"อำนวย นิ่มมะโน" ดักคอ กมธ.กฎหมายฯ เตือน "สิระ" จะเสียรู้ให้ทนาย "ลุงพล" ล้วงความลับในสำนวนคดีน้องชมพู่
หลังจาก นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" ผู้ต้องหาคดีทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสวน และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เตรียมเข้าพบ คณะกมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมนั้น ปรากฏว่ามีการเคลื่อนไหวของนายตำรวจมือสอบสวนอย่าง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า
เนื่องจากทนายความของลุงพล อ้างว่าได้นัดหมายไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อ ส.ส.สิระ เจนจาคะ กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ในการขออนุมัติหมายจับลุงพลในครั้งนี้ และมีข่าวว่า กมธ.คณะดังกล่าว เด้งรับจนถึงขนาดจะเชิญ ผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน มาชี้แจงถึงพยาน หลักฐาน ที่ขออนุมัติออกหมายจับในคดีดังกล่าว ในวันที่ 16 มิ.ย. 64 โดยตั้งประเด็นว่า อาจจะเป็นการขออนุมัติหมายจับโดยมิชอบ
ถ้าหากผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปชี้แจงต่อกมธ. ตามคำร้องของทนายลุงพล ก็จะกลายเป็นการไปเปิดถ้วยไฮโลให้ทนายลุงพลแทง ก็เท่านั้นเอง !! แล้วความเป็นธรรมจะอยู่ตรงไหน ? คู่กรณีจะเสียความเป็นธรรมหรือไม่ ? พนักงานสอบสวน รวมถึงตัว ผบ.ตร.เอง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนทั่วราชอาณาจักร จะมีความผิดฐานนำความลับในสำนวนไปเปิดเผยหรือไม่ ?
ช่วยแยกกันให้ออกนะครับ ระหว่าง “สืบสวน” กับ “สอบสวน” ถ้ามีผู้ไปร้องเรียนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการค้นในการจับ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ฝ่ายสืบสวน/ป้องกันปราบปราม ว่ามีการละเมิดสิทธิ์ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไร ? อย่างไร ? ก็ว่ากันไป
แต่ถ้าก้าวล่วงไปถึงการรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ และหรือเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษอันเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ดังเช่นคดีนี้แล้ว จะมีใคร ? (บุคคลหรือคณะบุคคล) มีสิทธิ์ หรือ มีความถูกต้อง เหมาะสม ที่จะยื่นมือเข้าไปล้วงความลับในสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน รวบรวมไว้ได้หรือไม่ ?เหมาะสมหรือไม่ ? จะเกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีหรือไม่ ?
ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ขอกระซิบบอกว่า คดีนี้ ถ้าผบ.ตร.และพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปชี้แจงต่อกมธ. ต่อหน้าทนายความลุงพล หรือไม่ก็ตาม ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทนายความในคดีอื่น ๆ ใช้ช่องทางนี้ ล้วงเอาความลับในสำนวน ล้วงเอาพยานหลักฐานในสำนวน แล้วกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นจะอยู่กันยังไงอีกต่อไป กระผมคิดไม่ออก บอกไม่ถูก คำถามสุดท้าย
“คิดได้ไง” แล้วจะไปกันหรือเปล่า...ไปกันใหญ่แล้ว..ปฏิรูปตำรวจก็ ต้วมเตี้ยม... ต้วมเตี้ยม... เป็นเตี้ยอุ้มค่อม เพิ่งจะประชุมไปได้สักสิบมาตรา มั้ง...เฮ้ยยยยยย.."
หลังจาก นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" ผู้ต้องหาคดีทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตได้รับการประกันตัวระหว่างสอบสวน และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เตรียมเข้าพบ คณะกมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมนั้น ปรากฏว่ามีการเคลื่อนไหวของนายตำรวจมือสอบสวนอย่าง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า
เนื่องจากทนายความของลุงพล อ้างว่าได้นัดหมายไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อ ส.ส.สิระ เจนจาคะ กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ในการขออนุมัติหมายจับลุงพลในครั้งนี้ และมีข่าวว่า กมธ.คณะดังกล่าว เด้งรับจนถึงขนาดจะเชิญ ผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน มาชี้แจงถึงพยาน หลักฐาน ที่ขออนุมัติออกหมายจับในคดีดังกล่าว ในวันที่ 16 มิ.ย. 64 โดยตั้งประเด็นว่า อาจจะเป็นการขออนุมัติหมายจับโดยมิชอบ
ถ้าหากผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปชี้แจงต่อกมธ. ตามคำร้องของทนายลุงพล ก็จะกลายเป็นการไปเปิดถ้วยไฮโลให้ทนายลุงพลแทง ก็เท่านั้นเอง !! แล้วความเป็นธรรมจะอยู่ตรงไหน ? คู่กรณีจะเสียความเป็นธรรมหรือไม่ ? พนักงานสอบสวน รวมถึงตัว ผบ.ตร.เอง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนทั่วราชอาณาจักร จะมีความผิดฐานนำความลับในสำนวนไปเปิดเผยหรือไม่ ?
ช่วยแยกกันให้ออกนะครับ ระหว่าง “สืบสวน” กับ “สอบสวน” ถ้ามีผู้ไปร้องเรียนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการค้นในการจับ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ฝ่ายสืบสวน/ป้องกันปราบปราม ว่ามีการละเมิดสิทธิ์ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไร ? อย่างไร ? ก็ว่ากันไป
แต่ถ้าก้าวล่วงไปถึงการรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ และหรือเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษอันเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ดังเช่นคดีนี้แล้ว จะมีใคร ? (บุคคลหรือคณะบุคคล) มีสิทธิ์ หรือ มีความถูกต้อง เหมาะสม ที่จะยื่นมือเข้าไปล้วงความลับในสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน รวบรวมไว้ได้หรือไม่ ?เหมาะสมหรือไม่ ? จะเกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีหรือไม่ ?
ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ขอกระซิบบอกว่า คดีนี้ ถ้าผบ.ตร.และพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปชี้แจงต่อกมธ. ต่อหน้าทนายความลุงพล หรือไม่ก็ตาม ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทนายความในคดีอื่น ๆ ใช้ช่องทางนี้ ล้วงเอาความลับในสำนวน ล้วงเอาพยานหลักฐานในสำนวน แล้วกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นจะอยู่กันยังไงอีกต่อไป กระผมคิดไม่ออก บอกไม่ถูก คำถามสุดท้าย
“คิดได้ไง” แล้วจะไปกันหรือเปล่า...ไปกันใหญ่แล้ว..ปฏิรูปตำรวจก็ ต้วมเตี้ยม... ต้วมเตี้ยม... เป็นเตี้ยอุ้มค่อม เพิ่งจะประชุมไปได้สักสิบมาตรา มั้ง...เฮ้ยยยยยย.."