ซีเรียส...ซีเครียด เรื่อง “ยิวกับปาเลสไตน์” มาร่วมๆ สัปดาห์เข้าไปแล้ว ปิดฉาก-ปิดท้ายสัปดาห์นี้ เลยคงต้องลองไปควานหาเรื่อง “เบาๆ” มาพูดจา ว่ากล่าว เอาไว้มั่ง แม้จะหายาก-หาเย็น เต็มที เพราะที่น่าจะออกไปทางเบาๆ แต่อาจต้องเบากันแบบ “โหวงๆ เหวงๆ” อะไรประมาณนั้น นั่นคือเรื่องกีฬง กีฬา ที่น่าจะช่วยให้เกิดความบันเทิงเริงรมย์มิใช่น้อย อีกทั้งบรรดาแฟนกีฬา คอกีฬาทั้งหลาย ต่างชักสะพานแหงนถ่อรอคอยมานานแล้ว หรือมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยุ่นปี่ นั่นแหละทั่น ที่ไปๆ-มาๆ น่าจะ “อดแ-ก” ซะอีกแว้วว์ว์ว์!!!
คือโดยแนวโน้ม หรือแนวอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่...มันน่าจะ “ยากส์ส์ส์” เอามากๆ ต่อการดันทุรังที่จะให้มหกรรมกีฬาชนิดนี้อุบัติขึ้นมาในประเทศซามูไร ในช่วงวันที่ 23 กรกฎาคม ไปจนถึงวัน 8 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ตามกำหนดการเดิมๆ ที่จำต้อง “เลื่อน” มาจากปีที่แล้ว หรือจากเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 2020 อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นแหละเป็นหลัก และแม้ว่าคราวนี้...ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของ “IOC” (International Olympic Committee) หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โอลิมปิกญี่ปุ่น ไปจนถึงผู้นำประเทศที่เพิ่งถูก “บุญหล่นทับ” ชนิดชักหัวแม่เท้าข้างซ้ายหลบยังไงก็หลบไม่ทัน คือท่านนายกรัฐมนตรี “โยชิฮิเดะ ซูงะ” หรือ “ซูกะ” (Yoshihide Suga) ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ท่านพยายามออกมายืนยัน นั่งยัน และนอนยัน กะจะจัดให้ได้ หรือไม่คิดจะเลื่อน ไม่คิดจะลากต่อไปอีกแล้ว...
แต่ก็อย่างว่า...เจอเข้ากับการระบาดระลอก 3 หรือระลอกที่เท่าไหร่ก็มิอาจสรุปได้ เจอกับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อตกวันละ 3,000 กว่าคน พอๆ กับบ้านเราหรือสูงขึ้นมาอีกนิดๆ หน่อยๆ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมปาเข้าไปไม่ต่ำกว่าครึ่งล้านรายหรือประมาณ 656,000 คน ตามข้อมูลตัวเลขเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา แถมยังเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปแล้วถึง 11,161 ราย ชนิดที่ไม่ว่าจะมีดาบสั้น ดาบยาว มี “ซามูไร” เอาไว้ในมือสักกี่ด้ามต่อกี่ด้าม ก็ทำอะไรแทบไม่ได้ ต้องประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” ครอบคลุมพื้นที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าโตเกียว โอซากา ฮอกไกโด โอคายามา ฮิโรชิมา ฯลฯ ต้องปิดร้าน ปิดรวง บรรดาบาร์ ภัตตาคาร ร้านค้า คาราโอเกะ หรือร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิด ฯลฯ ต่างถูกปิดกันเกลี้ยง จนต้องมานั่งปิ้งบาร์บีคิว ซดสาเกกันตามริมถนน อย่างที่ท่านคอลัมนิสต์ “ผู้จัดการ” สาขาญี่ปุ่น ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ซะแล้ว ท่านอุตส่าห์หยิบเอามาเล่าขาน ให้เป็นที่น่าห่วง น่าเวทนา เป็นอย่างยิ่ง...
คือถ้าหากยังคิด “ทู่ซี้” ที่จะจัด...คงต้องฝืนกับความปรารถนาและต้องการของบรรดาชาวญี่ปุ่น ที่กำลังออกอาการขนลุกขนพอง ออกอาการสยดสยอง กับฉากเหตุการณ์ในช่วงระยะนี้กันเป็นจำนวนไม่น้อย เรียกว่า...ถึงขั้นที่ “โพล” ของสำนักวิจัย “อาซาฮีชิมบุน” ช่วงล่าสุด หรือเมื่อวันจันทร์ (17 พ.ค.) ที่ผ่านมานี้เอง เขาถึงกับต้อง “ฟันธง” หรือสรุปเอาไว้ว่า บรรดาประชากรชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น่าจะต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ที่ “ไม่เห็นควรด้วย” กับการคิดจะทู่ซี้ จัดมหกรรมโอลิมปิกและพาราลิมปิกคราวนี้ต่อไปให้จงได้ 43 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้ “ยกเลิก” ไปเลย อีก 40 เปอร์เซ็นต์แค่ขอให้ “เลื่อน” ออกไปจากกำหนดการเดิมๆ มีแค่ 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ที่ยังอยากจะรับบทเป็น “เจ้าภาพ” ทั้งๆ ที่แทบไม่เหลือดาบใดๆ เอาไว้ในมือเอาเลยแม้แต่น้อย...
แม้ว่าจะมองว่าปริมาณผู้ตอบแบบสำรวจและวิจัยของ “อาซาฮีชิมบุน” อาจมีแค่จำนวนระดับพันๆ คน ตามแบบอย่างของการสุ่มสำรวจ แต่การที่บรรดาชาวยุ่น จำนวนไม่น้อยไปกว่า 350,000 คน ดาหน้ามา “กดไลค์” หรือมาร่วมลงชื่อคัดค้านการจัดมหกรรมโอลิมปิกคราวนี้กันทางออนไลน์ ไม่ว่าให้เลื่อนหรือให้เลิก ก็ต้องถือเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาและต้องการของบรรดาชาวญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ค่อนข้างจะชัดเจนพอสมควร และเห็นว่า...เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานี้นี่เอง บรรดา “หมอๆ” หรือสมาคมทางการแพทย์ที่รู้จักกันในนาม “The Tokyo Medical Practitioners Association” ซึ่งมีบรรดาพวกหมอๆ หรือบุคลากรทางการแพทย์ รวมตัวกันอยู่ไม่น้อยไปกว่า 6,000 คน ก็ถึงกับออกมาเขียน “จดหมายเปิดผนึก” ถึงนายกรัฐมนตรี “ซูงะ” หรือถึงขั้นเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว ให้บรรดาคณะกรรมการโอลิมปิกไม่ว่าระดับสากล หรือญี่ปุ่น ให้ “เลิกเหอะ” หรือ “เลื่อนเหอะ” เพราะบรรดาโรงพยาบาลต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น แทบรับคนไข้ รับจำนวนผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ แทบไม่ไหวไปแล้วในช่วงนี้...
แม้ว่าทางการ หรือรัฐบาล จะพยายามวอล์คอิน-วอล์คเอ้าท์ ไล่ฉีด เร่งฉีด “วัคซีน” กันในระดับไหนก็ตาม แต่โดยตัวเลขสถิติจากจำนวนประชากรประมาณ 126 ล้านของญี่ปุ่น ว่ากันว่า ฉีดไปได้แค่ไม่เกิน 3.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง เรียกว่า...อืด!!!พอๆ กับบ้านเรา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุ เหตุปัจจัยใดๆ ก็ตาม ภายใต้ฉากสถานการณ์เช่นนี้นี่เอง...ถ้าหากยังคิดจะจัด ยังคิดจะ “เดินหน้าประเทศญี่ปุ่น” แบบไม่คิดจะฟังเสียงนก เสียงกา หรือเสียงอะไรต่อมิอะไรต่อไปอีกแล้ว มันก็อาจไม่ต่างอะไรไปจากคำพูด คำเตือนของอภิมหานักธุรกิจและนักเขียน อย่าง “นายฮิโรชิ มิกิตานิ” (Hiroshi Mikitani) ประธานบริษัทอีคอมเมิร์ซ หรือบริษัท “ราคูเท็น” (Rakuten) ที่ได้ออกมาเตือนๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้านั่นแหละว่า แทบไม่ต่างอะไรไปจากการกระทำ “เซ็ปปุกุ” ทำ “ฮาราคีรี” หรือไม่ต่างไปจาก “การฆ่าตัวตาย” นั่นเอง!!!
แต่ก็นั่นแหละ...ทำไงได้!!! ในเมื่อความเสียหาย หรือโอกาสที่จะเกิดความสูญเสีย โดยเฉพาะในเรื่องเงิน-เรื่องทอง จากการไม่คิดจะจัดโอลิมปิก พาราลิมปิกคราวนี้ หรือการเลื่อนออกไปก็ตาม อาจนำมาซึ่งความอดอยากปากแห้ง ให้กับแวดวงเศรษฐกิจ ธุรกิจ ญี่ปุ่น อยู่พอสมควรทีเดียว แม้แต่เพียงแค่ “จัดแบบไม่มีคนดู” ก็เถอะ ดังที่ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคันไซ “นายคัทซูฮิโร มิยาโมโตะ” (Katsuhiro Miyamoto) ได้ออกมาคาดการณ์ ประเมินเอาไว้คร่าวๆ เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านว่า น่าจะส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 2.4 ล้านล้านเยน แม้ว่ายังต้องเถียงกันไป-เถียงกันมา ถึงตัวเลขความเสียหายว่าจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ เพราะบางรายอาจประเมินเอาไว้แค่ประมาณ 3 ล้านล้านเยน หรือ 28,500 ล้านดอลลาร์ แต่บางรายก็ “เวอร์” ขึ้นไปถึงระดับ 100 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 949,000 ล้านดอลลาร์ เอาเลยก็ยังมี...
แต่สำหรับเจ้าหน้าที่อาวุโสแห่ง “IMF” หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ “นายOdd Per Brekk” รองผู้อำนวยการฝ่ายภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ก็ได้ออกมาปลอบโยน ปลอบประโลม เอาไว้เมื่อช่วงวันศุกร์สัปดาห์ที่แล้ว (14 พ.ค.) ประมาณว่า คงไม่ถึงกับหนักหนา-สาหัสมากมายสักเท่าไหร่ หรืออาจทำให้รายได้จากยอดขายที่เคยหวังๆ เอาไว้ลดลงมาประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง แต่ทั้งนั้น ทั้งนี้...รัฐบาลญี่ปุ่นจำต้องทั้งอัด ทั้งฉีด ให้กับบรรดาธุรกิจรายเล็ก รายน้อย หรือรายย่อย อย่างเป็นจริง-เป็นจัง เป็นระบบและกิจการ ถึงพอจะทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจญี่ปุ่นปีนี้ โตได้ถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์ตามที่ “IMF” ได้เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้...
อย่างไรก็ตาม...ดังที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยได้ออกมาย้ำเตือนเอาไว้ว่า “ชีวิตคน...ย่อมสำคัญกว่าเงิน” อยู่แล้วแน่ๆ ดังนั้น...ไม่ว่าจะเสียหาย เสียเงิน-เสียทอง ไปถึงระดับไหนก็ตาม คงหนีไม่พ้นต้อง “เลื่อน” หรือ “เลิก” กันไปตามสภาพ เพราะถึงไม่คิดจะเลื่อน-ไม่คิดจะเลิก ว่ากันว่า...บรรดา “นักกีฬา” จำนวนไม่น้อย ไม่ว่าดัง-ไม่ดัง ต่างพร้อมใจกันออกมา “ปฏิเสธ” ว่าไม่คิดจะ “เสี่ยง” กับการไปวิ่งไล่ วิ่งกวด ไปออกเรี่ยว ออกแรงใดๆ ในประเทศญี่ปุ่นต่อไปอีกแล้ว ไม่ว่านักกีฬาอเมริกา แคนาดา นักเทนนิสระดับมือวางอย่าง “เซเรนา วิลเลียมส์” หรือแม้แต่ “นาโอมิ โอซากะ” ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นแท้ๆ ฯลฯ ฯลฯ ก็ยังไม่คิดจะเอาด้วย แนวโน้มที่คงต้อง “เลื่อน” หรือ “เลิก” จึงมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ และแนวโน้มที่บรรดาคอกีฬา แฟนกีฬาบ้านเรา หนีไม่พ้นต้อง “อดแ-ก” ตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ หรือย่อมต้องเป็นเช่นนั้นเอง ย่อมต้องเป็นพรรค์นั้นแหละ อย่างมิอาจปฏิเสธ...