ผู้จัดการรายวัน360-ศาลนัดตรวจหลักฐานคดี “แอมมี่” เผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำ อัยการโจทย์ขอนำพยานเบิกความ 28 ปาก จำเลยมี 5 ปาก นัดสืบพยานโจทย์นัดแรก 1 มี.ค.ปีหน้า ศปปส.ยื่นอธิบดีศาลอาญา ถอนประกัน “เพนกวิน” กับพวก หลังเคลื่อนไหวผิดเงื่อนไข ด้านการเข้าชื่อแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน รื้อระบอบประยุทธ์ ทะลุ 1 แสนรายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีดำ อ.1199/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์ แนวร่วมกลุ่มราษฎรเป็นจำเลย ในฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
โดยโจทย์และจำเลยได้เดินทางมาศาล และแถลงไม่มีข้อเท็จจริงที่รับกันได้ โดยโจทย์จะสืบพยาน 28 ปาก ใช้เวลา 7 นัด และจำเลยมีพยานเข้าสืบ 5 ปาก ขอใช้เวลา 1 นัด ซึ่งจะเริ่มสืบพยานนัดแรกวันที่ 1 มี.ค.2564 เวลา 13.30 น.
นายไชยอมร ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ถูกกลุ่มคนมายื่นคำร้องขอถอนประกันตัวว่า เป็นความคิดเห็นตามสิทธิทางรัฐธรรมนูญ เราออกมาเรียกร้องเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้ออกเพื่อเจตนาทำร้ายประเทศ เจตนาอยากให้ประเทศดีขึ้นในระบบโครงสร้างที่ดีขึ้นเท่านั้น
วันเดียวกันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และเครือข่ายปกป้องสถาบัน นำโดยนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว ตัวแทน ศปปส. เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขอให้พิจารณาการออกมาร่วมชุมนุมของผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แบบมีเงื่อนไขว่าเข้าข่ายผิดเงื่อนไขดุลพินิจในการถอดถอนการประกันตัวหรือไม่
ทั้งนี้ นายจักรพงศ์ได้นำหลักฐานภาพถ่ายมาแสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาคดี 112 จำนวน 9 คน ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายอานนท์ นำภา , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข , นายภาณุพงศ์ จาดนอก , นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ , น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , น.ส.เบนจา อะปัญ , นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ยังมีพฤติการณ์ที่ขัดต่อเงื่อนไข หรือกระทำการจาบจ้วงสถาบัน และเขียนข้อความผ่านสื่อออนไลน์เข้าข่ายจาบจ้วง และชักชวนยุยงปลุกปั่นบิดเบือนให้คนออกมาชุมนุม จึงขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตามเห็นสมควร และในวันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ศปปส.จะไปดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่ สน.ปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด เฟซบุ๊ก Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ ได้รายงานยอดผู้ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในแคมเปญ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” มีจำนวนทะลุ 1 แสนรายชื่อแล้ว และจะรวบรวมเอกสารทั้งหมด ส่งสภาฯ โดยเร็วที่สุด อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น เมื่อประชาชนแสดงพลัง หยุดสืบทอดอำนาจพอกันทีกับโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน
ทั้งนี้ เนื้อหาในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่กลุ่ม Re-solution รณรงค์แก้ไข ได้แก่ ล้ม ส.ว.เดินหน้าสภาเดี่ยว โละศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ปฏิรูปที่มา อำนาจ การตรวจสอบ เลิกยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป ปลดโซ่ตรวนอนาคตประเทศ และล้างมรดกรัฐประหาร-หยุดวงจรอุบาทว์ขวางประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีดำ อ.1199/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์ แนวร่วมกลุ่มราษฎรเป็นจำเลย ในฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
โดยโจทย์และจำเลยได้เดินทางมาศาล และแถลงไม่มีข้อเท็จจริงที่รับกันได้ โดยโจทย์จะสืบพยาน 28 ปาก ใช้เวลา 7 นัด และจำเลยมีพยานเข้าสืบ 5 ปาก ขอใช้เวลา 1 นัด ซึ่งจะเริ่มสืบพยานนัดแรกวันที่ 1 มี.ค.2564 เวลา 13.30 น.
นายไชยอมร ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ถูกกลุ่มคนมายื่นคำร้องขอถอนประกันตัวว่า เป็นความคิดเห็นตามสิทธิทางรัฐธรรมนูญ เราออกมาเรียกร้องเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้ออกเพื่อเจตนาทำร้ายประเทศ เจตนาอยากให้ประเทศดีขึ้นในระบบโครงสร้างที่ดีขึ้นเท่านั้น
วันเดียวกันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และเครือข่ายปกป้องสถาบัน นำโดยนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว ตัวแทน ศปปส. เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขอให้พิจารณาการออกมาร่วมชุมนุมของผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แบบมีเงื่อนไขว่าเข้าข่ายผิดเงื่อนไขดุลพินิจในการถอดถอนการประกันตัวหรือไม่
ทั้งนี้ นายจักรพงศ์ได้นำหลักฐานภาพถ่ายมาแสดงให้เห็นว่า ผู้ต้องหาคดี 112 จำนวน 9 คน ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายอานนท์ นำภา , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข , นายภาณุพงศ์ จาดนอก , นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ , น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , น.ส.เบนจา อะปัญ , นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ยังมีพฤติการณ์ที่ขัดต่อเงื่อนไข หรือกระทำการจาบจ้วงสถาบัน และเขียนข้อความผ่านสื่อออนไลน์เข้าข่ายจาบจ้วง และชักชวนยุยงปลุกปั่นบิดเบือนให้คนออกมาชุมนุม จึงขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตามเห็นสมควร และในวันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ศปปส.จะไปดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่ สน.ปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด เฟซบุ๊ก Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ ได้รายงานยอดผู้ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในแคมเปญ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” มีจำนวนทะลุ 1 แสนรายชื่อแล้ว และจะรวบรวมเอกสารทั้งหมด ส่งสภาฯ โดยเร็วที่สุด อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น เมื่อประชาชนแสดงพลัง หยุดสืบทอดอำนาจพอกันทีกับโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน
ทั้งนี้ เนื้อหาในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่กลุ่ม Re-solution รณรงค์แก้ไข ได้แก่ ล้ม ส.ว.เดินหน้าสภาเดี่ยว โละศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ปฏิรูปที่มา อำนาจ การตรวจสอบ เลิกยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป ปลดโซ่ตรวนอนาคตประเทศ และล้างมรดกรัฐประหาร-หยุดวงจรอุบาทว์ขวางประชาธิปไตย