"อีลอน มัสก์"ทวิตร้อนรายวัน ยอมรับอยู่เบื้องหลัง Dogecoin มาเกือบ 2 ปี ขู่ทำเหรียญดิจิทัลเอง หากทีมงานทำผลงานไม่เข้าเป้า ขณะที่สื่ออังกฤษรายงาน "อีลอน มัสค์" แอบเทขายบิตคอยน์ มูลค่า 272 ล้านดอลลาร์ ดัน "เทสลา" รายได้ทะลุเป้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ 2-3 วันก่อนหน้า "อีลอน มัสค์" ได้ออกมายอมรับว่า เขาได้เป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลังให้กับทีมพัฒนา Dogecoin มานานร่วม 2 ปีแล้ว โดยหลังจากที่เขาออกมายอมรับได้ไม่นาน ล่าสุด เขาก็ได้ทวิตบอกว่า จะผลักดันให้ Dogecoinสามารถเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีก แต่หากว่าทีมพัฒนา Dogecoinไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้เพิ่มขึ้นไปอีก10 เท่า ตามที่เขาต้องการได้ เขาจะสร้างเหรียญ Crypto ใหม่ขึ้นมาเอง
"หากทางผู้พัฒนา Dogecoin สามารถเพิ่มความเร็วจากเดิมได้ 10 เท่า และเพิ่มขนาดของบล็อกได้10 เท่ารวมถึงลดค่าบริการลงได้มากกว่านี้ 100 เท่า เหรียญ Dogecoinจะขึ้นมาแทนที่ Bitcoinได้อย่างไม่มีข้อสงสัย"
อย่างไรก็ตามได้มีนักลงทุนถามเขาว่า ทำไมเขาถึงไม่สร้างเหรียญ Crypto ขึ้นมาเอง จะมัวรออะไรอยู่ อีลอน มัสค์ ตอบกลับไปว่า “Only if Doge can’t do it. Big pain in the neck to create another one.”ซึ่งหากทาง Doge ไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ เขาจะเป็นผู้สร้างเหรียญขึ้นมาเอง แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
หลังจากนี้ ต้องจับตาดูว่า ทีมพัฒนา Dogecoin ของเขา จะสามารถแก้ปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าบริการลงตามที่เขาต้องการได้หรือไม่ และหากไม่สามารถทำได้ เราอาจจะได้เห็นอีลอน มัสค์ เสกเหรียญ TESLACOIN ของเขาขึ้นมา ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ นักลงทุนต่างเฝ้าภาวนาว่า อย่าทวิตบ่อยเกินไป เพราะปรับพอร์ตไม่ทัน ส่วนกูรูคริปโต ก็เหนื่อยไม่น้อยกับการหาเหตุผลมาอธิบายให้สอดรับกับกราฟ ที่ขึ้นหรือลง ส่วนเม่า...ก็ได้แต่ร้องขอชีวิตให้รถสองแถวมารับที่ยอดดอย
แอบเทขาย"บิทคอยน์"
นอกจากนี้ สื่ออังกฤษ ยังมีการรายอีกด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ เทสลา แอบขายเงินบิตคอยน์ของตัวเองออกไป มูลค่าราว 272 ล้านดอลลาร์ หรือราว 192 ล้านปอนด์ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ โดยเงินที่ขายบิตคอยน์ออกไปคิดเป็น 23% (101 ล้านดอลลาร์) ของรายได้รวมไตรมาสแรกประจำปีของเทสลา ทั้งหมด 438 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง "สกอตต์ กัลโลเวย์" ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากไม่มีการขายบิตคอยน์ รายได้ต่อไตรมาสของเทสลา อาจไม่ถึงเป้า
ทั้งนี้พบว่า มัสค์ มีความมั่งคั่งอยู่ที่ 166 พันล้านดอลลาร์ แต่ความมั่งคั่งของเขา ลดลงไปถึง 20.5 พันล้านดอลลาร์ หรือตกไปราว 15% หลังการปรากฏตัวของเขาเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการบันเทิงชื่อดัง Saturday Night Life ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยร่วมกับนักร้องสาวชื่อดัง ไมลีย์ ไซรัส ในรายการ มัสค์ ยังกล่าวล้อเลียนตัวเองเกี่ยวกับบิตคอยน์ เรียกเสียงหัวเราะจากคนในสตูดิโอ เป็นผลมาจากบรรดาสาธุชนในอเมริกาลงความเห็นว่า รายการที่มัสค์จัด มันช่างน่าเบื่อมาก
นิตยสารฟอร์บส์ ชี้ว่า ในเวลานี้เขายังคงเป็นชายที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก มีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 145.5 พันล้านดอลลาร์ สื่อ NME รายงาน
ประกาศไม่รับเงินดิจิทัลซื้อเทสลา
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.) มัสค์ ผู้ก่อตั้ง บริษัทเทสลาและสเปซ เอ็กซ์ ได้ทวีตว่า เทสลา จะยังคงไม่รับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยสกุลเงินดิจิทัล เนื่องมาจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อมเป็นหลัก การประกาศดังกล่าว ส่งผลทำให้ค่าเงินคริปโตระส่ำ สื่ออังกฤษชี้ ทำให้เงินดิจิทัล ตกไปครั้งแรกถึง 17% ถึงแม้จะไต่กลับมาได้เล็กน้อยในช่วงระหว่างวัน
ค่ำวันศุกร์ (14พ.ค.) ค่าสกุลเงินบิตคอยน์ 50,000 ดอลลาร์ หลังมีมูลค่าในวันพุธ (12พ.ค. ) ก่อนการประกาศที่ 56,000 ดอลลาร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ 2-3 วันก่อนหน้า "อีลอน มัสค์" ได้ออกมายอมรับว่า เขาได้เป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลังให้กับทีมพัฒนา Dogecoin มานานร่วม 2 ปีแล้ว โดยหลังจากที่เขาออกมายอมรับได้ไม่นาน ล่าสุด เขาก็ได้ทวิตบอกว่า จะผลักดันให้ Dogecoinสามารถเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีก แต่หากว่าทีมพัฒนา Dogecoinไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้เพิ่มขึ้นไปอีก10 เท่า ตามที่เขาต้องการได้ เขาจะสร้างเหรียญ Crypto ใหม่ขึ้นมาเอง
"หากทางผู้พัฒนา Dogecoin สามารถเพิ่มความเร็วจากเดิมได้ 10 เท่า และเพิ่มขนาดของบล็อกได้10 เท่ารวมถึงลดค่าบริการลงได้มากกว่านี้ 100 เท่า เหรียญ Dogecoinจะขึ้นมาแทนที่ Bitcoinได้อย่างไม่มีข้อสงสัย"
อย่างไรก็ตามได้มีนักลงทุนถามเขาว่า ทำไมเขาถึงไม่สร้างเหรียญ Crypto ขึ้นมาเอง จะมัวรออะไรอยู่ อีลอน มัสค์ ตอบกลับไปว่า “Only if Doge can’t do it. Big pain in the neck to create another one.”ซึ่งหากทาง Doge ไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ เขาจะเป็นผู้สร้างเหรียญขึ้นมาเอง แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
หลังจากนี้ ต้องจับตาดูว่า ทีมพัฒนา Dogecoin ของเขา จะสามารถแก้ปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าบริการลงตามที่เขาต้องการได้หรือไม่ และหากไม่สามารถทำได้ เราอาจจะได้เห็นอีลอน มัสค์ เสกเหรียญ TESLACOIN ของเขาขึ้นมา ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ นักลงทุนต่างเฝ้าภาวนาว่า อย่าทวิตบ่อยเกินไป เพราะปรับพอร์ตไม่ทัน ส่วนกูรูคริปโต ก็เหนื่อยไม่น้อยกับการหาเหตุผลมาอธิบายให้สอดรับกับกราฟ ที่ขึ้นหรือลง ส่วนเม่า...ก็ได้แต่ร้องขอชีวิตให้รถสองแถวมารับที่ยอดดอย
แอบเทขาย"บิทคอยน์"
นอกจากนี้ สื่ออังกฤษ ยังมีการรายอีกด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ เทสลา แอบขายเงินบิตคอยน์ของตัวเองออกไป มูลค่าราว 272 ล้านดอลลาร์ หรือราว 192 ล้านปอนด์ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ โดยเงินที่ขายบิตคอยน์ออกไปคิดเป็น 23% (101 ล้านดอลลาร์) ของรายได้รวมไตรมาสแรกประจำปีของเทสลา ทั้งหมด 438 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง "สกอตต์ กัลโลเวย์" ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากไม่มีการขายบิตคอยน์ รายได้ต่อไตรมาสของเทสลา อาจไม่ถึงเป้า
ทั้งนี้พบว่า มัสค์ มีความมั่งคั่งอยู่ที่ 166 พันล้านดอลลาร์ แต่ความมั่งคั่งของเขา ลดลงไปถึง 20.5 พันล้านดอลลาร์ หรือตกไปราว 15% หลังการปรากฏตัวของเขาเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการบันเทิงชื่อดัง Saturday Night Life ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยร่วมกับนักร้องสาวชื่อดัง ไมลีย์ ไซรัส ในรายการ มัสค์ ยังกล่าวล้อเลียนตัวเองเกี่ยวกับบิตคอยน์ เรียกเสียงหัวเราะจากคนในสตูดิโอ เป็นผลมาจากบรรดาสาธุชนในอเมริกาลงความเห็นว่า รายการที่มัสค์จัด มันช่างน่าเบื่อมาก
นิตยสารฟอร์บส์ ชี้ว่า ในเวลานี้เขายังคงเป็นชายที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก มีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 145.5 พันล้านดอลลาร์ สื่อ NME รายงาน
ประกาศไม่รับเงินดิจิทัลซื้อเทสลา
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.) มัสค์ ผู้ก่อตั้ง บริษัทเทสลาและสเปซ เอ็กซ์ ได้ทวีตว่า เทสลา จะยังคงไม่รับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยสกุลเงินดิจิทัล เนื่องมาจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อมเป็นหลัก การประกาศดังกล่าว ส่งผลทำให้ค่าเงินคริปโตระส่ำ สื่ออังกฤษชี้ ทำให้เงินดิจิทัล ตกไปครั้งแรกถึง 17% ถึงแม้จะไต่กลับมาได้เล็กน้อยในช่วงระหว่างวัน
ค่ำวันศุกร์ (14พ.ค.) ค่าสกุลเงินบิตคอยน์ 50,000 ดอลลาร์ หลังมีมูลค่าในวันพุธ (12พ.ค. ) ก่อนการประกาศที่ 56,000 ดอลลาร์