“ศบค.ชุดใหญ่” ยกระดับคุมเข้มสกัดโควิดรอบใหม่ พื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด “กทม.-ชลบุรี-เชียงใหม่-นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ” ควบคุมเข้มห้ามเดินทางข้ามพื้นที่-ห้ามนั่งกินในร้าน ยัน “ไม่ล็อกดาวน์-ไม่เคอร์ฟิว”
วานนี้ (29 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่จะจัดกลุ่มใหม่เป็น 6 จังหวัด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 รายต่อสัปดาห์ ได้แก่ กทม., ชลบุรี, เชียงใหม่, นนทบุรี, ปทุมธานี และ สมุทรปราการ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่จะใช้กับกลุ่มสีแดงเข้ม 6 จังหวัด ได้แก่ ห้ามจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 20 คน, ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น., สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดบริการ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุกให้งดการใช้บริการ, ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินให้เปิดตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ ซึ่งปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น. และงดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
สำหรับมาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จำนวน 45 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามจัดกิจกรรม รวมกันมากกว่า 50 คน, การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ ไม่เกินเวลา เวลา 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 น. ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่น, ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุกให้งดการใช้บริการ, ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินให้เปิดตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น., สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจำกัดจำนวนผู้ชมในสนาม และการตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ ศปก.ศบค.กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ขณะที่มาตรการพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จำนวน 26 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน, จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น., ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก งดให้บริการ, การตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ ศปก.ศบค.กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
“ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เวลา 00.01 น .ของวันที่ 1 พ.ค.64 เป็นต้นไป รวมระยะเวลา 14 วัน หรือ วันที่ 1 – 14 พ.ค.64” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับทั่วทุกพื้นที่ทุกจังหวัด คือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่สามารุกล่าวตักเตือนและสั่งให้บุคคลที่ไม่ปฏิบัติดำเนินการให้ถูกต้อง ก่อนที่จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, งดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรือ งานรื่นเริง ยกเว้นการจัดตามพิธีตามประเพณีนิยม, ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) ขั้นสูงสุดอย่างน้อย 14 วัน และห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือ ทำกิจกรรมใดที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
“ขอให้หน่วยราชการ สถานประกอบการ ภาคเอกชนทั่วประเทศ จัดให้มีการ Work From Home เป็นมาตรการขั้นสูงสุดเป็นเวลา 14 วัน ยืนยันว่า ไม่ล็อกดาวน์ ไม่เคอร์ฟิว สิ่งที่จะช่วยได้ คือ Work From Home เพื่อลดการรวมกลุ่มของบุคคล โดยมาตรการต่างๆ ในครั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.และมีกำหนดจะทบทวนอีกครั้งเมื่อครบ 14 วัน” โฆษก ศบค. ระบุ
อีกด้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) แจ้งรายชื่อจังหวัดที่ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหสถาน รวมทั้งสิ้น 12 จังหวัด ดังนี้ 1.ตรัง เวลา 22.00-03.00 น., 2.นนทบุรี เวลา 21.00-04.00 น., 3.บึงกาฬ เวลา 23.00-04.00 น., 4.ปทุมธานี เวลา 21.00-04.00 น., 5.สงขลา เวลา 22.00-04.00 น., 6.สมุทรปราการ เวลา 21.00-04.00 น., 7.สมุทรสาคร เวลา 23.00-04.00 น., 8.สุราษฎร์ธานี เวลา 22.00-04.00 น., 9.ยะลา เวลา 22.00-04.00น., 10.นครนายก เวลา 23.00น.-04.00น., 11.ชัยนาท เวลา 23.00-04.00น. และ 12.นครปฐม เวลา 23.00-04.00น.
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักพระราชวัง ได้ทำหนังสือลงนามโดย พล.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 27 เม.ย.64 เรื่องงดการพระราชพิธีในเดือน พ.ค.64 โดยสาระสำคัญระบุว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักพระราชวังจึงงดพระราชพิธีตามที่ได้กำหนดการพระราชพิธีในเดือน พ.ค.64 ไว้แล้วคือ 1.พระราชพิธีการพระราชกุศลทักษิณานุปทานและพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช 2564 วันที่ 2-4 พ.ค.64, 2.พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตรงกับวันที่ 9 -10 พ.ค.64 และ 3.พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 - 26 พ.ค.64
วานนี้ (29 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่จะจัดกลุ่มใหม่เป็น 6 จังหวัด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 รายต่อสัปดาห์ ได้แก่ กทม., ชลบุรี, เชียงใหม่, นนทบุรี, ปทุมธานี และ สมุทรปราการ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่จะใช้กับกลุ่มสีแดงเข้ม 6 จังหวัด ได้แก่ ห้ามจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 20 คน, ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น., สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดบริการ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุกให้งดการใช้บริการ, ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินให้เปิดตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ ซึ่งปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น. และงดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
สำหรับมาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จำนวน 45 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามจัดกิจกรรม รวมกันมากกว่า 50 คน, การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ ไม่เกินเวลา เวลา 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 น. ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่น, ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุกให้งดการใช้บริการ, ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินให้เปิดตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น., สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจำกัดจำนวนผู้ชมในสนาม และการตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ ศปก.ศบค.กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ขณะที่มาตรการพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จำนวน 26 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน, จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น., ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก งดให้บริการ, การตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ ศปก.ศบค.กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
“ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เวลา 00.01 น .ของวันที่ 1 พ.ค.64 เป็นต้นไป รวมระยะเวลา 14 วัน หรือ วันที่ 1 – 14 พ.ค.64” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับทั่วทุกพื้นที่ทุกจังหวัด คือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่สามารุกล่าวตักเตือนและสั่งให้บุคคลที่ไม่ปฏิบัติดำเนินการให้ถูกต้อง ก่อนที่จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, งดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรือ งานรื่นเริง ยกเว้นการจัดตามพิธีตามประเพณีนิยม, ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) ขั้นสูงสุดอย่างน้อย 14 วัน และห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือ ทำกิจกรรมใดที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
“ขอให้หน่วยราชการ สถานประกอบการ ภาคเอกชนทั่วประเทศ จัดให้มีการ Work From Home เป็นมาตรการขั้นสูงสุดเป็นเวลา 14 วัน ยืนยันว่า ไม่ล็อกดาวน์ ไม่เคอร์ฟิว สิ่งที่จะช่วยได้ คือ Work From Home เพื่อลดการรวมกลุ่มของบุคคล โดยมาตรการต่างๆ ในครั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.และมีกำหนดจะทบทวนอีกครั้งเมื่อครบ 14 วัน” โฆษก ศบค. ระบุ
อีกด้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) แจ้งรายชื่อจังหวัดที่ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหสถาน รวมทั้งสิ้น 12 จังหวัด ดังนี้ 1.ตรัง เวลา 22.00-03.00 น., 2.นนทบุรี เวลา 21.00-04.00 น., 3.บึงกาฬ เวลา 23.00-04.00 น., 4.ปทุมธานี เวลา 21.00-04.00 น., 5.สงขลา เวลา 22.00-04.00 น., 6.สมุทรปราการ เวลา 21.00-04.00 น., 7.สมุทรสาคร เวลา 23.00-04.00 น., 8.สุราษฎร์ธานี เวลา 22.00-04.00 น., 9.ยะลา เวลา 22.00-04.00น., 10.นครนายก เวลา 23.00น.-04.00น., 11.ชัยนาท เวลา 23.00-04.00น. และ 12.นครปฐม เวลา 23.00-04.00น.
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักพระราชวัง ได้ทำหนังสือลงนามโดย พล.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 27 เม.ย.64 เรื่องงดการพระราชพิธีในเดือน พ.ค.64 โดยสาระสำคัญระบุว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักพระราชวังจึงงดพระราชพิธีตามที่ได้กำหนดการพระราชพิธีในเดือน พ.ค.64 ไว้แล้วคือ 1.พระราชพิธีการพระราชกุศลทักษิณานุปทานและพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช 2564 วันที่ 2-4 พ.ค.64, 2.พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตรงกับวันที่ 9 -10 พ.ค.64 และ 3.พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 - 26 พ.ค.64