ผู้จัดการรายวัน360- รวบเพิ่ม "กิตติศักดิ์" รองประธานฯเอ็มกรุ๊ป เครือข่าย "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" หิ้วตัวเค้นสอบฉ้อโกง ขณะที่"ประสิทธิ์" ถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำ หลังศาลอาญายกคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง หวั่นหลบหนี เจ้าตัวบอกอุดมการณ์ยังอยู่ ยันมีหลักฐานแจ้งความโดนโกงเงิน ด้านแม่ทัพภาค 2 สั่งพักราชการ "พ.ท.พญ.อมราภรณ์" จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
วานนี้ (18พ.ค.) ตำรวจกองปราบปราม ได้คุมตัว นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีเดียวกันกับ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการ ‘คืนคุณแผ่นดิน’ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ก่อนจะควบคุมตัวไปยังห้องสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้
ด้านพ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( บก.ปอศ. ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ศาลอาญา เพื่อขอฝากขังนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม ต่อศาลอาญา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์แล้ว หลังจากที่นายประสิทธิ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับคดีที่ร่วมกับพวกรวม 6 คน ฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุนในหลากหลายรูปแบบ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายและมีมูลค่าเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับนายประสิทธิ์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เเละอาจจะหลบหนีได้ หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งจากศาลว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร หากศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว ก็จะดำเนินการปล่อยตัวจากที่กองบังคับการปราบปรามได้ทันที แต่หากไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ก็จะควบคุมตัวไปส่งควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนการสอบปากคำนายประสิทธิ์ เบื้องต้น ให้การรับสารภาพแค่ว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และเป็นประธานบริษัทดังกล่าวจริง และมีอำนาจในการลงนามช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งประเด็นเรื่องการลงทุน การชักชวนผู้เสียหาย ไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน
รายงานข่าแจ้งเพิ่มเติมว่า ภายหลังการฝากขัง ทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท โดยศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง ความเสียหายมีจำนวนมาก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง และผู้ต้องหาถูกนำไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯระหว่างฝากขัง
นายประสิทธิ์ กล่าวหลังจากศาลไม่ให้ประกันตัวก่อนจะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ ว่า ถึงตัวจะโดนขัง แต่หัวใจและอุดมการณ์ยังคงอยู่ และยืนยันว่ามีหลักฐานหนังสือการแจ้งความเอาผิด คนที่โกงเงินตัวเองไป ก่อนจะขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปทันที
ขณะที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เป็นกำลังพลของหน่วย สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ช่วยราชการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการควบคุมตัว การสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐาน
พร้อมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และการดำเนินการทางวินัยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกระดับ ให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และห้ามมิให้กำลังพลกระทำความเสื่อมเสีย อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง หากผลสอบสวนพบว่า พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข มีความผิดจริงก็จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัย และทางคดีอาญาอย่างถึงที่สุด โดย พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่ง พักราชการ พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข ที่ถูกตำรวจกองปราบจับกุมแล้วจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
วานนี้ (18พ.ค.) ตำรวจกองปราบปราม ได้คุมตัว นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีเดียวกันกับ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการ ‘คืนคุณแผ่นดิน’ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ก่อนจะควบคุมตัวไปยังห้องสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้
ด้านพ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( บก.ปอศ. ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ศาลอาญา เพื่อขอฝากขังนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม ต่อศาลอาญา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์แล้ว หลังจากที่นายประสิทธิ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับคดีที่ร่วมกับพวกรวม 6 คน ฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุนในหลากหลายรูปแบบ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายและมีมูลค่าเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับนายประสิทธิ์ ถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เเละอาจจะหลบหนีได้ หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งจากศาลว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร หากศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว ก็จะดำเนินการปล่อยตัวจากที่กองบังคับการปราบปรามได้ทันที แต่หากไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ก็จะควบคุมตัวไปส่งควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนการสอบปากคำนายประสิทธิ์ เบื้องต้น ให้การรับสารภาพแค่ว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และเป็นประธานบริษัทดังกล่าวจริง และมีอำนาจในการลงนามช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งประเด็นเรื่องการลงทุน การชักชวนผู้เสียหาย ไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน
รายงานข่าแจ้งเพิ่มเติมว่า ภายหลังการฝากขัง ทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท โดยศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง ความเสียหายมีจำนวนมาก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง และผู้ต้องหาถูกนำไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯระหว่างฝากขัง
นายประสิทธิ์ กล่าวหลังจากศาลไม่ให้ประกันตัวก่อนจะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ ว่า ถึงตัวจะโดนขัง แต่หัวใจและอุดมการณ์ยังคงอยู่ และยืนยันว่ามีหลักฐานหนังสือการแจ้งความเอาผิด คนที่โกงเงินตัวเองไป ก่อนจะขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปทันที
ขณะที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เป็นกำลังพลของหน่วย สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ช่วยราชการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการควบคุมตัว การสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐาน
พร้อมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และการดำเนินการทางวินัยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกระดับ ให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของสังคม และห้ามมิให้กำลังพลกระทำความเสื่อมเสีย อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง หากผลสอบสวนพบว่า พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข มีความผิดจริงก็จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัย และทางคดีอาญาอย่างถึงที่สุด โดย พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่ง พักราชการ พ.ท.พญ. อมราภรณ์ วิเศษสุข ที่ถูกตำรวจกองปราบจับกุมแล้วจนกว่าคดีจะสิ้นสุด