ผู้จัดการรายวัน360-ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,419 ราย ตาย 33 ราย กทม.เจอคลัสเตอร์ใหม่ก่อสร้างคอนโด พระราม 9 ติดรวดเดียว 347 ราย จากทั้งหมด 528 ราย เข้าสอบสวนโรคแล้ว กรมวิทย์ฯ เผยผลถอดรหัสเชื้อโควิด-19 เจอสายพันธุ์อินเดีย 230 ราย ลามแล้ว 10 จังหวัด ยันน่าห่วง เหตุแพร่ระบาดเร็ว ราชบุรีสั่งปิดโรงงานมาม่า 14 วัน พร้อมกักตัวแรงงาน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ วานนี้ (7 มิ.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,419 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,328 ราย จากเรือนจำ ที่ต้องขัง 91 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 179,886 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 2,999 ราย สะสม 129,526 ราย กำลังรักษาอยู่ 49,101 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 20,273 ราย และโรงพยาบาลสนาม 28,828 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,233 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 355 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 33 ราย รวมเสียชีวิต 1,269 คน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงสูงอยู่ มี 26 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ ยังพบเพิ่ม เช่น สมุทรปราการ 4 จุด คือ โรงงานน้ำแข็ง ต.แพรกษา , โรงงานผลิตสายนำสัญญาณ , โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป และชุมชนวัดสำโรงเหนือ สมุทรสาคร โรงงานค้าไม้ ชลบุรี บริษัทผลิตภาชนะพลาสติก ที่เหลือในอีกหลายจังหวัดเป็นการพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่องในคลัสเตอร์เดิม
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มีการแบ่งกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ คือ ไซส์ใหญ่ กลาง และเล็ก โดยเอาคลัสเตอร์ที่พบใน 14 วันที่ผ่านมา รวม 53 คลัสเตอร์ ได้แก่ ไซส์ใหญ่ ผู้ป่วยมากกว่า 500 รายขึ้นไป ได้แก่ 1.ชุมชนแออัดคลองเตย 2.สี่แยกมหานคร / สะพานขาว / ตลาดผลไม้ (ดุสิต) 3.แคมป์ก่อสรางอิตาเลียน-ไทยซอยไผ่สิงโต 1 และ 2 4.คลองถมเซ็นเตอร์ / เสือป่า / วงเวียน 22 / วรจักร / โบ๊เบ๊ (ป้อมปราศัตรูพ่าย) 5.ตลาดบางกะปิ / เดอะมอลล์บางกะปิ และ 6.ไซต์ก่อสร้างอาคารรัฐสภา บริษัท ซิโน-ไทย (ดุสิต) ไซต์กลาง ผู้ป่วย 100-499 ราย มี 16 คลัสเตอร์ และมีคลัสเตอร์ใหม่ คือ โครงการก่อสร้างคอนโด One9Fiive ถนนพระราม 9 ซอย 5 พบผู้ติดเชื้อ 347 ราย จากทั้งหมด 528 ราย โดยได้เข้าไปสอบสวนโรคแล้ว และไซส์เล็ก น้อยกว่า 100 ราย มี 31 คลัสเตอร์ เป็นทั้งชุมชน ตลาดและโรงงาน
ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการถอดรหัสเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดระลอกใหม่ 3,964 ตัวอย่าง พบ 90% เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (สายพันธุ์อังกฤษ) ถือว่าสายพันธุ์นี้ครองเมือง และยังพบสายพันธุ์เดลต้า (สายพันธุ์อินเดีย) 230 ราย เพิ่มขึ้น 6% พบในกรุงเทพฯ 206 ราย ในแคมป์คนงานหลักสี่ นนทบุรี 2 ราย พิษณุโลก 2 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับแคมป์คนงานหลักสี่ บุรีรัมย์ 1 ราย อุบลราชธานี 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย แต่ที่น่าห่วง คือ อุดรธานี 17 ราย จากการรวมกลุ่มบายศรีสู่ขวัญ กำลังสอบสวนความเชื่อมโยงว่ามีความเกี่ยวข้องกับแคมป์คนงานก่อสร้างที่หลักสี่หรือไม่ และยังมีที่ร้อยเอ็ด 1 ราย นครราชสีมา 2 ราย สระบุรี 2 ราย ส่วนสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เข้ามาทางมาเลเซีย มาอยู่ที่ อ.ตากใบ ต้องเฝ้าระวังและซีเรียส โดยขณะนี้ตรวจพบแล้ว 26 ราย
ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สายพันธุ์เดลต้าน่ากังวล เพราะระบาดเร็วกว่าเดิมถึง 40%
ที่จ.ราชบุรี นายยุทธพร พิรุณสาร นายอำเภอบ้านโป่ง ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากตรวจสอบพบคนงานในบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ติดเชื้อรวม 28 คน จากพนักงาน 837 คน จึงได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่ทำการบริษัทเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 7-20 มิ.ย.2564 และให้พนักงานในแผนแพกหมี่ก๋วยเตี๋ยว (กลุ่มเสี่ยงสูง) และคนงานต่างด้าวทุกแผนก รวมประมาณ 300 คน กักตัวในโรงงาน ส่วนพนักงานกลุ่มเสี่ยงต่ำ ให้รายงานตัวและกักตัวที่บ้าน 14 วัน ทั้งนี้ รพ.บ้านโป่ง ยังได้เข้าตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และดำเนินการ Swab ตรวจหาเชื้อด้วย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ วานนี้ (7 มิ.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,419 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,328 ราย จากเรือนจำ ที่ต้องขัง 91 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 179,886 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 2,999 ราย สะสม 129,526 ราย กำลังรักษาอยู่ 49,101 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 20,273 ราย และโรงพยาบาลสนาม 28,828 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,233 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 355 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 33 ราย รวมเสียชีวิต 1,269 คน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงสูงอยู่ มี 26 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ ยังพบเพิ่ม เช่น สมุทรปราการ 4 จุด คือ โรงงานน้ำแข็ง ต.แพรกษา , โรงงานผลิตสายนำสัญญาณ , โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป และชุมชนวัดสำโรงเหนือ สมุทรสาคร โรงงานค้าไม้ ชลบุรี บริษัทผลิตภาชนะพลาสติก ที่เหลือในอีกหลายจังหวัดเป็นการพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่องในคลัสเตอร์เดิม
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มีการแบ่งกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ คือ ไซส์ใหญ่ กลาง และเล็ก โดยเอาคลัสเตอร์ที่พบใน 14 วันที่ผ่านมา รวม 53 คลัสเตอร์ ได้แก่ ไซส์ใหญ่ ผู้ป่วยมากกว่า 500 รายขึ้นไป ได้แก่ 1.ชุมชนแออัดคลองเตย 2.สี่แยกมหานคร / สะพานขาว / ตลาดผลไม้ (ดุสิต) 3.แคมป์ก่อสรางอิตาเลียน-ไทยซอยไผ่สิงโต 1 และ 2 4.คลองถมเซ็นเตอร์ / เสือป่า / วงเวียน 22 / วรจักร / โบ๊เบ๊ (ป้อมปราศัตรูพ่าย) 5.ตลาดบางกะปิ / เดอะมอลล์บางกะปิ และ 6.ไซต์ก่อสร้างอาคารรัฐสภา บริษัท ซิโน-ไทย (ดุสิต) ไซต์กลาง ผู้ป่วย 100-499 ราย มี 16 คลัสเตอร์ และมีคลัสเตอร์ใหม่ คือ โครงการก่อสร้างคอนโด One9Fiive ถนนพระราม 9 ซอย 5 พบผู้ติดเชื้อ 347 ราย จากทั้งหมด 528 ราย โดยได้เข้าไปสอบสวนโรคแล้ว และไซส์เล็ก น้อยกว่า 100 ราย มี 31 คลัสเตอร์ เป็นทั้งชุมชน ตลาดและโรงงาน
ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการถอดรหัสเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดระลอกใหม่ 3,964 ตัวอย่าง พบ 90% เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (สายพันธุ์อังกฤษ) ถือว่าสายพันธุ์นี้ครองเมือง และยังพบสายพันธุ์เดลต้า (สายพันธุ์อินเดีย) 230 ราย เพิ่มขึ้น 6% พบในกรุงเทพฯ 206 ราย ในแคมป์คนงานหลักสี่ นนทบุรี 2 ราย พิษณุโลก 2 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับแคมป์คนงานหลักสี่ บุรีรัมย์ 1 ราย อุบลราชธานี 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย แต่ที่น่าห่วง คือ อุดรธานี 17 ราย จากการรวมกลุ่มบายศรีสู่ขวัญ กำลังสอบสวนความเชื่อมโยงว่ามีความเกี่ยวข้องกับแคมป์คนงานก่อสร้างที่หลักสี่หรือไม่ และยังมีที่ร้อยเอ็ด 1 ราย นครราชสีมา 2 ราย สระบุรี 2 ราย ส่วนสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เข้ามาทางมาเลเซีย มาอยู่ที่ อ.ตากใบ ต้องเฝ้าระวังและซีเรียส โดยขณะนี้ตรวจพบแล้ว 26 ราย
ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สายพันธุ์เดลต้าน่ากังวล เพราะระบาดเร็วกว่าเดิมถึง 40%
ที่จ.ราชบุรี นายยุทธพร พิรุณสาร นายอำเภอบ้านโป่ง ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากตรวจสอบพบคนงานในบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ติดเชื้อรวม 28 คน จากพนักงาน 837 คน จึงได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่ทำการบริษัทเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 7-20 มิ.ย.2564 และให้พนักงานในแผนแพกหมี่ก๋วยเตี๋ยว (กลุ่มเสี่ยงสูง) และคนงานต่างด้าวทุกแผนก รวมประมาณ 300 คน กักตัวในโรงงาน ส่วนพนักงานกลุ่มเสี่ยงต่ำ ให้รายงานตัวและกักตัวที่บ้าน 14 วัน ทั้งนี้ รพ.บ้านโป่ง ยังได้เข้าตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และดำเนินการ Swab ตรวจหาเชื้อด้วย