"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
พจนานุกรมฉบับบัณฑิตราชยสถาน อธิบายความหมายของ “จำอวด” ว่า คือ ถ้อยคำชวนให้ตลก หรือผู้แสดง การแสดงโดยใช้ถ้อยคำ ท่าทาง ชวนให้ตลกขบขัน ตรงกับภาษาอังกฤษว่า comedians หรือ clowns
ส่วน “จำอวดหน้าม่าน” คือ การแสดงตลกขบขัน ก่อนที่การแสดงหลักจะเริ่ม หรือ เล่นตลกคั่นเวลา ระหว่างที่กำลังมีการเปลี่ยนฉากใหม่อยู่หลังม่าน หรือให้ผู้แสดงหลักได้พัก เพื่อไม่ให้ผู้ชมเกิดความเบื่อหน่ายระหว่างรอคอย จนลุกจากที่นั่งกลับบ้านกันหมด
ผู้แสดงจำอวดหน้าม่าน มักจะเป็นตัวประกอบที่ไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญอะไร หรือเป็นมือสมัครเล่น ที่ใช้เวทีจำอวดหน้าม่าน ฝึกหัดหาประสบการณ์ ให้ผู้ชมได้จดจำชื่อเอาไว้ หรือเป็นใครก็ได้ที่พอจะมีทักษะการแสดงอยู่บ้าง ไปรออยู่หน้าเวที พอม่านปิด ก็กระโดดขึ้นไปเล่นจำอวดคั่นเวลา
บนเวทีการเมืองประเทศไทย หลังจากคณะราษฎรปลดแอก ขบวนการคนรุ่นใหม่ ม็อบสามกีบลาโรงไป เพราะยิ่งเล่นคนดูก็เดินหนีออกจากโรงไปเรื่อยๆ จนเหลือแต่การ์ด ผู้สื่อข่าว และตำรวจควบคุมฝูงชน ก็เกิดมีคณะใหม่ชื่อว่า ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช.เป็นโต้โผ เปิดวิกแสดงนัดแรกวันที่ 5 เมษายน ที่สวนสันติพร ถนนราชดำเนินกลาง ข้างๆ กองสลากเก่า เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โฆษณาใหญ่โตว่า จะมีคนมาดูแบบมืดฟ้ามัวดิน
เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น คณะไทยไม่ทน ก็ไปไม่รอด ต้องเก็บฉากกลับบ้าน เพราะไม่มีคนดู แต่อ้างว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงลดระดับจากการแสดงแบบ “ออนไซต์” เป็น “ออนไลน์” ผ่านทีวีดาวเทียมช่องพีซทีวี ที่นายจตุพรเป็นตัวแสดงหลักอยู่แล้ว
ตั้งแต่นั้นมา จนถึงบัดนี้ คณะไทยไม่ทนฯ ก็เป็นได้แค่ “จำอวดหน้าม่าน” เล่นตลกอยู่หน้าเวที ในขณะที่ผู้แสดงหลัก คือ ลุงตู่ กำลังสาละวนแก้ปัญหาโควิดอยู่หลังม่าน จำอวดหน้าม่านคณะนี้ นอกจากนายจตุพรแล้ว ก็มีนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ที่สวมหัวโขนประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 แต่เพียงผู้เดียวมาเกือบ 30 ปีแล้ว ร่วมเป็นโต้โผนายโรงด้วย แม้จะไม่ได้รับความนิยม เทียบไม่ได้เลยกับคณะสามกีบ แต่ก็มีผู้ที่สนใจ ขอขึ้นเวทีร่วมแสดงจำอวดอยู่จำนวนหนึ่ง
สำรวจรายชื่อดูแล้ว หลายคนเคยเป็นตัวประกอบในเวทีใหญ่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นเวทีพันธมิตรฯ เวที กปปส. เวทีคนเสื้อแดง บางคนเคยซุ่มอยู่ข้างเวทีรอโอกาสที่เวทีขาดช่วงนักแสดงขึ้นมาขัดตาทัพเป็นครั้งคราว แต่พวกเขาก็เป็นได้แค่นั้น ไม่เคยได้ขึ้นเวทีในฐานะผู้แสดงหลักในช่วงไพรม์ไทม์เลย จนเวทีเคลื่อนไหวการเมือง ทั้งพันธมิตรฯ คนเสื้อแดง และ กปปส.
มาถึงเวทีล่าสุดของคนรุ่นใหม่ม็อบปลดแอก ม็อบสามกีบ ที่ตอนแรกมาแรง ด้วยแรงเชียร์จากโซเชียลมีเดีย พวกตัวประกอบเหล่านี้เห็นคนมาม็อบมากๆ เกิดอาการตัวสั่นอยากขึ้นเวทีเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แต่พวกเด็กๆ ไม่สนใจ เพราะมองว่า คนเหล่านี้เป็นสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์ บางคนเป็นนกสองหัว เล่นไพ่หลายใบ ด่าบิ๊กตู่ แต่เลียลุงป้อม คนเหล่านี้จึงทำได้แค่ส่งเสียงเชียร์ผ่านหน้าเฟซบุ๊กเกาะกระแสม็อบสามกีบ พอม็อบสามกีบฝ่อลง หลายๆ คนก็กลับลำหันมาวิพากษ์วิจารณ์สาเหตุแห่งความล้มเหลวของม็อบสามกีบ
การเกิดขึ้นของคณะไทยไม่ทน จึงเป็นเวทีของคนที่ต้องการมีบทบาททางการเมือง หรือพวกหิวแสงการเมือง ได้กระโจนขึ้นไปวาดลวดลายเป็นที่ชุมนุมของคนที่เกาะขอบเวที หรือแอบอยู่ข้างเวทีการเคลื่อนไหวการเมืองทุกสี บางคนเคยอยู่คนละฝ่าย ก็มาขึ้นเวทีร่วมกันได้ บางคนไปเวทีไหนไม่มีใครเอา ก็ได้รับการต้อนรับจากคณะไทยไม่ทน บางคนวางตัวเป็นผู้ทรงภูมิปัญญา แต่ไม่มีใครเห็นคุณค่า ก็ได้ใช้เวทีไทยไม่ทน เป็นช่องทางแสดงอัตตาที่แบกถืออยู่
จำอวดหน้าม่าน คณะไทยไม่ทนนี้ คงจะแสดงไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ผู้แสดงยังสนุกอยู่ คนดูจะมากจะน้อยไม่เป็นไร เพราะเป็นแค่จำอวดหน้าม่าน ส่วนพระเอกที่อยู่หลังม่าน ก็ได้ใช้จำอวดหน้าม่านนี่แหละ เล่นตลก คั่นเวลา สร้างความเพลิดเพลินให้คนดู ไม่ให้เวทีเงียบเหงาเกินไป