"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
นานๆ ที แถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฟังแล้วได้เรื่องได้ราว มีประเด็น ประชาชนรู้ว่า จะบอกอะไร ต้องทำอย่างไร ในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ไม่มีสัญญาณว่า จะสงบลงเมื่อไร
แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ค่ำวันที่ 16 มิถุนายน เป็นการสื่อสารที่ชัดเจน สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทุกภาคส่วนได้มาก เพราะนายกฯ บอกได้ว่า ประเทศไทยจะเดินไปทางไหน เราจะทำอย่างไรกับไวรัสโควิด-19
เราจะเปิดประเทศอีก 120 วันข้างหน้า คนไทยเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ต้องกักตัว ธุรกิจ ร้านค้า เปิดดำเนินกิจการได้ รับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จากประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงต่ำที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เข้ามาเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว
วิธีการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนี้คือ ต้องระดมฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็มแรกให้คนไทย 50 ล้านคนภายใน 3-4 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากปูพรมฉีดวัคซีนมาตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนถึงวันนี้ มีการฉีดวัคซีนทั้งเข็ม 1 เข็มที่ 2 รวมกับที่ฉีดไปก่อนหน้าตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ทะลุ 7 ล้านโดสไปแล้ว โดยสามารถฉีดได้เฉลี่ยวันละ 2 แสนโดส หากจะฉีดให้ถึง 50 ล้านคนภายในเวลา 120 วัน จะต้องฉีดวันละไม่ต่ำกว่า 4 แสนโดส อยู่ในวิสัยที่ทำได้ หากมีวัคซีนเพียงพอ ฉีดได้ต่อเนื่องทุกวัน
เรื่องวัคซีนพอหรือไม่ ไม่น่าจะมีปัญหา การชะลอเลื่อนการฉีด หลังจากวันดีเดย์ปูพรม 7 มิ.ย.เพียงอาทิตย์เดียว เพราะวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไม่มาตามแผน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการผลิต “ครั้งแรก” ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เชื่อว่า หลังจากนี้ต่อๆ ไป กระบวนการผลิตจะเป็นไปตามกำหนด ส่งมอบให้กระทรวงสาธารณสุขได้เดือนละ 10 ล้านโดส ทำให้การฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทย 50 ล้านคนภายใน 120 วันเป็นไปได้แน่นอน
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 แม้สถานการณ์จะไม่รุนแรงขึ้น แต่ก็ไม่ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 2-3 พันคน ผู้เสียชีวิตวันละ 20-30 คน เป็นอย่างนี้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เพราะมีคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ในกทม. ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดระลอกนี้
การรอคอยให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจนกระทั่งเหลือศูนย์ แล้วค่อยเปิดประเทศ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถึงเวลาที่เราต้องยอมรับว่า ไวรัสโควิด-19 จะอยู่กับเราไปตลอด วิธีเดียวที่จะเอาชนะได้คือ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 70% ขึ้นไปเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งมีประจักษ์พยานในประเทศซีกโลกตะวันตกแล้วว่า วัคซีนทำให้การติดเชื้อลดลง ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่ๆ ทุกวัน แต่มีน้อย อัตราผู้เสียชีวิตน้อยลง วัคซีนควบคุมการระบาดได้ในขณะนี้
การประกาศเป้าหมายเปิดประเทศภายใน 120 วัน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน 50 ล้านคน เป็นการเปิดเกมรุก ในสงครามโควิด-19 ดีกว่ารอฟัง ศคบ.แถลงสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตทุกวัน ด้วยความหวังว่า ตัวเลขจะลดลงเหลือ 3 หลัก 2 หลัก จนกระทั่งหลักเดียว ซึ่งวันนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว และเป็นการตั้งรับฝ่ายเดียว รอให้ข้าศึกหมดแรงไปเอง
เป้าหมายเปิดประเทศ 120 วัน ทำให้รู้ว่า สงครามจะจบวันไหน ถ้าวัคซีนคือ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เป้าหมาย 120 วัน คือ วันที่เราจะเดินออกจากอุโมงค์ก้าวออกจากความมืดไปหาแสงสว่างที่รออยู่ ดังตอนหนึ่งของแถลงการณ์ว่า
“ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง นี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน”
วันนี้ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่า ก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น
ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายในสำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้ครับ