ผู้จัดการรายวัน 360 - รวบทันควัน หนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองน้ำหนัก 38 บาท มูลค่าเกือบล้าน กลางห้างดังงามวงศ์วาน ที่แท้โจ๋วัย 21 เผยทองที่คนร้ายชิงไป ตร.ตามคืนมาได้เกือบหมด พร้อมเตรียมควบคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันนี้ (28 เม.ย.)
จากเหตุการณ์กรณีคนร้ายเป็นชายรูปร่างเล็ก สวมเสื้อแขนยาวมีฮูดสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าบูท สูงประมาณ 170 ซม. ควงปืน บุกเดี่ยว ชิงสร้อยคอทองคำ หนัก 38 บาท มูลค่านับล้านบาท ของร้านห้างทองโต๊ะกัง 1991 ทองเยาวราช ห้างพันทิพย์พลาซ่า ชั้นจี ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทุรี พร้อมจี้รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหลบหนีไป และทำสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ตกระหว่างทางหนึ่งเส้นเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
วานนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายวรธน สมปาง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ได้แล้วพร้อมติดตามทองรูปพรรณที่คนร้ายปล้นไปกลับมาได้เกือบทั้งหมด ซึ่งชุดสืบสวนภาค1 ภ.จว.นนทบุรี และสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ อยู่ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาสอบสวนปากคำและนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังก่อเหตุนายวรธนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่จี้ชิงมาขับหลบหนีไปในพื้นที่ปทุมธานี และนำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่ริมถนนรังสิต-นครนายก และนั่งรถเมล์กลับมาที่ห้องพักภายในวัดบัวขวัญ เนื่องจากนายวรธน ผู้ต้องหา เคยเป็นเด็กวัดบัวขวัญ แล้วนำทองไปซ่อนไว้ที่ห้องพักส่วนหนึ่ง ส่วนทองอีกจำนวนหนึ่งได้นำไปขาย จากนั้นนายวรธนได้เหมารถแท็กซี่กลับบ้านเกิดที่จังหวัดเลย
หลังจากได้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปที่วัดบัวขวัญ พบนายดำรง ใจพักดี อายุ 57 ปี โดยนายดำรงรับสารภาพว่า นายวรธนได้นำทองมาฝากไว้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดสร้อยทองที่ซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะบูชาพระพุทธรูปได้ จำนวน 29 เส้น เงินสด จำนวน 17,000 บาท และแจ้งข้อหาว่ารับของโจรนำตัวไปดำเนินคดี
นายดำรง กล่าวว่า ตนเลี้ยงดูนายวรธนมาตั้งแต่เด็ก ต่อมานายวรธนได้ไปเกณฑ์ทหารที่บ้านเกิดจังหวัดเลย หลังเป็นทหารเกณฑ์ได้ปีนึงนายวรธนได้หลบหนีทหารกลับมาหาตนที่วัดบัวขวัญ วันเกิดเหตุนายวรธนได้นำทองมาฝากไว้กับตนพร้อมทั้งเล่าให้ตนฟังว่าได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองมา ก่อนที่นายวรธนจะหลบหนีไปบ้านเกิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายวรธน ผู้ต้องหา พบนายวรธนผู้ต้องหากำลังนอนหลับอยู่ จึงได้จับกุมตัวมาทำการสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ นายวรธนยังเป็นทหารเกณฑ์สังกัด ม.ทบ.28 ค่ายศรีสองรัก อำเภอเมืองเลย แต่นายวรธน ผู้ต้องหา อยู่ระหว่างหลบหนีทหาร หลังก่อเหตุนายวรธนได้ไปโกนหัวเพื่อพรางตัวหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองในวันนี้ (28 เม.ย.)
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางไปที่ถนนรังสิต-นครนายก 68 ต.บึงยี่โถ จ.ปทุมธานี เพื่อทำการยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีชมพู ทะเบียน 7กข 3816 กรุงเทพมหานคร ที่คนร้ายจี้ชิงมาและนำมาจอดทิ้งไว้
จากเหตุการณ์กรณีคนร้ายเป็นชายรูปร่างเล็ก สวมเสื้อแขนยาวมีฮูดสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าบูท สูงประมาณ 170 ซม. ควงปืน บุกเดี่ยว ชิงสร้อยคอทองคำ หนัก 38 บาท มูลค่านับล้านบาท ของร้านห้างทองโต๊ะกัง 1991 ทองเยาวราช ห้างพันทิพย์พลาซ่า ชั้นจี ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทุรี พร้อมจี้รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหลบหนีไป และทำสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ตกระหว่างทางหนึ่งเส้นเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
วานนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายวรธน สมปาง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ได้แล้วพร้อมติดตามทองรูปพรรณที่คนร้ายปล้นไปกลับมาได้เกือบทั้งหมด ซึ่งชุดสืบสวนภาค1 ภ.จว.นนทบุรี และสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ อยู่ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาสอบสวนปากคำและนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังก่อเหตุนายวรธนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่จี้ชิงมาขับหลบหนีไปในพื้นที่ปทุมธานี และนำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่ริมถนนรังสิต-นครนายก และนั่งรถเมล์กลับมาที่ห้องพักภายในวัดบัวขวัญ เนื่องจากนายวรธน ผู้ต้องหา เคยเป็นเด็กวัดบัวขวัญ แล้วนำทองไปซ่อนไว้ที่ห้องพักส่วนหนึ่ง ส่วนทองอีกจำนวนหนึ่งได้นำไปขาย จากนั้นนายวรธนได้เหมารถแท็กซี่กลับบ้านเกิดที่จังหวัดเลย
หลังจากได้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปที่วัดบัวขวัญ พบนายดำรง ใจพักดี อายุ 57 ปี โดยนายดำรงรับสารภาพว่า นายวรธนได้นำทองมาฝากไว้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดสร้อยทองที่ซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะบูชาพระพุทธรูปได้ จำนวน 29 เส้น เงินสด จำนวน 17,000 บาท และแจ้งข้อหาว่ารับของโจรนำตัวไปดำเนินคดี
นายดำรง กล่าวว่า ตนเลี้ยงดูนายวรธนมาตั้งแต่เด็ก ต่อมานายวรธนได้ไปเกณฑ์ทหารที่บ้านเกิดจังหวัดเลย หลังเป็นทหารเกณฑ์ได้ปีนึงนายวรธนได้หลบหนีทหารกลับมาหาตนที่วัดบัวขวัญ วันเกิดเหตุนายวรธนได้นำทองมาฝากไว้กับตนพร้อมทั้งเล่าให้ตนฟังว่าได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองมา ก่อนที่นายวรธนจะหลบหนีไปบ้านเกิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายวรธน ผู้ต้องหา พบนายวรธนผู้ต้องหากำลังนอนหลับอยู่ จึงได้จับกุมตัวมาทำการสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ นายวรธนยังเป็นทหารเกณฑ์สังกัด ม.ทบ.28 ค่ายศรีสองรัก อำเภอเมืองเลย แต่นายวรธน ผู้ต้องหา อยู่ระหว่างหลบหนีทหาร หลังก่อเหตุนายวรธนได้ไปโกนหัวเพื่อพรางตัวหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองในวันนี้ (28 เม.ย.)
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางไปที่ถนนรังสิต-นครนายก 68 ต.บึงยี่โถ จ.ปทุมธานี เพื่อทำการยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีชมพู ทะเบียน 7กข 3816 กรุงเทพมหานคร ที่คนร้ายจี้ชิงมาและนำมาจอดทิ้งไว้