบาลอัฟกันจะสามารถสู้รบได้ระยะหนึ่ง หลังจากการถอนตัวของทหารสหรัฐฯ

กรุงคาบูลแตกรวดเร็วกว่าคาดไว้หลายเดือนถือว่าผิดพลาดทั้งด้านข่าวกรอง โดยหน่วยงานข่าวกรองและสถานทูตสหรัฐฯ ไม่เหลือเวลาสำหรับการอพยพผู้ลี้ภัยและคนอเมริกันที่มีอยู่หลายหมื่นคนในประเทศ กองทัพอัฟกันไม่ยอมสู้รบอย่างที่คาดไว้

ซ้ำร้าย ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี เผ่นออกนอกประเทศก่อนคาบูลโดนยึด อ้างภายหลังว่าถ้าตัวเองยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจะเป็นเงื่อนไขสำหรับการนองเลือด

ไบเดนประกาศเอาใจคนอเมริกันว่าตัวเองจะไม่ยอมส่งลูกหลานอเมริกันไปเสี่ยงชีวิตในสงครามนอกประเทศ ในพื้นที่ซึ่งไม่เป็นผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เพราะสมรภูมิอัฟกานิสถานเป็นประเทศที่สหรัฐฯ ได้ทำสงครามยาวนานถึง 20 ปี แต่ไม่สามารถชนะได้

นั่นเป็นการแก้เกี้ยวเท่านั้น สถานการณ์ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นรองกลุ่มตอลิบานอย่างมาก ไม่สามารถต่อรองได้ ซ้ำร้ายตอลิบานประกาศว่าจะไม่ให้ชาวอัฟกันเดินทางเข้าสนามบินเพื่อหนีออกนอกประเทศ เท่ากับว่าจะมีคนตกค้างอีกหลายหมื่นราย

คนเหล่านี้ต้องเสี่ยงว่าตอลิบานจะยังรักษาคำมั่นภายใต้การประกาศช่วงแถลงข่าวครั้งแรกว่าทั้งทหารและบุคลากรต่างๆ ที่ได้เคยทำงานร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ ได้รับการนิรโทษกรรม ไม่ต้องกลัวการถูกล้างแค้น สตรีก็มีสิทธิตามสภาพของกฎหมายอิสลาม

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวการจับกุมคุมขังและประหารชีวิตชาวอัฟกันที่ได้ทำงานกับกองทัพสหรัฐฯ สื่อมวลชนถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุดในการจะโดนเล่นงาน

ตอลิบานต้องการสกัดผู้อพยพโดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกจัดว่าเป็นระดับมันสมองเพื่อทำงานในการฟื้นฟูประเทศหลังจากสงคราม แต่คาดว่าจะมีการคัดกรองว่าใครเป็นคนสมควรที่ได้รับการไว้วางใจ และบทบาทที่ผ่านมาได้มีความสำคัญต่อสหรัฐฯ เพียงใด

ตอลิบานประกาศว่าต้องการเป็นมิตรกับทุกประเทศ อยากอยู่ร่วมกับประชาคมโลก และต้องการการรับรองโดยสหประชาชาติและกลุ่มประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือกลุ่มประชาคมยุโรป แม้จะเห็นว่าทั้งรัสเซียและจีนพร้อมยื่นมิตรไมตรีให้แล้วก็ตาม

ไบเดนยังมีเหตุผลที่อาจรับฟังได้บ้าง โดยอ้างว่าการอยู่ที่กรุงคาบูลเสี่ยงต่อการโดนโจมตีโดยหน่วยจรยุทธ์ของกองกำลังไอซิสเมื่อไหร่ก็ได้ และไม่ต้องการให้มีการสูญเสียชีวิตของทหารหรือคนอเมริกันซึ่งจำเป็นต้องตอบโต้ให้เต็มความสามารถ

การตัดสินใจของไบเดนได้สร้างความไม่พอใจให้หลายกลุ่ม ทั้งนักการเมืองพรรครีพับลิกัน หรือแม้กระทั่งคนในพรรคเดโมแครตซึ่งเห็นว่าหลายองค์กร ทั้งสำนักข่าวและสื่อมวลชนกำลังเร่งช่วยเหลือคนในเครือข่ายที่ตกค้างอยู่ให้รอดพ้นจากการล้างแค้น

มีสมาชิกรัฐสภาเตือนว่าไบเดนจะต้องรู้สึกว่ามือตัวเองเปื้อนเลือด ถ้าตอลิบานเปิดฉากล้างแค้นกับพวกที่เคยรับใช้สหรัฐฯ หลายชีวิตต้องสูญเสียไป แต่ก็มีคนแย้งว่าถ้ายังดึงดันอยู่หลังจากวันที่ 31 โดยตอลิบานไม่ยอม ก็ต้องเสี่ยงทำการสู้รบกันยืดเยื้อ

นั่นหมายความว่าสหรัฐฯ จะต้องทำทุกอย่าง แม้กระทั่งความพยายามที่จะต้องยึดกรุงคาบูลไว้ให้ได้จนกว่าการอพยพจะสิ้นสุด แต่ก็ไม่ใช่ความต้องการของไบเดนที่จะต้องเปิดฉากสงครามรอบใหม่ หลังจากที่อยู่ในอัฟกานิสถานนาน 20 ปี

ช่วงนี้ตอลิบานกำลังรู้สึกเป็นต่อ ทั้งฮึกเหิมกับความสำเร็จในการยึดประเทศได้อีกครั้ง รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ เป็นอาวุธทันสมัยและเครื่องบินรบชนิดต่างๆ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะขนเอาไปได้

ส่วนหนึ่งของอาวุธเหล่านั้นถูกทิ้งไว้ให้กองทัพอัฟกันไว้สู้รับกับตอลิบานหลังจากได้รับการฝึกจากกองกำลังของนาโตในช่วงที่ทหารต่างชาติยังอยู่รบในประเทศ

ประวัติศาสตร์จะเป็นตัวตัดสินว่าไบเดนตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่ และผลเสียต่อความนิยมทางการเมืองจะมีมากเกินกว่าระดับที่จะกอบกู้ได้หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น