ผู้จัดการรายวัน360-สาวท้องทิพย์ถูกนำตัวมาโรงพัก รับทราบข้อหา “แจ้งความเท็จ” เจ้าตัวแจงสาเหตุที่ทำ เพราะฝ่ายชายอยากมีลูก ตอนแท้งมีเลือด 2 หยด จึงโกหกว่าได้ลูกแฝด เตรียมขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจ ไปรับตัวนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ และ น.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ ผัวเมียในคดีท้องทิพย์ มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีแจ้งความเท็จ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มาแจ้งความว่า ลูกฝาแฝดชายหญิงที่คลอดที่ รพ.บางปลาม้า แล้วลูกไม่แข็งแรง ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ลูกชายได้เสียชีวิต มารับศพเมื่อไปถึงวัด ปรากฏว่าศพลูกหาย จึงมาแจ้งความไว้ และมีการสืบสวนแล้วพบว่า ไม่เป็นความจริง
โดยหลังจากถูกนำตัวมาสอบสวน ทั้งคู่ มีสีหน้าปกติ ไม่มีความกังวล โดย น.ส.กรกนก กล่าวว่า ไม่วิตกอะไร แต่เครียดนิดหน่อย โดยเรื่องที่เกิดขึ้น สามีและคนรอบข้างไม่มีส่วนรู้เห็น และยืนยันว่าท้องจริงๆ แต่เกิดแท้งลูก ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะกลัวแฟนเสียใจ เนื่องจากแฟนอยากมีลูกมาก ตั้งความหวังไว้เยอะมาก และที่บอกว่าเป็นลูกแฝด เพราะตอนแท้งเห็นมีเลือดหยดลงมา 2 ก้อน จึงทำให้คิดว่าเป็นลูกแฝด ตอนนี้รู้สึกผิดมาก อยากขอโทษทุกฝ่ายในสิ่งที่ทำไป ไม่คิดว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน และถ้ามีใครมาแจ้งความ ก็พร้อมยอมรับ หลังจากนี้ จะมีผู้ใหญ่พาเดินทางไปขอโทษกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จากสิ่งที่ตนได้ทำลงไป
ทั้งนี้ หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งคู่ได้แจ้งว่าจะเดินทางไปที่เทศบาลสวนแตง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ถึงสาเหตุที่ทำลงไป แต่ปรากฏว่า ทั้งคู่ไม่ได้เดินทางไปแถลงข่าว เนื่องจากมีภารกิจเดินทางไปศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และสำนักงานควบคุมความประพฤติ
ทางด้านฝ่ายกฎหมาย รพ.เจ้าพระยายมราช แจ้งว่า กำลังรวบรวมข้อมูล หลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดี เพราะทำให้ได้รับความเสียหาย
ที่สภ.สุพรรณบุรี นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภจว.สุพรรณบุรี และ พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อยื่นหนังสือ เรื่อง ข้อห่วงใยต่อกระบวนการยุติธรรม ขอให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในคดีท้องทิพย์
นายสงกานต์กล่าวว่า อยากให้คดีนี้ เป็นคดีตัวอย่าง ไม่อยากให้ผู้อื่นคิดจะทำอีก เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และอยากให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าทั้ง 2 คนจะทำคนเดียว อาจมีคนอื่นร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจ ไปรับตัวนายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ และ น.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ ผัวเมียในคดีท้องทิพย์ มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีแจ้งความเท็จ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มาแจ้งความว่า ลูกฝาแฝดชายหญิงที่คลอดที่ รพ.บางปลาม้า แล้วลูกไม่แข็งแรง ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ลูกชายได้เสียชีวิต มารับศพเมื่อไปถึงวัด ปรากฏว่าศพลูกหาย จึงมาแจ้งความไว้ และมีการสืบสวนแล้วพบว่า ไม่เป็นความจริง
โดยหลังจากถูกนำตัวมาสอบสวน ทั้งคู่ มีสีหน้าปกติ ไม่มีความกังวล โดย น.ส.กรกนก กล่าวว่า ไม่วิตกอะไร แต่เครียดนิดหน่อย โดยเรื่องที่เกิดขึ้น สามีและคนรอบข้างไม่มีส่วนรู้เห็น และยืนยันว่าท้องจริงๆ แต่เกิดแท้งลูก ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะกลัวแฟนเสียใจ เนื่องจากแฟนอยากมีลูกมาก ตั้งความหวังไว้เยอะมาก และที่บอกว่าเป็นลูกแฝด เพราะตอนแท้งเห็นมีเลือดหยดลงมา 2 ก้อน จึงทำให้คิดว่าเป็นลูกแฝด ตอนนี้รู้สึกผิดมาก อยากขอโทษทุกฝ่ายในสิ่งที่ทำไป ไม่คิดว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน และถ้ามีใครมาแจ้งความ ก็พร้อมยอมรับ หลังจากนี้ จะมีผู้ใหญ่พาเดินทางไปขอโทษกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จากสิ่งที่ตนได้ทำลงไป
ทั้งนี้ หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งคู่ได้แจ้งว่าจะเดินทางไปที่เทศบาลสวนแตง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ถึงสาเหตุที่ทำลงไป แต่ปรากฏว่า ทั้งคู่ไม่ได้เดินทางไปแถลงข่าว เนื่องจากมีภารกิจเดินทางไปศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และสำนักงานควบคุมความประพฤติ
ทางด้านฝ่ายกฎหมาย รพ.เจ้าพระยายมราช แจ้งว่า กำลังรวบรวมข้อมูล หลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดี เพราะทำให้ได้รับความเสียหาย
ที่สภ.สุพรรณบุรี นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภจว.สุพรรณบุรี และ พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อยื่นหนังสือ เรื่อง ข้อห่วงใยต่อกระบวนการยุติธรรม ขอให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในคดีท้องทิพย์
นายสงกานต์กล่าวว่า อยากให้คดีนี้ เป็นคดีตัวอย่าง ไม่อยากให้ผู้อื่นคิดจะทำอีก เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และอยากให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าทั้ง 2 คนจะทำคนเดียว อาจมีคนอื่นร่วมด้วย