ชะตากรรมของผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย อเล็กเซ นาวาลนี ยังอยู่ในกำมือของผู้นำประเทศ วลาดิมีร์ ปูติน หลังจากประท้วงอดอาหารขณะที่จองจำในคุก เพื่อขอรับการรักษาอาการป่วยเรื้อรังด้วยแพทย์ของตัวเอง หลังจากเกือบเสียชีวิตเพราะโดนวางสารพิษ
แม้จะหายจากอาการป่วย แต่ฝ่ายค้านจอมอึดยังต้องติดคุกจนกว่าจะครบเวลากว่า 2 ปี แต่กระนั้นยังต้องลุ้นว่าจะรอดปลอดภัยหรือไม่
บรรดาผู้สนับสนุนได้เดินขบวนประท้วงในเมืองใหญ่เกือบทั่วประเทศหลายรอบ แต่ก็ไม่ส่งผลให้นาวาลนีมีสภาพดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะต้องติดคุก
แต่ชะตากรรมของทีมแพทย์ที่เคยรักษานาวาลนีในเมืองออมสค์ ส่วนหนึ่งของพื้นที่ไซบีเรียกลับเลวร้ายกว่า เพราะมี 1 รายอยู่ในสภาวะสูญหายในป่า ขณะล่าสัตว์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และแพทย์อีก 2 รายเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ
แพทย์ทั้ง 3 มีส่วนในการรักษาฉุกเฉินสำหรับอาการเบื้องต้นให้นาวาลนีในเมืองออมสค์ ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาที่เยอรมนีในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
อาการโคม่า ปางตายคราวนั้น แพทย์ในกรุงเบอร์ลินใช้เวลารักษากว่า 5 เดือน ก่อนจะกลับมาและถูกศาลสั่งจำคุกในข้อหาฉ้อฉลเกี่ยวกับคดีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งนาวาลนีกล่าวหาผู้นำปูตินว่าเป็นคดีกลั่นแกล้งทางการเมือง
นาวาลนีถือว่าเป็นหอกข้างแคร่ของปูตินซึ่งพยายามจะครองอำนาจให้นานที่สุด ล่าสุดก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองอยู่ต่อได้อีก
แพทย์ที่สูญหายในป่าขณะล่าสัตว์คือผู้อำนวยการใหญ่ด้านสาธารณสุขในเขตหนึ่งของไซบีเรีย นายแพทย์อเล็กซานเดอร์ มูรัคคอฟสกี้ ซึ่งใช้ยานขับเคลื่อนสี่ล้อไปล่าสัตว์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และหายไปในวันเสาร์ โดยทีมงานแจ้งให้เจ้าหน้าที่
การค้นหาด้วยเฮลิคอปเตอร์และยานไร้คนขับ โดรน ในพื้นที่นั้นพบเพียงแต่รถที่จอดทิ้งไว้ห่างจากจุดที่นายแพทย์หายตัวในเกือบ 7 กิโลเมตร จากนั้นไม่ปรากฏ ร่องรอย และการค้นหาในป่าและบึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
นายแพทย์มูรัคคอฟสกี้ อายุ 50 ปีได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้อำนายการแพทย์ฝ่ายฉุกเฉินในโรงพยาบาลเมืองออมสค์ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และได้แถลงอาการของนาวาลนีว่ามีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่ไม่ระบุเรื่องสารพิษ
มาปรากฏภายหลังว่าเป็นสารพิษโนวิชอคซึ่งทำลายระบบประสาทอย่างแรง ทำให้นาวาลนีอยู่ในอาการโคม่า หลังจากพบว่าสารพิษถูกซุกไว้ในกางเกงใน
นายนาวาลนีได้โจมตีแพทย์ผู้นี้ว่าได้โกหก บิดเบือนข้อเท็จจริงของอาการป่วย ซึ่งถูกระบุว่าผิดปกติของระบบร่างกาย และว่ารายงานเช่นนั้นทำเพื่อเอาใจเจ้านาย เพื่อให้ตัวเองได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ถือว่าเป็นความดีความชอบ
ครั้งนั้น ถ้าภรรยาของนาวาลนีไม่ได้เขียนคำขออ้อนวอนให้ปูตินอนุญาตให้ส่งตัวนาวาลนีไปรักษาตัวที่เยอรมนี ชะตากรรมของนาวาลนีย่อมเลวร้ายที่สุด เพราะมีน้อยรายที่รอดจากสารโนวิชอค ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอย่างทันท่วงที
เป็นเพราะความสนใจของประชาชนและแรงกดดันจากประชาคมโลก ทำให้ปูตินยอมส่งตัวนาวาลนีไปรักษาที่เยอรมนี แต่ก็มีโทษจำคุกรออยู่ และแพทย์ผู้นำเป็นผู้กำความลับเกี่ยวกับอาการป่วยของนาวาลนีช่วงที่โดนสารพิษ
ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถหาตัวนายแพทย์ผู้สูญหายได้หรือไม่ และมีการตั้งข้อสังเกตโดยหลายฝ่ายว่าความลึกลับอาจเป็นเพราะถูกปิดปากก็เป็นได้
ความพิสดารก่อนหน้านี้ยังมีเกี่ยวกับวิสัญญีแพทย์ประจำโรงพยาบาลเดียวกันซึ่งได้รักษาอาการของนาวาลนี ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา นายเซอร์เกย์ แม็กซิมิสชิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิสัญญีและกู้ชีวิตได้เสียชีวิตอย่างลึกลับ
การตายของแพทย์วิสัญญีรายนี้น่าสงสัยเพราะมีอายุเพียง 55 ปี และเป็นนายแพทย์อาวุโสระดับต้นๆ รายหนึ่งในโรงพยาบาลที่เมืองออมสค์ และเป็นผู้ดูแลอาการของนาวาลนีให้อยู่ในสภาวะโคม่า ก่อนถูกส่งตัวไปเยอรมนี
ยิ่งไม่มีรายงานว่าเสียชีวิตเพราะเหตุใด ก็ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าเป็นการฆ่าปิดปาก เพราะเป็นไปได้ยากถ้าจะมีความบังเอิญอย่างนั้น
และยิ่งมีข้อสงสัยมากกว่าเดิมเมื่อมีแพทย์คนดังอีกรายในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งนั้น คือนายแพทย์รัสแทม อาจิเชฟ เสียชีวิตกะทันหันในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่อยู่ในวัย 63 ปีโดยไม่แจ้งอาการ
แพทย์รายนี้ป่วยด้วยอาการหัวใจวายในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และอาการไม่ดีขึ้น แต่ไม่มีความแน่ชัดว่าอาจิเชฟได้มีส่วนในการรักษานาวาลนีหรือไม่
เป็นอันว่าแพทย์ทั้ง 3 รายอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน อายุยังไม่มาก ดูแล้วเกี่ยวโยงกับการดูแลอาการของนาวาลนี ต้องเสียชีวิตด้วยเวลาไล่เลี่ยกันอย่างมีเงื่อนงำ ในสังคมหลังม่านเหล็ก สภาวะเช่นนี้มักเกิดขึ้นได้ถ้าต้องการความลับ