"โสภณ องค์การณ์"
สถานการณ์ในประเทศ เกี่ยวกับการรับมือการระบาดของโควิด-19 ถูกยกระดับไปเป็นการรวมศูนย์ ซิงเกิลคอมมานด์ คราวนี้ลามกินรวบไปทั้งจังหวัดปริมณฑล อำนาจผู้ว่าฯ ถูกรวบมาอยู่ภายไต้ผู้นำรัฐบาล คือคุณท่านลุง ผู้กุมอำนาจสูงสุด
เหมือนกับว่ารวบอำนาจภายไต้ ศบค. ยังไม่มากพอ กินรวบกฎหมาย 31 ฉบับแล้วยังไม่เชื่อมั่นว่าผู้ว่าจังหวัดรอบเมืองหลวงจะมีน้ำยาเพียงพอ คุณท่านก็เลยรวบหมด รวมทั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วย ทุกอย่างจึงอยู่ภายไต้ของการสั่งการของคุณท่าน
ระบบนี้ ถ้าผู้กุมอำนาจมีความรู้ ความสามารถ สติปัญญา ตามเหตุการณ์ต่างๆ ภายในโลกอย่างทันการ ไม่ต้องรอรับรายงานจากผู้อยู่ในศูนย์ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ผลประโยชน์อื่นใดแฝงเร้น ทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมจริงจัง ก็น่าจะดี
ที่ผ่านมาเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าคุณท่านมีคุณสมบัติเจ๋งอย่างนั้นจริง บ้านเมืองคงไม่ปัญหา การบริหารยามวิกฤติคงไม่เละตุ้มเป๊ะ อย่างที่เป็นทุกวันนี้
ซิงเกิลคอมมานด์ จึงเป็นซิงเกิล คอมโมชั่น (single commotion) ซึ่งเป็นสภาวะโกลาหล สับสนอลหม่าน วุ่นวาย อยู่คนเดียว จนลงเอยอยู่ในสภาพโหล่ยโท่ย
ถ้ามีความสามารถจริง คงจัดการปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วนับตั้งแต่การระบาดรอบแรก ไม่นั่งเป็นปลื้มดื่มด่ำกับคำชมขององค์กรสากลต่างๆ จนหลงระเริงลืมตัว การ์ดตก ไม่พร้อมในการรับมือ จนเกิดคลัสเตอร์ทองหล่อเป็นหายนะ
เป็นสภาวะวินาศสันตะโร การระบาดลามไปทั่วประเทศ เอาไม่อยู่ แม้จะมีคำปลอบประโลมจากคุณท่านว่าไม่ท้อถอย จะขอสู้ต่อไป ไม่เหนื่อย โดยหารู้ไม่ว่าคุณท่านเผชิญวิกฤติศรัทธาความน่าเชื่อถือ จนประชาชนประชดอยากย้ายประเทศ
ที่จริงประเทศนี้ดีพร้อมมากกว่าหลายประเทศทั่วโลก แต่ผู้นำแต่ละยุคไม่ได้เรื่อง เป็นการเสียของ เสียโอกาสซ้ำซาก แถมยังสืบทอดมรดกบาปในการทุจริต คอร์รัปชั่นอย่างไม่ยอมปล่อย จนมีชื่อชั้นติดอันดับโลกหลายด้านในความล้มเหลว
เรื่องหนี้ครัวเรือน ความเหลื่อมล้ำแตกต่างด้านรายได้ ก็ไม่เป็นรองใคร! ความไม่ประมาณตน ไม่รู้จักขอบเขตและข้อจำกัดในความสามารถของตัวเอง คือปัญหา
การไม่ยอมฟังใคร เอาตัวเองเป็นศูนย์ ย่อมนำพาไปสู่ความสูญเปล่าในทรัพยากรมนุษย์ งบประมาณที่ทุ่มเทลงไปกับความไม่รู้ ทำให้เกิดความสูญเสีย
และจะเป็นความเสียหายที่คนมีอำนาจไม่ยอมรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น!
ล่าสุดคุณท่านก็ประกาศนโยบายประชานิยมเยียวยาแจกสะบัด ผ่านโครงการต่างๆ สารพัด ต้องทุ่มเงินอีก 2-3 แสนล้านบาท เพื่อซื้อใจ ปิดปากชาวบ้านไม่ให้โวย ใช้หว่านเป็นพื้นฐานสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งรอบใหม่ เพื่อคนชอบของฟรี
และมาตรการซื้อใจ หว่านเงิน ได้ผลจริงๆ ทำให้ชาวบ้านว่างงานไม่ยอมทำงาน เกี่ยงงาน มีงานรายได้วันละ 400 บาทก็ไม่ยอมทำ รอเงินเยียวยาอย่างเดียว
เมื่อไม่แจกเบ็ดให้คนหาปลา แจกแต่ปลาให้คนกิน คนก็เลยเคยตัว งวดนี้เงินก้อนสุดท้ายที่กู้มา 1 ล้านล้านบาทคงจะเกลี้ยง วางแผนจะกู้รอบใหม่ สร้างหนี้อีก
เศรษฐกิจพังพาบ ตายซากเรื้อรังอย่างนี้ จะต้องถมเงินอีกเท่าไหร่?
แต่ยังไม่มีข่าวเรื่องจัดงบประมาณให้แพทย์เพื่อจัดการปัญหาความขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ เครื่องให้ออกซิเจน เวชภัณฑ์ ชุดป้องกันการติดเชื้อ อีกสารพัด ทั้งๆ ที่โรงพยาบาลของรัฐต้องตากหน้ามาขอรับบริจาคจากประชาชน เพราะขาดแคลน
ไม่พูดถึงสักแอะ ว่าจะจัดงบให้เพียงพอให้แพทย์รับมือกับการระบาด ทุกวันนี้เหนื่อยสาหัส ขาดทั้งบุคลากร ทุกอย่างที่จำเป็น ไม่ต้องพูดถึงวัคซีนและเตียงในโรงพยาบาล ทุกวันนี้ยังขาดเครื่องช่วยหายใจ ก็ยังไม่มีข่าวเรื่องการเร่งจัดซื้อ
ทีเรื่องเงินเยียวยาหาเสียง ปิดปากชาวบ้านไม่ให้โวยนั้น ทำเป็นเรื่องฉุกเฉิน!
เมื่อได้รับรู้สถานการณ์ความขาดแคลนน่าอนาถอย่างนี้ ผู้รับผิดชอบบ้านเมืองยังไม่รู้สึกอาย รวบอำนาจการสั่ง เหมือนมองตัวเองว่าเก่งเกินกว่าใครในแผ่นดิน
การรวบอำนาจอย่างนี้ รัฐมนตรีไม่มีใครกล้าค้าน กลุ่มแพทย์ที่เห็นปัญหาและข้อบกพร่อง ก็ไม่กล้าเอ่ยปากท้วงติง กลัวฤทธิ์ความกริ้วเกรี้ยวกราด แต่คุณท่านไม่ยักเอ่ยปากสักแอะว่า ถ้าล้มเหลวแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร แต่คนก็ไม่ได้หวังว่าจะมี
และยังมีแพทย์การเมืองที่ไม่ยอมให้ความคิดเห็น ซึ่งอาจไม่ถูกอารมณ์ของคุณท่านผู้นำ เกรงท่านไม่ปลื้มกับข่าวร้าย ชอบฟังแต่คำพูด “ถูกครับท่าน” ทำให้แพทย์ที่ทำงานจริง ไม่อิงการเมือง แต่พูดความจริงโดนรุมกระหน่ำจนล้า ล่าถอย
เดี๋ยวนี้นอกจากมีพวกติ่งไต้ตมลุ่มหลงคุณท่านรับบทแก้ต่าง ยังมีขบวนการไอโอ ซึ่งอาละวาดในภาคโซเชียลมีเดีย แสดงความเห็นต่อต้าน คัดค้านกับผู้ไม่สนับสนุนคุณท่านผู้นำ ทำให้เห็นว่ามีเป็นขบวนการ ยืนยันข้อสงสัยก่อนหน้านี้
และมีความสับสนในอีกประเด็นสำคัญด้วยหรือไม่ ทุกวันนี้มีแพทย์คนดังๆ ผลัดกันออกมาชักชวนให้ประชาชนไปรับการฉีดวัคซีน อ้างว่ายังดีกว่าไม่ฉีด แม้มีอาการไม่พึงประสงค์ หรือความเสี่ยงบ้าง แต่ปัญหาอย่างนี้มีน้อยกว่าการเสี่ยงติดเชื้อ
ชาวบ้านอยากไปฉีดวัคซีน ไปลงทะเบียนป่านนี้ถึงล้านคนแล้วมั้ง แต่กว่าจะได้ฉีดก็ต้องใช้เวลา 1-2 เดือนโน่น ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ฉีดด้วยหรือไม่ เพราะการนำเข้าวัคซีนมียึกยัก กั๊ก ขยักขย่อน หาความแน่นอนไม่ได้ ผูกติดพันอยู่แค่ 2 ยี่ห้อ
ถามว่ามีอะไรพิเศษกับ 2 ยี่ห้อหรือ ก็ไม่ตอบ ทำไมไม่ซื้อยี่ห้ออื่นก็อ้างโน่นอ้างนี่ รวมกับระบบราชการเรื่องเยอะ ทำให้การทำงานไม่สมกับภาวะฉุกเฉิน
อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นความฉุกละหุกในภาวะฉุกเฉิน และมีคุณท่านและพวกใน 3 ลุง รวมทั้งสมุนบริวารเท่านั้นที่รู้สึกถึงความฉุกเฉินว่าจะต้องเสียอำนาจอยู่ต่อ
พวกเราอย่าย้ายไปอยู่ประเทศอื่น แผ่นดินนี้ดีกว่าที่ใดในโลก วิธีการที่ถูกต้อง ดีกว่า คือการทำให้ผู้บริหารบ้านเมืองโหล่ยโท่ยอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้
ถ้าทำไม่ได้ คณะ 2 ลุงอยู่ต่อ บ้านเมืองเสี่ยงกับการไปไม่รอดแน่!