เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตชี้ชวนให้แวะๆ ไปแถวๆ “แนวรบด้านตะวันออกกลาง” กันอีกนั่นแหละทั่น!!! เพราะสำหรับแนวรบด้านอื่นๆ แม้แต่แถบ “ทะเลจีนใต้” ที่อาจทำให้ใครๆ “หูแหก-ตาแหก” กันไปมั่ง ด้วยเหตุเพราะเรือรบอเมริกัน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ไปจนถึงอินตะระเดียโน่นเลย ต่างพร้อมใจแล่นมาฉวัดเฉวียนแถวๆ พื้นที่ดังกล่าว แต่สำหรับใครก็ตามที่พอเคยได้ยินข่าวคราว เรื่องการประชุมสุดยอดทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของ 3 ผู้นำโลก คือผู้นำจีน ผู้นำฝรั่งเศส และเยอรมนี เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คงไม่ถึงกับตื่นเต้ลล์ล์ล์ แตกตื่น อะไรมากมายนัก...
เพราะการแสดงออกถึงความร่วมไม้-ร่วมมือของ 3 ประเทศในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ไม่ว่าด้านธุรกิจ การค้า ไปจนถึงมุมมองต่อภูมิรัฐศาสตร์ของแต่ละประเทศ ฯลฯ คงทำให้การส่ง “เรือรบ” เข้ามาแล่นไป-แล่นมาในทะเลจีนใต้นั้น อาจไม่ต่างไปจากการเดินทางมาปิกนิก หรือมาตากอากาศ อะไรทำนองนั้น แม้แต่อินตะระเดียที่เคยมีเรื่อง มีราว บริเวณพรมแดนกับประเทศจีน หรือเคยถูกปั่น ถูกปลุก ให้เป็นหัวหอกสำคัญของกลุ่มพันธมิตรทางทหารอย่างกลุ่มประเทศ “QUAD” ในการปิดล้อมและต่อต้านจีน แต่ภายใต้ภาวะที่กำลัง “งอมพระราม” เพราะเชื้อโควิด หรือกำลังคิดหาทางฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจให้หวนกลับมาสู่จุดเดิมให้จงได้ โอกาสที่จะเกิดแรงกระตุ้น แรงจูงใจใดๆ ในการกดดัน เล่นงาน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้ๆ จะเป็นอันดับ 1 ของโลก แถมยังเป็นประเทศที่สามารถฟื้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้กลับไปเป็น “บวก” ได้อย่างชนิดรวดเร็วเอามากๆ อีนี่...แขก คงไม่อยากจะคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อยใดๆ หรอกนายจ๋า!!!
กระทั่งบรรดาประเทศในอาเซียน...ที่คุณพ่ออเมริกาอุตส่าห์ส่งรัฐมนตรีกลาโหมเดินทางมาเยือนกันแบบเป็นแผงๆ โดยหวังอยากให้กลายสภาพไปเป็นประเทศ “QUAD Plus” ให้จงได้!!! แต่แค่ฟังจากคำแนะนำ หรือ “คำเตือน” ของหนึ่งในผู้นำอาเซียน อย่างนายกรัฐมนตรี “ลี เซียนลุง” แห่งสิงคโปร์ ประเทศที่ไม่เพียงแต่รวยสุดๆ แต่ยังได้ชื่อว่า “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” เป็นที่สุดในอาเซียนซะอีกด้วย ระหว่างการพูดจาปราศรัย ณ เวทีประชุม “Aspen Security Forum” เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ถึง “อันตราย” ของแนวคิด “ต่อต้านจีน” ในหมู่นักการเมือง 2 พรรคการเมืองในอเมริกา และถึงขั้นเรียกร้องให้ “หยุดก่อน...หยุดก๊อน...หยุดก่อน” แบบเดียวกับวง “คาราวาน” บ้านเรา หรือ “หยุดสวด-หยุดเพลงศึก-มาเถิดดื่มน้ำเย็น-จากบ่อลึก-ผนึกหัวใจไตร่ตรอง” อะไรทำนองนั้น โอกาสที่จะเกิดพันธมิตรต่อต้านจีนขึ้นมาในหมู่ประเทศอาเซียน ก็ยิ่งแทบ “เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย” ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
แต่สำหรับ “แนวรบตะวันออกกลาง” นี่สิทั่น!!! ภูมิภาคและพื้นที่อันเต็มไปด้วยประเทศที่ล้วนแล้วแต่มี “ขีดความอดทนต่ำ” ไปด้วยกันทั้งสิ้น เกิดอะไรวิบๆ ไหวๆ ขึ้นมา ก็ไม่ถึงกับอยากจะคิดหน้า-คิดหลังให้มากเรื่อง มากความ ภายใต้อุบัติการณ์การ “ถล่มเรือบรรทุกน้ำมันอิสราเอล” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ถือเป็นการ “แก้แค้น-เอาคืน” โดยปกติธรรมดา แต่ท่ามกลางห้วงระยะเวลาและฉากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป คือเกิดขึ้นในขณะที่การเจรจา “ข้อตกลงนิวเคลียร์” (JCPOA) ระหว่างอิหร่านกับอเมริกา อาจก่อให้เกิด “ผลบวก-ผลลบ” ต่ออิหร่านหรืออิสราเอลขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียหันไปยกระดับ “ระบบป้องกันภัยทางอากาศ” ให้กับประเทศพันธมิตรอย่างซีเรีย จนสามารถสกัดกั้น กวาดจรวดที่เครื่องบินอิสราเอลยิงถล่มพื้นที่ต่างๆ ในประเทศนี้ได้เป็นแผงๆ ส่งผลให้กองกำลังอิหร่านไปจนถึงพวกเฮซบอลเลาะห์ ที่ฝังตัวอยู่ในซีเรีย พลอยอยู่รอด-ปลอดภัย ขึ้นมามิใช่น้อย รวมทั้งเกิดขึ้นระหว่างที่นายกรัฐมนตรีคนเก่าของอิสราเอล คือ “นายเบนจามิน เนทันยาฮู” กำลังออกอาการกระเหี้ยนกระหือรือ เตรียมแผนโค่นล้มนายกรัฐมนตรีคนใหม่ “นายนาฟทาลี เบนเนตต์” หรือรัฐบาลใหม่ ที่เต็มไปด้วยร่องรอย “ความแปลกแยก” อันเนื่องมาจากการรวมตัวของนักการเมืองประเภทขวาสุด กับพวกกลางขวา และพวกปีกซ้าย โดยอาจอาศัย “ปัญหาภัยคุกคามจากอิหร่าน” นี่แหละ...เป็นเครื่องมือ!!!
โดยเมื่อช่วงวันจันทร์สัปดาห์ที่ผ่านมา (2 ส.ค.) ก็ได้ออกมาหยอด มาแหย่ รัฐบาลใหม่ แบบชนิดไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่ “โทนี-โทนาฟ” แห่ง “คลับเห่า” บ้านเรานั่นเอง คือถึงขั้นกล่าวหาว่า “นายกฯ ทางเลือก” หรือรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลคนปัจจุบัน “นายยาอีร์ ลาปิด” (Yair Lapid) นั้น ไปตกลงกับรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ว่ายอมแจ้งข่าวล่วงหน้าให้กับปฏิบัติการใดๆ ก็ตาม ที่อิสราเอลคิดจะลงมือ ลงไม้กับอิหร่าน จนไม่เพียงทำให้ประเทศอิสราเอลแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “รัฐในอารักขาของอเมริกา” (US protectorates) เผลอๆ...ข่าวคราวดังกล่าวอาจ “รั่วไหล” ไปถึงอิหร่าน ในรูปหนึ่ง รูปใด จังหวะหนึ่ง จังหวะใดก็เป็นได้....
แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว แต่แน่ล่ะว่า...ภายใต้การหยอด การแหย่ ในลักษณะเช่นนี้ รัฐบาลใหม่อิสราเอล ย่อมหนีไม่พ้นที่ต้องแสดงออกถึงความเอาจริงเอาจัง หรือความ “ขวาสุดๆ” เอาไว้มั่ง!!! การแก้แค้น-เอาคืนต่อกรณีการถล่มเรือ “MV Mercer Street” ของอิสราเอล ไปจนการหาทางขจัดกวาดล้าง “ภัยคุกคามอิหร่าน” จึงต้องถูกป่าวประกาศโดยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อช่วงวันอังคารที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่ากองทัพอิสราเอลพร้อมที่จะ “ปฏิบัติการโดยลำพัง” ต่ออิหร่าน หรือโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้พันธมิตรอย่างคุณพ่ออเมริการู้ล่วงหน้าเอาเลยก็ยังได้...
ส่วนบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล...ไล่มาตั้งแต่ “พลโทอาวิฟ โคฮาวี” (Aviv Kohavi) ประธานเสนาธิการทหารก็ได้ออกมาระบุถึงการให้คำชี้แนะต่อกองทัพอิสราเอล ให้ “เตรียมพร้อม” ที่จะปฏิบัติการใดๆ ต่ออิหร่านในอีกไม่นานนับจากนี้ส่วนรัฐมนตรีกลาโหม นายพล “เบนนี แกนตซ์” (Benny Gantz) แห่งพรรคฟ้า-ขาว ไม่เพียงแต่ออกมาตอบคำว่า “Yes” แบบเต็มปาก-เต็มคำ กับสื่ออิสราเอลอย่าง “Ynet News” ถึงความพร้อมในการปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน ยังถึงกับออกมาบอกกล่าวกับบรรดาสมาชิกมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เมื่อช่วงวันพุธ (4 ส.ค.) ประมาณว่า...ภายในอีก 10 สัปดาห์ข้างหน้า อิหร่านมีความพร้อมที่จะยกระดับสมรรถนะยูเรเนียม ถึงขั้นสามารถนำมาผลิต “อาวุธนิวเคลียร์” ได้แล้ว...ดังนั้น ข้อสรุปของรัฐมนตรีกลาโหม ต่อบรรดาผู้แทนยูเอ็น ก็คือ...“ถึงเวลาแล้ว...ที่จะต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าการแซงชั่นทางเศรษฐกิจ หรือปฏิบัติการทางทหาร” ไม่ว่าด้วยความร่วมมือของประเทศต่างๆ หรือด้วย “อิสราเอลโดยลำพัง” อย่างที่นายกรัฐมนตรีรายใหม่ ของอิสราเอลได้ว่าเอาไว้แล้ว...
และด้วยการเต้นแร้ง เต้นกา การแสดงออกถึงความเอาจริง-เอาจัง อันเนื่องมาจากการหยอด การแหย่ของนายกรัฐมนตรีคนเก่านั่นเอง ก็เลยส่งผลให้ฝ่ายอิหร่าน หนีไม่พ้นต้องออกมาส่งเสียง “คำราม” เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ “นายSaeed Khatibzadeh” ที่ออกมาระบุไว้เมื่อวันพฤหัสฯ (5 ส.ค.) ที่ผ่านมาประมาณว่า... “เราขอย้ำเอาไว้ให้เป็นที่ชัดเจน ว่าการกระทำโง่ๆ ใดๆ ก็ตามต่ออิหร่าน จะต้องเจอกับการตอบโต้ที่สาสม...ขออย่าได้คิดทดสอบเราเป็นอันขาด!!!” หรือประธานเสนาธิการทหารอิหร่าน (IRGC) นายพล “Hossein Salami” ไปจนผู้บัญชาการทหารบก “พลตรีAbdolrahim Mousavi” ที่ออกมาท้าทายถึงขั้นว่า “อิหร่าน...พร้อมเสมอสำหรับทุกสถานการณ์” และ “กองทัพอิหร่านได้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดไว้แล้ว ไม่ว่ากำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อตอบโต้ต่อการข่มขู่ใดๆ ของศัตรู” ฯลฯ ฯลฯ...
อันนี้นี่แหละ...ที่น่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง กว่า “แนวรบในทะเลจีนใต้” หลายช่วงตัว เพราะสำหรับพญามังกรอย่างคุณพี่จีนนั้นท่านค่อนข้างถนัดในการ “ลอดเลื้อย” หรือ “โอบกระหวัดรัดพัน” ไม่ถึงกับโฉ่งๆ ฉ่างๆ อะไรมากมาย ขนาดเจอรายการยั่วยวนกวนส้นตีนด้วยการขายอาวุธล็อตล่าสุดมูลค่ากว่า 750 ล้านดอลลาร์ของอเมริกาให้ไต้หวัน ท่านยังประกาศว่าจะโต้ตอบ “อย่างชอบธรรมและเท่าที่จำเป็น” ไม่ถึงกับคิดจะก่อให้เกิด “เงื่อนไข” ใดๆ ในการระดมพันธมิตรอเมริกามารุมทึ้ง รุมกระทืบท่านได้ง่ายๆ แต่สำหรับ “แนวรบในตะวันออกกลาง” ที่เต็มไปด้วยผู้ที่วิบๆ ไหวๆ ผู้ที่สามารถ “หัวร้อน” ได้ทุกเมื่อ คงต้องหันไปจับตาให้มากๆ เข้าไว้ เพราะเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รายการดวลปืนใหญ่ ดวลจรวด ระหว่างกองทัพอิสราเอลกับพวกเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน ก็เริ่มเปิดฉาก เปิดผ้าม่านกั้ง ขึ้นมามั่งแล้ว!!!