ผู้จัดการรายวัน360-“วิษณุ”ไม่ขอตอบ ปมฝ่ายค้านข้องใจหน่วยงานรัฐตั้งงบลับ “เรืองไกร”ยันมีมานานหลายรัฐบาลแล้ว มั่นใจตรวจสอบได้ ตามชั้นความลับ ชี้ปีนี้ไม่พบผิดปกติ แนะอ่านกฎหมายก่อนพูด เตือน “พิธา” หั่นงบ 65 ระวังผิดรัฐธรรมนูญ สิ้นสภาพส.ส. “ชวน”นัดถก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน 8 มิ.ย.วันเดียว วิปรัฐบาลสั่งลุยผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน ศชอ.แจ้งความเอาผิด “แอริน-เจลลี่” แพร่ข้อมูลบิดเบือนงบ 65
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่าหน่วยงานของรัฐบาลตั้งงบลับจำนวนมาก ว่า ตนไม่รู้เรื่อง ขอให้ไปถามทางสำนักงบประมาณจะดีกว่า ส่วนแต่ละหน่วยงาน สามารถตั้งงบประมาณลับของตัวเองได้ ไม่ขอตอบ เพราะไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ส่วนกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สงสัยเรื่องนี้ ก็อ่านอยู่เหมือนกัน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบประมาณ ปี 2565 กล่าวยอมรับว่า มีงบลับใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีมานานทุกรัฐบาลเป็นปกติ เพราะในหน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร มีความจำเป็น แต่สามารถตรวจสอบได้ โดยการจะตรวจสอบจะต้องเป็นลำดับชั้นความลับ เช่น งบสายข่าวค้ายาเสพติด สายข่าวค้ามนุษย์ บางเรื่องก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันทุกอย่างตรวจสอบได้ และการใช้ ก็มีขั้นตอน มีระเบียบ แต่คนที่ไม่เคยตรวจสอบ อาจจะไม่เข้าใจ และให้ข่าวในเรื่องนี้ ซึ่งหากตรวจสอบจะเห็นว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ก็มี 10 กว่าหน่วยงาน ที่มีงบลับ กระทรวงการต่างประเทศ ก็มี ถือเป็นเรื่องปกติ
“เท่าที่ดูปีนี้ ยังไม่พบความผิดปกติของงบลับที่ขอมา แต่อาจจะต้องขอปรับลดงบ หากพบว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเมื่อตัดแล้ว จะไม่สามารถนำไปใช้ส่วนอื่นได้ ต้องดูตามคำขอของหน่วยงานราชการ อ่านกฎหมายก่อนให้สัมภาษณ์ก็จะดี เพราะเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ พูดออกไป จะเสียหาย ไม่ใช่อยากพูดอะไรก็พูด การพูดนอกกรอบกฎหมายทั้งที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องที่น่าอาย”นายเรืองไกรกล่าว
นายเรืองไกรกล่าวว่า ได้เห็นข่าวและในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. และ 6 มิ.ย. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับการจะปรับลดงบประมาณปี 2565 ซึ่งปรากฏตามข่าว นายพิธา ในฐานะ กมธ.งบประมาณ จะปรับลดงบออกจำนวนหนึ่ง แล้วจะนำงบที่ปรับลด ไปใช้อย่างนั้น อย่างนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากเตือนด้วยความหวังดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายพิธา จะมีสองส่วน ส่วนหนึ่งทำได้ แต่อีกส่วนหนึ่งทำไม่ได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ส่วนที่ทำได้ คือ ส.ส.หรือ กมธ. ทำการปรับลดงบได้ ยกเว้นเฉพาะบางรายการที่ห้ามไว้ และส่วนที่ทำไม่ได้ คือ การปรับลดงบ ที่มีผลทำให้ ส.ส. หรือ กมธ. มีส่วนในการใช้งบ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมจะกระทำมิได้
ทั้งนี้ สิ่งที่นายพิธา คิดและจะทำในส่วนที่สอง คือ อ้างว่าจะนำงบที่ปรับลด ไปใช้อย่างนั้น อย่างนี้ จึงทำไม่ได้ ซึ่งกรณีนายพิธาถือว่า เป็นความคิดที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ยังไม่เกิดการกระทำตามมา ประกอบกับ กมธ.งบประมาณ มีทั้ง ส.ส. และคนที่ไม่ใช่ ส.ส. ดังนั้น เพื่อให้เกิดความระมัดระวังไม่ให้มีการฝ่าฝืน ม.144 จึงจะยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้แจ้งเตือน ส.ส. ในสภาฯ และตนก็แจ้งให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แจ้งเตือนในที่ประชุม กมธ.งบประมาณด้วย
ด้านนายชวน กล่าวถึงการเตรียมประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ในวันที่ 9 มิ.ย.ว่า เป็นไปตามข้อตกลงของวิป 3 ฝ่าย โดยจะใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 วัน แต่หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถที่จะลงมติในวันที่ 10 มิ.ย.ได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า จะมีประชุมวิปรัฐบาล เกี่ยวกับการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะมีผู้อภิปราย 12 คน และ ส.ส.รัฐบาลรวม 25 คน จะให้เวลาฝ่ายละ 9 ชั่วโมง เชื่อว่าฝ่ายค้านคงจะใช้เวลาครบ ส่วนฝ่ายรัฐบาล จะใช้เวลาครบ 9 ชม. หรือไม่ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าเป็นไปได้คาดว่าจะจบภายในหนึ่งวัน แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ลดผู้อภิปรายอาจจะใช้เวลา 2 วัน
ส่วนฝ่ายค้านประกาศจะไม่โหวตผ่านให้ พ.ร.ก. ดังกล่าว ฝ่ายค้านก็พูดเหมือนตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 แต่ก็ผ่านมาได้ และการประชุมวิปรัฐบาลในครั้งนี้ จะมีมติว่าต้องผ่าน พ.ร.ก.ฉบับนี้ แม้ว่าการอภิปรายจะเป็นแบบราชสีห์ แต่การโหวตต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
วันเดียวกันนี้ เฟซบุ๊กศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ได้โพสต์ว่า ศชอ. ได้เข้าแจ้งความที่ ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับผู้เผยแพร่ Fake News ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้ถูกกล่าวหา 2 ท่าน คือ คุณแอริน สิรีภรณ์ ยุกตะทัต กับคุณเจลลี่ กัณธิชา วิลเลี่ยมส์ ผู้สมัครมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร ตัวแทนเขตพระนคร หลังทวีตข้อมูลบิดเบือนเรื่องงบประมาณปี 2564
ก่อนหน้านี้ ศชอ. ได้ออกมาเผยว่าขอรับเคสนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ หลังจากที่แอริน ได้ทวีตแชร์ข้อมูลบิดเบือนเรื่องงบประมาณปี 65 พร้อมทิ้งท้ายว่าหมดคำจะพูด ก่อนลบทิ้ง ส่วนเจลลี่ ได้โพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชนโดยทั่วไป
ขณะที่ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก ได้แคปข้อความดังกล่าวเอาไว้ได้ พร้อมระบุว่า ก่อนโพสต์ “ต้อง” คิด และใช้สตินิดหนึ่ง ตอนลบก็ต้องคิดให้ได้ ว่าสิ่งที่แชร์ไป ถูก-ผิด อย่างไร ครั้งหน้าจะได้ใช้ สติ และความคิด ก่อนโพสต์ ไม่ใช่ลบเพราะคิดแค่ว่าจะหนีความผิด มิเช่นนั้น ก็จะมีครั้งต่อๆ ไป ไม่รู้จักหลาบจำ และไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร รู้จัก Digital Footprint ไหมล่ะ? รมว.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ช่วยดูแลน้องเขาด้วยนะท่าน ทวีตนี้เจ้าของเขาลบไปแล้ว แต่ URL ยังอยู่ให้เอาผิดได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่าหน่วยงานของรัฐบาลตั้งงบลับจำนวนมาก ว่า ตนไม่รู้เรื่อง ขอให้ไปถามทางสำนักงบประมาณจะดีกว่า ส่วนแต่ละหน่วยงาน สามารถตั้งงบประมาณลับของตัวเองได้ ไม่ขอตอบ เพราะไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ส่วนกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สงสัยเรื่องนี้ ก็อ่านอยู่เหมือนกัน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบประมาณ ปี 2565 กล่าวยอมรับว่า มีงบลับใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีมานานทุกรัฐบาลเป็นปกติ เพราะในหน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร มีความจำเป็น แต่สามารถตรวจสอบได้ โดยการจะตรวจสอบจะต้องเป็นลำดับชั้นความลับ เช่น งบสายข่าวค้ายาเสพติด สายข่าวค้ามนุษย์ บางเรื่องก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันทุกอย่างตรวจสอบได้ และการใช้ ก็มีขั้นตอน มีระเบียบ แต่คนที่ไม่เคยตรวจสอบ อาจจะไม่เข้าใจ และให้ข่าวในเรื่องนี้ ซึ่งหากตรวจสอบจะเห็นว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ก็มี 10 กว่าหน่วยงาน ที่มีงบลับ กระทรวงการต่างประเทศ ก็มี ถือเป็นเรื่องปกติ
“เท่าที่ดูปีนี้ ยังไม่พบความผิดปกติของงบลับที่ขอมา แต่อาจจะต้องขอปรับลดงบ หากพบว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเมื่อตัดแล้ว จะไม่สามารถนำไปใช้ส่วนอื่นได้ ต้องดูตามคำขอของหน่วยงานราชการ อ่านกฎหมายก่อนให้สัมภาษณ์ก็จะดี เพราะเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ พูดออกไป จะเสียหาย ไม่ใช่อยากพูดอะไรก็พูด การพูดนอกกรอบกฎหมายทั้งที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องที่น่าอาย”นายเรืองไกรกล่าว
นายเรืองไกรกล่าวว่า ได้เห็นข่าวและในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. และ 6 มิ.ย. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับการจะปรับลดงบประมาณปี 2565 ซึ่งปรากฏตามข่าว นายพิธา ในฐานะ กมธ.งบประมาณ จะปรับลดงบออกจำนวนหนึ่ง แล้วจะนำงบที่ปรับลด ไปใช้อย่างนั้น อย่างนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากเตือนด้วยความหวังดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายพิธา จะมีสองส่วน ส่วนหนึ่งทำได้ แต่อีกส่วนหนึ่งทำไม่ได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ส่วนที่ทำได้ คือ ส.ส.หรือ กมธ. ทำการปรับลดงบได้ ยกเว้นเฉพาะบางรายการที่ห้ามไว้ และส่วนที่ทำไม่ได้ คือ การปรับลดงบ ที่มีผลทำให้ ส.ส. หรือ กมธ. มีส่วนในการใช้งบ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมจะกระทำมิได้
ทั้งนี้ สิ่งที่นายพิธา คิดและจะทำในส่วนที่สอง คือ อ้างว่าจะนำงบที่ปรับลด ไปใช้อย่างนั้น อย่างนี้ จึงทำไม่ได้ ซึ่งกรณีนายพิธาถือว่า เป็นความคิดที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ยังไม่เกิดการกระทำตามมา ประกอบกับ กมธ.งบประมาณ มีทั้ง ส.ส. และคนที่ไม่ใช่ ส.ส. ดังนั้น เพื่อให้เกิดความระมัดระวังไม่ให้มีการฝ่าฝืน ม.144 จึงจะยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้แจ้งเตือน ส.ส. ในสภาฯ และตนก็แจ้งให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แจ้งเตือนในที่ประชุม กมธ.งบประมาณด้วย
ด้านนายชวน กล่าวถึงการเตรียมประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ในวันที่ 9 มิ.ย.ว่า เป็นไปตามข้อตกลงของวิป 3 ฝ่าย โดยจะใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 วัน แต่หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถที่จะลงมติในวันที่ 10 มิ.ย.ได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า จะมีประชุมวิปรัฐบาล เกี่ยวกับการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะมีผู้อภิปราย 12 คน และ ส.ส.รัฐบาลรวม 25 คน จะให้เวลาฝ่ายละ 9 ชั่วโมง เชื่อว่าฝ่ายค้านคงจะใช้เวลาครบ ส่วนฝ่ายรัฐบาล จะใช้เวลาครบ 9 ชม. หรือไม่ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน ถ้าเป็นไปได้คาดว่าจะจบภายในหนึ่งวัน แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ลดผู้อภิปรายอาจจะใช้เวลา 2 วัน
ส่วนฝ่ายค้านประกาศจะไม่โหวตผ่านให้ พ.ร.ก. ดังกล่าว ฝ่ายค้านก็พูดเหมือนตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 แต่ก็ผ่านมาได้ และการประชุมวิปรัฐบาลในครั้งนี้ จะมีมติว่าต้องผ่าน พ.ร.ก.ฉบับนี้ แม้ว่าการอภิปรายจะเป็นแบบราชสีห์ แต่การโหวตต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
วันเดียวกันนี้ เฟซบุ๊กศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ได้โพสต์ว่า ศชอ. ได้เข้าแจ้งความที่ ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับผู้เผยแพร่ Fake News ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้ถูกกล่าวหา 2 ท่าน คือ คุณแอริน สิรีภรณ์ ยุกตะทัต กับคุณเจลลี่ กัณธิชา วิลเลี่ยมส์ ผู้สมัครมิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร ตัวแทนเขตพระนคร หลังทวีตข้อมูลบิดเบือนเรื่องงบประมาณปี 2564
ก่อนหน้านี้ ศชอ. ได้ออกมาเผยว่าขอรับเคสนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ หลังจากที่แอริน ได้ทวีตแชร์ข้อมูลบิดเบือนเรื่องงบประมาณปี 65 พร้อมทิ้งท้ายว่าหมดคำจะพูด ก่อนลบทิ้ง ส่วนเจลลี่ ได้โพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชนโดยทั่วไป
ขณะที่ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก ได้แคปข้อความดังกล่าวเอาไว้ได้ พร้อมระบุว่า ก่อนโพสต์ “ต้อง” คิด และใช้สตินิดหนึ่ง ตอนลบก็ต้องคิดให้ได้ ว่าสิ่งที่แชร์ไป ถูก-ผิด อย่างไร ครั้งหน้าจะได้ใช้ สติ และความคิด ก่อนโพสต์ ไม่ใช่ลบเพราะคิดแค่ว่าจะหนีความผิด มิเช่นนั้น ก็จะมีครั้งต่อๆ ไป ไม่รู้จักหลาบจำ และไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร รู้จัก Digital Footprint ไหมล่ะ? รมว.ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ช่วยดูแลน้องเขาด้วยนะท่าน ทวีตนี้เจ้าของเขาลบไปแล้ว แต่ URL ยังอยู่ให้เอาผิดได้