ผู้เสียหายนับร้อย ร้อง บช.ก.เร่งติดตามอายัดทรัพย์เครือข่ายธุรกิจ "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" ผู้ต้องหาโกงพันล้าน เผย “มทภ.2” เคยระบุถึง "พ.ต.แพทย์หญิง" คนใกล้ชิดประสิทธิ์ ที่ถูกจับฉ้อโกง แต่ได้ประกัน แบ่งสอบคดีอาญา-ผิดวินัยทหาร
วานนี้ (19 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายจากกรณีถูก นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป และประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ที่ถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและกำชับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) อายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 209 ล้านบาท
นายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อติดตามทวงถาม และทวงเงินคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหาย โดยขอให้ บช.ก.ออกคำสั่งถึง บก.ป. ให้ติดตามเส้นทางการเงินที่อาจจะถูกโยกย้ายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ขอให้มีการรวบรวมทรัพย์สินมาที่ส่วนกลางทั้งหมดเพื่ออายัด และแจกจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่จาก บก.ป.เปิดเผยว่า ไม่กล้าอายัดทรัพย์สินจากคดีดังกล่าว ทางทนายจึงต้องมีการประสานมายังหน่วยงานนี้ เพื่อขอให้มีการออกคำสั่ง ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ หากมีผู้เสียหายจากคดีดังกล่าว ก็ขอให้ออกมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทวงทรัพย์สินคืน
“จากพฤติการณ์การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ในปีที่ผ่านมา เชื่อว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถดำเนินธุรกิจได้ และได้ผลกำไร จึงไม่มีการนำเงินมาปันผลให้กับผู้มาลงทุนอย่างแน่นอน นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าคดีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับในหลายส่วน ทั้งกองปราบปราม, กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และรวมไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)” นายรณณรงค์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก.กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือน เม.ย.64 แล้ว ซึ่งได้มีการเนินการตรวจสอบมาโดยตลอด และพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้น จึงได้มีการตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อมาช่วยสอบสวน โดยผู้เสียหายที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่ระหว่างประสานพื้นที่ให้ช่วยสอบสวนเพื่อไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“ส่วนของการยึดอายัดทรัพย์ ก็ได้มีการประสานสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน ส่วนการแจ้งข้อหาอื่นกับนายประสิทธิ์ นั้น หากมีหลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงก็จะดำเนินการเพิ่มทันที นอกจากนี้ผู้ต้องหารายอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลซึ่งทราบว่าอาจมีผู้ต้องหาเพิ่มอีกประมาณ 5-6 คน ตำรวจก็เร่งดำเนินการอยู่แล้ว” พล.ต.ต.ปัญญา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้ออกมารายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงคำชี้แจงของกองทัพภาค 2 บังคับบัญชา พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ วิเศษสุข สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ช่วยราชการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับนายประสิทธิ์ว่า พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาค 2 กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจ บก.ป.จับกุม พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาให้ประกันตัว พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์แล้ว โดยวันนี้เจ้าตัว ต้องกลับเข้ามาทำงาน และรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
ทั้งนี้ กรณีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ ความผิดคดีอาญากับความผิดวินัยทหาร ในส่วนของความผิดวินัยทหาร ทางกองทัพภาคที่ 2 จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการของ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ กระทบต่อภาพลักษณ์ทำให้กองทัพเสียหายหรือไม่ มีการใช้เวลาราชการ หรือแต่งชุดทหารเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือไม่ แต่เบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่า พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ใช้เวลานอกเวลาราชการไปทำธุรกิจ และมองได้ว่า เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนตัวในทางคดีอาญา
อย่างไรก็ตาม กองทัพภาค 2 จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐาน หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนคดีให้กับอัยการ และอัยการพิจารณาส่งศาล ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะมีคำสั่งให้ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์พักราชการทันที เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอย่างเต็มที่ในการดําเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และการดำเนินการทางวินัย พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกระดับให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และห้ามมิให้กำลังพลกระทำความเสื่อมเสีย อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง หากผลสอบสวนพบว่า พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ มีความผิดจริงก็จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัย และทางคดีอาญาอย่างถึงที่สุด โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่ง พักราชการ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ที่ถูกตำรวจจับกุมแล้วจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
วานนี้ (19 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายจากกรณีถูก นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป และประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ที่ถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและกำชับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) อายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 209 ล้านบาท
นายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อติดตามทวงถาม และทวงเงินคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหาย โดยขอให้ บช.ก.ออกคำสั่งถึง บก.ป. ให้ติดตามเส้นทางการเงินที่อาจจะถูกโยกย้ายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ขอให้มีการรวบรวมทรัพย์สินมาที่ส่วนกลางทั้งหมดเพื่ออายัด และแจกจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่จาก บก.ป.เปิดเผยว่า ไม่กล้าอายัดทรัพย์สินจากคดีดังกล่าว ทางทนายจึงต้องมีการประสานมายังหน่วยงานนี้ เพื่อขอให้มีการออกคำสั่ง ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ หากมีผู้เสียหายจากคดีดังกล่าว ก็ขอให้ออกมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทวงทรัพย์สินคืน
“จากพฤติการณ์การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ในปีที่ผ่านมา เชื่อว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถดำเนินธุรกิจได้ และได้ผลกำไร จึงไม่มีการนำเงินมาปันผลให้กับผู้มาลงทุนอย่างแน่นอน นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าคดีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับในหลายส่วน ทั้งกองปราบปราม, กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และรวมไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)” นายรณณรงค์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก.กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือน เม.ย.64 แล้ว ซึ่งได้มีการเนินการตรวจสอบมาโดยตลอด และพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้น จึงได้มีการตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อมาช่วยสอบสวน โดยผู้เสียหายที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่ระหว่างประสานพื้นที่ให้ช่วยสอบสวนเพื่อไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“ส่วนของการยึดอายัดทรัพย์ ก็ได้มีการประสานสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน ส่วนการแจ้งข้อหาอื่นกับนายประสิทธิ์ นั้น หากมีหลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงก็จะดำเนินการเพิ่มทันที นอกจากนี้ผู้ต้องหารายอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลซึ่งทราบว่าอาจมีผู้ต้องหาเพิ่มอีกประมาณ 5-6 คน ตำรวจก็เร่งดำเนินการอยู่แล้ว” พล.ต.ต.ปัญญา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้ออกมารายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงคำชี้แจงของกองทัพภาค 2 บังคับบัญชา พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ วิเศษสุข สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ช่วยราชการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับนายประสิทธิ์ว่า พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาค 2 กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจ บก.ป.จับกุม พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาให้ประกันตัว พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์แล้ว โดยวันนี้เจ้าตัว ต้องกลับเข้ามาทำงาน และรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
ทั้งนี้ กรณีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ ความผิดคดีอาญากับความผิดวินัยทหาร ในส่วนของความผิดวินัยทหาร ทางกองทัพภาคที่ 2 จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการของ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ กระทบต่อภาพลักษณ์ทำให้กองทัพเสียหายหรือไม่ มีการใช้เวลาราชการ หรือแต่งชุดทหารเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือไม่ แต่เบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่า พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ใช้เวลานอกเวลาราชการไปทำธุรกิจ และมองได้ว่า เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนตัวในทางคดีอาญา
อย่างไรก็ตาม กองทัพภาค 2 จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐาน หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนคดีให้กับอัยการ และอัยการพิจารณาส่งศาล ทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะมีคำสั่งให้ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์พักราชการทันที เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขอยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอย่างเต็มที่ในการดําเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และการดำเนินการทางวินัย พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกระดับให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และห้ามมิให้กำลังพลกระทำความเสื่อมเสีย อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง หากผลสอบสวนพบว่า พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ มีความผิดจริงก็จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัย และทางคดีอาญาอย่างถึงที่สุด โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่ง พักราชการ พ.ต.แพทย์หญิง อมราภรณ์ ที่ถูกตำรวจจับกุมแล้วจนกว่าคดีจะสิ้นสุด