ผู้จัดการรายวัน360-กบง.ไฟเขียวขยายเวลาคงราคา LPG ถัง 15 กก.ที่ 318 บาท ออกไปอีก 3 เดือน เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนจากผลกระทบการแพร่ของโควิด-19 ที่ยังคงไม่คลี่คลาย มีผล 1 ก.ค.-30 ก.ย.นี้ พร้อมมีมติเห็นชอบปริมาณการนำเข้า LNG ปี 2564–66 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า กบง.ได้พิจารณาเห็นชอบให้คงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นเพื่อคงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 318 บาทต่อถัง (ขนาด 15กิโลกรัม) ต่อไปอีก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2564 โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ราคา LPG แล้วนำเสนอแนวทางการทบทวนราคาขายหน้าโรงกลั่น LPG ต่อ กบง. พิจารณาอีกครั้ง
“เดิมกบง. ได้มีการพิจารณาคงราคา LPG ในอัตราดังกล่าว สิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2564 จึงได้พิจารณาเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบการดำรงชีพและภาระค่าครองชีพของประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ราคา LPG ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ กบง. ยังได้เห็นชอบปริมาณการนำเข้า Liquefied Natural Gas (LNG) ปี 2564–2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ให้สามารถในการนำเข้า LNG ที่ไม่กระทบต่อ Take or Pay สำหรับปี 2564 -2566 เท่ากับ 0.48 , 1.74 และ 3.02 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดำเนินการจัดสรรปริมาณการนำเข้า LNG ตามโครงสร้างของกิจการก๊าซธรรมชาติในระยะที่ 2 คือ Regulated Market (กลุ่มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. จัดหา LNG เพื่อนำมาใช้กับภาคไฟฟ้าที่ขายเข้าระบบ) และ Partially Regulated Market (กลุ่มที่จัดหา LNG เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ ภาคอุตสาหกรรมและกิจการของตนเอง) สำหรับ New Demand และกำหนดหลักเกณฑ์ในการนำเข้าของ Shipper รวมทั้งกำกับดูแลต่อไป
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า กบง.ได้พิจารณาเห็นชอบให้คงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นเพื่อคงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 318 บาทต่อถัง (ขนาด 15กิโลกรัม) ต่อไปอีก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2564 โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ราคา LPG แล้วนำเสนอแนวทางการทบทวนราคาขายหน้าโรงกลั่น LPG ต่อ กบง. พิจารณาอีกครั้ง
“เดิมกบง. ได้มีการพิจารณาคงราคา LPG ในอัตราดังกล่าว สิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2564 จึงได้พิจารณาเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบการดำรงชีพและภาระค่าครองชีพของประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ราคา LPG ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ กบง. ยังได้เห็นชอบปริมาณการนำเข้า Liquefied Natural Gas (LNG) ปี 2564–2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ให้สามารถในการนำเข้า LNG ที่ไม่กระทบต่อ Take or Pay สำหรับปี 2564 -2566 เท่ากับ 0.48 , 1.74 และ 3.02 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดำเนินการจัดสรรปริมาณการนำเข้า LNG ตามโครงสร้างของกิจการก๊าซธรรมชาติในระยะที่ 2 คือ Regulated Market (กลุ่มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. จัดหา LNG เพื่อนำมาใช้กับภาคไฟฟ้าที่ขายเข้าระบบ) และ Partially Regulated Market (กลุ่มที่จัดหา LNG เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ ภาคอุตสาหกรรมและกิจการของตนเอง) สำหรับ New Demand และกำหนดหลักเกณฑ์ในการนำเข้าของ Shipper รวมทั้งกำกับดูแลต่อไป