xs
xsm
sm
md
lg

คณะ 3 ลุงเถลิงอำนาจ 7 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



วันเสาร์ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 7 ปีของการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เป็นอีก 1 ยุคของตราบาปประทับแผ่นดิน โดยคณะ 2 ลุง อดีตแม่ทัพบก

จะว่าไปก็เป็นการกบฏภายในราชอาณาจักร จากนั้นคณะรัฐประหารก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเอง ทำให้ไม่ต้องรับผิดอะไรทั้งสิ้นกับการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง จากนั้นเถลิงอำนาจ ตั้งตัวเองเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ

ชาวบ้านบางส่วนรู้สึกเป็นปลื้ม เปี่ยมไปด้วยความหวังว่าบ้านเมืองจะดีขึ้นหลังจากยุคโกงกินในระบบจำนำข้าว เสียหายหลายแสนล้านบาท ผู้กุมอำนาจแต่งเพลงให้ชาวบ้านฟัง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน...” ชวนให้ซาบซึ้ง

ครบ 7 ปี มีอะไรดีขึ้น ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศ? ที่เห็นชัดคือ สภาวะเศรษฐกิจตายซากทั้งแผ่นดิน ยังไร้โอกาสฟื้น ซบเซามา 7 ปีหลังการรัฐประหาร ถูกซ้ำเติมด้วยโควิด-19 ระบบแทบล่มสลาย คนฆ่าตัวตายไม่น้อย

ไม่มีใครในคณะ 3 ลุง ต้องรู้สึกรับผิดชอบหรืออาย สำหรับความล้มเหลว!

หลังจากต่ออายุสภาวะฉุกเฉินหลายรอบ คราวนี้ยืดไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม อ้างเหตุความจำเป็นว่าต้องมีไว้ เพราะการระบาดยังรุนแรง ไม่แต่อธิบายว่าต้นเหตุล่าสุดมาจากคลัสเตอร์ทองหล่อ เพราะความล้มเหลวซ้ำซากของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

วันหยุดสุดสัปดาห์ ท่านผู้นำรู้สึกถึงสภาวะวิกฤต ฉุกเฉิน และฉุกละหุกอะไรหรือไม่ และสภาวะที่ต้องจำเป็นต้องคลุกอยู่กับการกำกับสั่งงานเพราะได้กุมอำนาจ เป็นซีอีโอระบบซิงเกิลคอมมานด์ รวมศูนย์แต่เพียงผู้เดียว ใครสั่งงานข้ามหน้าไม่ได้

ศูนย์บริหารโคฯ เป็นแหล่งเดียวที่สามารถให้ข่าวได้ เสนาบดี เจ้าหน้าที่หน้าไหน ล้ำเส้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องเสี่ยงกับการเผชิญบทงิ้วพิโรธเพราะอิจฉาตาร้อน

บริหารอย่างไร ท่าไหน อธิบายยาก ขาดแคลนทุกอย่างด้านอุปกรณ์จำเป็นในการตั้งรับกับการระบาด วัคซีนไม่พอกับความต้องการ และยังจำกัดอยู่ 2 ชนิด ไม่เปิดช่องกว้างให้เอกชนได้มีบทบาทอย่างเต็มที่ คงไม่อยากเสียความเป็นพระเอก

วันเสาร์ที่ผ่านมา ท่านผู้นำไม่รู้สึกร้อนหนาว พาก๊วนกอล์ฟขาประจำไปสนามกอล์ฟไทร ใหม่ซิงๆ ย่านบางไทร ของเจ้าสัวน้ำเมา ปิดสนามเล่นอยู่ก๊วนเดียว เป็นกิจวัตรประจำแทบทุกวันเสาร์ถ้าดินฟ้าอากาศเป็นใจ ต้องลั้ลลาหาความสุขใส่ตัว

การปิดสนาม เหมาเล่นกอล์ฟอยู่ก๊วนเดียว เป็นซูเปอร์วีไอพี ไม่มีใครไปรบกวนอารมณ์ได้ ค่าใช้จ่ายต้องไม่น้อย คงเป็นระดับหลายแสนบาท มีคำถามว่า ใครรับหน้าที่จ่ายเงินหรือไม่ มหาเศรษฐีใจป้ำคนไหนรับเป็นเจ้ามือได้ทุกวันเสาร์

หรือเล่นฟรี? ถ้าคุณท่านผู้นำเป็นคนจ่ายเงิน ขอดูใบเสร็จได้หรือไม่ หรือว่าใช้ระบบแชร์กันไป ก็ต้องดูว่าใครรับหน้าเสื่อจ่ายเงิน ถ้าคุณท่านผู้นำไม่จ่าย ต้องถามว่าความอนุเคราะห์ เป็นของกำนัลแต่ละครั้งนั้นมีมูลค่าเกิน 3 พันบาทหรือไม่

หรือจะอ้างว่าทำผิดนอกเวลาราชการ รับความอนุเคราะห์นอกเวลาราชการ ไม่ผิด ไม่เข้าข่ายกฎหมายของ ป.ป.ช. และไม่ต้องพูดถึงความเหมาะสมกับสภาวะด้วย

มิน่าละ! สนามกอล์ฟไม่เข้าข่ายประเภทกีฬาที่ต้องโดนปิดช่วงการระบาด!

เป็นที่น่าสมเพทเวทนาชะตากรรมของประเทศเสียนี่กระไร หลังจาก 7 ปีผ่านไปภายใต้คณะ 3 ลุง บ้านเมืองใช้เงินไปกว่า 20 ล้านล้านบาททั้งงบประมาณและกู้

ชาวบ้านแบกหนี้ครัวเรือนเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ คนจนเกือบเต็มประเทศ หนี้สาธารณะโตเป็นดินพอกหางหมูเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ท่านผู้นำเป็นนักกู้สิบทิศ เป็นนักใช้เงินมือเติบ แต่หาเงินไม่เก่ง เอาเงินไปแจกชาวบ้านผ่านโครงการต่างๆ

ถูกมองว่าเป็นการหว่านเงินสร้างความนิยม กลบเสียงแช่งด่าของชาวบ้านคนอกไหม้ไส้ขมเพราะการบริหารงานเศรษฐกิจล้มเหลว เพราะไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ แต่ดันรับอาสาเสนอหน้าเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หวังจะได้หน้าถ้าสำเร็จ

การทุจริตงอกงามทั่วแผ่นดิน แม้กระนั้น ยังไม่รู้สึกสำนึกว่าต้องอาย และรับผิดชอบ ดันประกาศว่าปีนี้เป็นวาระแห่งชาติสำหรับการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน ชาวบ้านไม่รู้สึกตลกด้วย เพราะรอบตัวนายท่านมีแต่ตัวกังฉินทั้งนั้น

ขึ้นเวที ชูกำปั้น กับองค์กรปราบปรามการทุจริตเกือบทุกปี ไม่มีอะไรดีขึ้น กระบวนการยุติธรรมไม่ทำงาน แทบจะกลายเป็นรัฐล้มเหลว อยู่ได้เพราะความอึดหน้าทน ท่องคาถาอยู่บทเดียว “ผมทำผิดอะไร” “ผมไม่ออก” “ไล่ก็ไม่ไป”

เป็นวิบากกรรมซ้ำเติมแผ่นดินยามห่ากินเมือง ผสมห่าลงเมืองโดยแท้!

บริหารบ้านเมืองด้วยระบบปกติ ทำไม่สะดวก ไม่คุ้นเคยกับอำนาจรัฐประหาร ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เท่านั้นยังไม่พอ ดันรวบอำนาจจากรัฐมนตรีมาไว้ที่ตัวคนเดียว ทำเป็นผู้เก่งฉกาจทุกงาน หารู้ไม่ว่าตัวเองคือตัวปัญหาหลักของบ้านเมือง

ทุกวันนี้ บริหารประเทศ เหมือนบริหารกองทัพ เห็นชาวบ้านเหมือนทาสในเรือนเบี้ย เห็นสื่อเป็นทหารเกณฑ์ ไอ้เณร ผรุสวาท ตวาดใส่เหมือนเป็นขี้ข้า

รวบอำนาจแล้วยังทำงานระบบราชการ เช้าชามเย็นชาม มีขั้นตอนเรื่องเยอะ ทำอะไรใครทำงานข้ามหน้าข้ามตา เป็นต้องโดนเบรก ใครเถียงก็โดนตอกหน้ากลับ

แวดล้อมด้วยพวกขี้ฉ้อสอพลอ มีขี้ข้าหลายเจ้า บ่าวหลายนายเป็นองครักษ์!

ยโสโอหังลำพองในอำนาจอย่างนี้ ถ้ามีชาวบ้านคนไหนออกปากทัก “ผมเห็นแสงเฮ้ากวงเปล่งออกจากร่างกายท่าน คงเป็นเทวดาลงมาเดินดินแน่ๆ” อาจไม่ปฏิเสธก็ได้ เพราะเห็นมาดเดินแบบท่าดีทีเหลวแล้ว จะไม่ให้คนออกมาด่า ขับไล่ได้อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น