xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเหลี่ยม”กลับมาหวังสอย“บิ๊กตู่”!(ตอนเก้า) เมื่อ“สองชาย”ผู้ผิดคำพูด-สู้กัน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 “สอดแนมการเมือง”

“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


“ทุกคนต่างล้วนมีความเป็นอัจฉริยะ แต่ถ้าเราตัดสินความสามารถของปลา จากการปีนต้นไม้ มันก็จะใช้ชีวิตที่เหลือโดยเชื่อว่ามันโง่เขลา”

นั่นเป็นคำพูดของอัจฉริยะโลก “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ที่ทำให้เข้าใจว่า อย่าคิดอย่าเสียเวลาสอนให้“ปลาปีนต้นไม้” ที่สำคัญต้องรู้ว่า “มึงเป็นปลา ปีนต้นไม้ไม่เป็น” นะโว้ย งานนี้ขึ้นอยู่กับ “ปลา” ฉลาดหรือโง่ครับ!

มนุษย์-มีสมองเหนือกว่าสัตว์! มนุษย์-ที่มีคุณภาพจึงต้อง “ฉลาดคิดฉลาดรู้” ในสิ่งที่ตน “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้”..จริงไหม?

ทว่า..ก่อนอื่น “มนุษย์”ต้ อง-กล้า! กล้าที่ “ตัวเอง-ต้องตรวจสอบ-ตัวเอง” อย่างตรงไปตรงมา โดยไร้อคติใดๆทั้งสิ้น ต้องรู้ให้ได้ว่า “ตัวเอง” มีหรือไม่มีความสามารถ ในสิ่งที่ “ตัวเอง” กำลังทำ ว่าทำได้หรือเปล่า? ถ้าทำไม่ได้ แต่ยังฝืนทำต่อไปเรื่อยๆ ย่อมทำให้ส่วนรวมเสียหายอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งตัวเองจะเสียผู้เสียคนเมื่อถึง “บทจาก-บทจบ” นะว้อย..

สังคม “มนุษย์” แต่ละชาติ มีทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย มากและน้อยแตกต่างกันไป แต่ด้วยสติปัญญา “มนุษย์ฉลาดกับโง่” ไม่เท่ากัน จึงคิดและทำไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา

ดังนั้น “มนุษย์”จึงต้องยึดเหตุผลเป็นหลัก เพราะสภาพของแต่ละสังคมนั้น มีทั้งเหมือนกันกับไม่เหมือนกัน “มนุษย์” จึงต้องคิดและทำในสิ่งที่เหมาะสม กับสภาพความเป็นจริงของชีวิต เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน..

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงของทุกสังคม มักมีเรื่องความผิดพลาดของ “มนุษย์” ที่เป็นถึงระดับ “ผู้นำชาติ” บางคนหลงตัวเอง บางคนประเมินตัวเองเกินจริง เก่งบางเรื่องแต่ด้อยในเรื่องสำคัญ ฟังคนวงแคบละเว้นฟังคนวงกว้าง สุดท้ายก็เลยเป็น “ผู้นำชาติ” ที่ด้อยผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ หลงสร้างแต่ผลงานเยอะแยะตาม “รัฐราชการ” ไร้ผลงาน “หลักให้ชาติ” ในสายตาประชาชน-จึงสอบตก(ว่ะ)!

ทั้งๆ ที่ “ข้อสอบที่ต้องแก้ให้ชาติ” นั้น ตัวเองเป็นผู้ระบุให้ผู้คนทั้งชาติรับรู้ เช่น ต้องปราบการโกงชาติ-สอบตก! ต้องลดความเหลื่อมล้ำมิติคนรวยกับคนจน-สอบตก! การปฏิรูปชาติมิติการเมือง-สอบตก! ฯลฯ

ดังนั้น ศรัทธาความเชื่อถือจากผู้คนในชาติต่อ “ผู้นำชาติ” จึงสาละวันเตี้ยลงๆ “ผู้นำชาติคนนั้น” จึงต้องทนจมปลักอยู่กับ “ภาษาขับไสไล่ส่ง” ของผู้คน หลังยึดกับสืบทอดอำนาจมานานกว่า 7 ปี

เอาหละ..คราวนี้มาดูเรื่อง “น่าเสียดาย” ทางการเมือง ของ “คนสองคน” ที่โชคดีได้เป็น “ผู้นำชาติ” ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ของไทย มีโอกาสทองที่จะใช้อำนาจรัฐ สร้างชาติให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น มีโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนคนส่วนใหญ่ ให้กินดีอยู่ดี สร้างสังคมศานติสุข

เฮ้อ!.. “คนสองคน” ที่มีอำนาจระดับชาติ ทั้งคู่กลับทำไม่ได้ดังคำคุยโม้คุยโต โกหกผู้คนหน้าตาเฉย รักษาไม่ได้แม้กระทั่ง “คำพูด” ของตนเอง จนถูกสื่อฯกับผู้คนเปิดโปงอย่างล่อนจ้อน

เอ๊ะ!..สองคนนี้นี่ใครหว่า? ที่เป็นถึง “ผู้นำ” ชาติไทย

คนหนึ่ง-เป็น “นายกฯ มหาเศรษฐีเหลี่ยม” ที่ทำผิดคำพูด เพราะดันประกาศ “ผมรวยแล้วจะไม่โกงชาติ” แต่ที่ไหนได้..ผลงานจริงดัน“รวยแล้วยังโกงชาติ” ซ้ำร้าย “โกงทั้งโคตร” ด้วย

ยัง!.. ยังไม่พอ.. ยังเสือกสันดานโลภ “โกงไม่รู้จักพอ” เสียอีก!

อีกคนหนึ่ง-เป็น “ชายชาติทหารตู่” ที่ควรจะ “พูดจริงทำจริง” เมื่อมีโอกาสทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้งเครือข่ายโกงชาติกับล้มเจ้า ที่ถูกประชาชนผู้รักชาติชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง ครั้งแล้วครั้งเล่านานแรมปี
“ผู้นำรัฐประหารคนนั้น” ประกาศชัดเจนว่า รัฐบาลที่ “ชายคนนี้” เป็น “นายกรัฐมนตรี” จะทำผลงานภาพรวมหลายเรื่องของชาติ ให้สำเร็จได้โดยไวภายในยุคนั้น นั่นคือ ต้องปราบปรามขบวนการโกงชาติ! ต้องลดความเหลื่อมล้ำในมิติสำคัญๆ! ต้องปฏิรูปชาติ..อ้อ..ต้องปฏิรูปการเมืองชาติก่อนจัดเลือกตั้ง ฯลฯ

“นายกฯ รัฐประหารคนนั้น” ยึดอำนาจรัฐยาวนานกว่า 5 ปี ใช้เวลากับการทำทุกวิถีทางให้ได้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง” สืบทอดอำนาจรัฐ ลากยาวต่อเนื่องกระทั่งวันนี้มากว่า 2 ปี

“นายกฯ รัฐประหาร” คนนั้น กับ “นายกฯ เลือกตั้ง”คนนี้ เป็น “ชายคนเดียวกัน” เป็น “ชายผู้มีอำนาจ” บริหารชาติในวันนั้นจรดวันนี้ ยาวนานกว่า 7 ปี

“ชายคนนี้” ยังคงทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ด้วยการนั่งจับเจ่าร้องเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” อยู่ริม “คลองน้ำเน่า” ที่ “ชายผิดคำพูดคนนั้น” ฉุดกระชากลาก “นักการเมืองสามานย์” ส่วนใหญ่ ลงไปดำผุดดำว่ายด้วยกันในขณะนี้

ผลของการไม่ปราบปรามการโกงชาติจริงจัง! รัฐบาลรัฐประหารกับเลือกตั้งของ “ชายคนนี้” จึงต้องมีคำประกาศ ให้การปราบคอร์รัปชั่นโกงชาติ ต้องเป็น “วาระแห่งชาติไทย” ซ้ำซากถึง 2 ครั้ง เพราะตลอด 7 ปีกว่า การโกงในชาติไทยยังเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่หยุดหย่อนทั่วทุกหย่อมหญ้า จนชาวบ้านพูดตรงกันเป๊ะว่า..เฮ้ย..“นี่มัน..รัฐบาลพูดอย่างทำอย่างนี่หว่า..”..จริงไหม?

การไม่จริงจังกับการแก้ปัญหาการกระจายรายได้ ให้มีความเป็นธรรม ซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวด เป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายต่อความเจริญ และความมั่นคงอย่างแท้จริงของชาติและประชาชน มีผลให้ความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่าง “คนรวย” กับ “ผู้มีรายได้น้อย” ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของชาติที่มีความเหลื่อมล้ำสูงระดับโลกแล้ว

เพราะทุกวันนี้รัฐบาล “ชายชาติทหาร” ทำให้ “คนรวย-รวยยิ่งขึ้น” ถ่างช่องว่างให้ “คนจน-จนลงเรื่อยๆ” ไม่หยุดยั้ง..

“ความวัวยังไม่หาย-ความควายเข้ามาแทรก” เมื่อรัฐบาล “ชายชาติทหารตู่” ต้องมาเจอ “โควิด-19” ระบาดไปทั่วโลก ขยายพรวดพราดเข้ามาอาละวาดในไทยอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ คราวนี้ก็เลยยุ่งขิงไปกันใหญ่ เพราะเจอทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจหดตัวตกวูบวาบอย่างหนักหน่วง..

ระยะต้น “ชายชาติทหารตู่” จัดการกับภัยโรคระบาดโควิดได้ดีพอสมควร แต่เพราะกลไกรัฐยังโลภในเงินทอง จึงแอบ “เก็บส่วยเถื่อน” ในธุรกิจสีเทาและสีดำ เฉพาะ “บ่อนเถื่อน” กับ “แหล่งค้ากามเถื่อน” ก็ทำให้โควิดระบาดไปทั่วรอบแล้วรอบเล่า

แถม “นายกฯ ตู่” ยังปล่อยให้ผู้คนที่ติด “เชื้อโควิด” ไปเที่ยวสงกรานต์ แพร่เชื้อร้ายกระจายไปทั่วประเทศอย่างอิสระเสรี ทั้งๆที่ รัฐบาล “บิ๊กตู่” มีจุดอ่อนและข้อบกพร่อง ในเรื่องการแก้ไขปัญหาโรค “โควิด-19” ที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนั้น นั่นคือ

“นายกฯ บิ๊กตู่” ขาดวิสัยทัศน์ และไม่ทำจริงจังกับการบริหารจัดการในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง “จัดซื้อจัดหาวัคซีน” ช้าเกินการณ์ และไม่หลากหลายเท่าที่ควร ดันไปเน้นหนักกับหวังพึ่งวัคซีน“ซิโนแวค” กั“แอสตร้าเซนเนก้า”เป็นหลัก

“รัฐบาลบิ๊กตู่” จึงเป็นตัวการ ทำให้โควิดระบาดเร็วขึ้น-ระบาดกว้างขึ้น-ระบาดหนักยิ่งขึ้น ผสมผสานกับมีเชื้อโควิดกลายพันธุ์มาสมทบอีก

แม้“ซิโนแวค”จากจีนจะมาเรื่อยๆ แต่ก็ถูกโจมตีในเรื่อง“คุณภาพ” และ“แอสตร้าเซนเนก้า”ก็มาช้าไม่ทันสถานการณ์ คนไทยจึงยังไม่ได้รับวัคซีนมากเท่าที่ควร ยิ่งฝ่ายรัฐปลุกเร้าให้ผู้คนทั่วไทย เร่งออกมาฉีดวัคซีนแบบ “ปูพรม” ทั้งๆ ที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ยัง “ไม่มีพรมจะปู-วัคซีนมีไม่พอให้ฉีด” เรื่องราวขณะนี้เลยปั่นป่วนอลหม่านอุตลุด

ห้วงนี้! ผู้คนมากมายตรวจเชื้อโควิดไม่ได้! คนติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด! เตียงคนไข้เริ่มขาด! อุปกรณ์จำเป็นทางการแพทย์ไม่พอ! บุคลากรทางการแพทย์ในหลายจุด มีทั้งติดเชื้อฯ กับแบกภาระหนักจนเกินกำลัง!

วัคซีนไม่พอ-ไม่หลากหลาย ได้กลายเป็นปัญหาทางการเมืองแล้ว! แทบทุกเรื่องได้กลายเป็นเรื่องติดลบ ก่อตัวเป็นสึนามิถาโถมเข้าใส่ “นายกฯ บิ๊กตู่” หนักขึ้นและหนักขึ้นเรื่อยๆ

ที่สำคัญ “ประชาชนส่วนใหญ่” เครียดหนักขึ้น ฯลฯ เพราะมองไม่เห็นอนาคต และไม่เชื่อถือปัญญากับฝีมือ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ว่าจะลดการระบาดของโควิดลงได้เมื่อไหร่? อีกทั้งการดำรงชีวิตก็ลำบากแสนสาหัสยิ่งขึ้น ฯลฯ

“นายกฯ บิ๊กตู่” ทำผิดคำพูดมานานกว่า 7 ปี จะอยู่ต่อไปและ “ทำตัวแบบเดิมๆ” ไม่แก้ไขอะไรให้ผู้คนมีความหวัง ก็เชิญอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ตามใจชอบเถอะ!

“อดีตนายกเหลี่ยม” ชายที่ผิดคำพูดอีกคน จึง “ได้ทีขี่แพะไล่” หนักขึ้นไงล่ะ..!




กำลังโหลดความคิดเห็น