เมื่อมีคนเลวมาก คนเลวน้อยกลายเป็นคนดี

ในขณะนี้สังคมไทยกำลังขาดแคลนคนดี โดยเฉพาะในระดับผู้นำ จึงทำให้ชนชั้นในระดับผู้ตาม หรืออีกนัยหนึ่งชนชั้นปกครองกำลังขาดแคลนคุณธรรม และจริยธรรม จึงทำให้ชนชั้นผู้ใต้การปกครองซึ่งมีคุณธรรม และจริยธรรมมากกว่าไม่ศรัทธาในผู้ปกครอง และรวมไปถึงระบบการปกครองด้วย นี่เองคืออุปสรรคในการขอความร่วมแรงร่วมใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งจะต้องอาศัยความเป็นเอกภาพในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะในการแก้ปัญหาระดับชาติดังต่อไปนี้

1. ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาอื่นๆ อีกหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาประเทศ

2. ปัญหาการศึกษา ด้อยคุณภาพ ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งด้อยคุณธรรม และจริยธรรม

3. ปัญหาความแตกแยกของคนในสังคม อันเกิดจากการแบ่งขั้วทางการเมือง

4. ปัญหาความยากจน อันเกิดจากนโยบายกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มนายทุนใหญ่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ และที่เป็นเช่นนี้ ก็ด้วยเหตุผลเดียวคือ นายทุนกลุ่มนี้คือแหล่งทุนที่บรรดาพรรคการเมืองต้องพึ่งพาในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะในการเลือกตั้ง

ด้วยเหตุที่ประชาชนในฐานะผู้ตาม ส่วนใหญ่ไม่ศรัทธาชนชั้นผู้นำนี้เอง การแก้ปัญหาใหม่ๆ ระดับชาติ ซึ่งจะต้องอาศัยความเป็นเอกภาพของระดับชาติจึงล้มเหลว

ดังนั้น จึงมิใช่เรื่องแปลกที่การแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาดของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงล้มเหลวในขณะนี้ ทั้งๆ ที่ในระยะแรกๆ ทำท่าไปได้ดี และได้รับคำยกย่องจากต่างชาติ และที่เป็นเช่นนี้อนุมานได้ว่า น่าจะเกิดจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ในระยะแรกที่โควิด-19 ระบาดในประเทศไทย ทั้งภาครัฐโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และข้าราชการฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมมือกักตัวรักษา และป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในวงจำกัด

2. เมื่อในระยะแรกรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีแล้ว แทนที่รัฐบาลจะดำเนินการป้องกันการระบาดโดยการเร่งนำเข้าวัคซีน และดำเนินการฉีดให้ทั่วถึง ซึ่งสามารถกระทำได้ด้วยการอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีน และบริการฉีดให้แก่ประชาชนที่มีกำลังซื้อ ส่วนรัฐนำเข้าวัคซีนและให้บริการฉีดให้แก่ประชาชนที่ยากจน โดยใช้โรงพยาบาลของรัฐเป็นศูนย์กลางการให้บริการ

แต่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ทำ แถมรวบอำนาจในการอนุมัติและอนุญาตมาไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียว จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการป้องกัน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของการระบาดรอบ 3 ที่รวดเร็ว และรุนแรง ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้

3. ที่ยิ่งกว่านี้ นอกจากไม่ดำเนินการป้องกันตามข้อ 2 แล้วรัฐยังขาดความเด็ดขาดในการควบคุมแหล่งแพร่เชื้อเช่น บ่อนการพนัน สถานบันเทิง และแรงงานเถื่อน ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อเป็นกลุ่มก้อน ดังที่ปรากฏเป็นข่าว

ด้วยเหตุที่การระบาดในรอบ 3 รวดเร็วและรุนแรงนี้เอง จึงทำให้ผลงานในรอบแรกซึ่งได้รับการยกย่องจากต่างประเทศของรัฐบาลหมดไป และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเข้ามาแทนที่ ดังที่ปรากฏทางสื่อในขณะนี้ และดูเหมือนว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์มุ่งเน้นไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหลัก ที่เป็นเช่นนี้อนุมานได้ว่าเกิดจากการบริหารแบบรวมศูนย์อำนาจไว้ที่นายกฯ คนเดียว โดยเฉพาะอำนาจในการอนุญาต และอนุมัติซึ่งเป็นบ่อเกิดหรือที่มาของผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทางการเมือง