“มิมีภัยใดใหญ่เกินกว่าความไม่รู้จักพอ มิมีความผิดใดเกินกว่าความกระหายใคร่อยาก”
นั่นเป็นคำพูดของ “สหายสี จิ้นผิง” ที่ “สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ทุกคน และประชาชนจีนกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยล้านคน เคารพยกย่องในฐานะ “ประธานาธิบดี” ของประเทศหนึ่งในชาติมหาอำนาจโลก
“สี จิ้นผิง” ได้เตือนเจ้าหน้าที่พรรคฯ กับผู้บริหารระดับสูงของรัฐ ให้ระมัดระวังภัยจาก “ความโลภ” ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด ต้องรู้จักระงับจิตใจตนให้ได้ ต้องยึดความสุจริตเป็นที่ตั้ง ต้องไม่ทำการใดๆ ที่จะ “สำนึกเสียใจตลอดไป” และต้องไม่ละเมิดต่อกฎหมายโดยเด็ดขาด
การจะกระทำเช่นนั้นได้ ย่อมต้องกวดขันตนเองตลอดเวลา หนักแน่น สำนึก เตือนสติตนเอง และรู้จักให้กำลังใจตนเอง เสริมสร้างความสามารถในการแยกแยะผิดชอบชั่วดี รู้จักควบคุมตนเอง เมื่อต้องเผชิญกับความเย้ายวน ตื่นตัวเพิ่มความระมัดระวังในการใช้อำนาจ ระมัดระวังแม้ในเรื่องเล็กน้อย และระมัดระวังการคบมิตรฯลฯ
“สี จิ้นผิง” ศึกษาปราชญ์โบราณเป็นนิจ ดังเช่น ยกคำพูด “เหลาจื่อ” จากคัมภีร์“หลุนอวี่” ที่บันทึกไว้ว่า “ความพึงพอใจในความเพียงพอ จึงเพียงพออยู่เสมอ”
“สี จิ้นผิง” ได้ขยายความต่อว่า ถ้าไม่รู้จักพอ ย่อมตกอยู่ในไฟความละโมบ ในที่สุดก็จะมอดไหม้ทั้งตัว คัมภีร์ “หลุนอวี่” ยังบันทึกไว้อีกว่า “ความร่ำรวยและยศศักดิ์ที่ไม่ได้มาด้วยคุณธรรม กับข้าพเจ้าแล้วเหมือนปุยเมฆ”
“ผู้นำชาติสี จิ้นผิง” สรุปถึงผู้มีอำนาจรัฐในมือ ที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบว่า... แล้วจะรักษาตัวตนให้สะอาดสุจริตได้อย่างไร?
“สี จิ้นผิง” ยังย้ำแล้วย้ำอีกว่า การรับราชการกับความร่ำรวยเป็นคนละเรื่อง เจ้าหน้าที่ระดับบริหาร “จงอย่าอยากเป็นทั้งข้าราชการ และร่ำรวยเงินทองด้วยเด็ดขาด” พึงหักห้ามความโลภและการใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ เพราะสุดท้าย “ไม่เพียงจะทำลายตนเอง ทำร้ายครอบครัว ขณะเดียวกันก็นำความเสียหายมาสู่งานของพรรคด้วย”
“สี จิ้นผิง” ยังสรุปปิดท้ายว่า ความโลภมิใช่ทำร้ายทำลายตัวเองเท่านั้น ทว่า...สำคัญที่สุด ยังทำร้ายทำลายชาติกับประชาชนอีกด้วย!
ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่เผยตัวตนว่า เขามิใช่ “คนพูดส่งเดช” หรือเป็น “คนพูดแล้วไม่ทำ” นะเว้ย!...โดย “สี จิ้นผิง” ได้ลงมือสร้างผลงานมากมาย พิสูจน์ว่าเขาเป็น “คนพูดจริงทำจริง” เป็น “ผู้นำชาติที่ดี” ทำให้คนชั่วต้องหยุดทำชั่วต่อชาติและประชาชนจีนโดยพลัน
นอกจาก “หัวไม่ส่าย” แล้ว “สี จิ้นผิง” ยังเปิดปฏิบัติปราบขบวนการโกงชาติ ด้วยกลยุทธ์ “จับเสือตีแมลงวัน” ต้อนรับปีใหม่ ค.ศ. 2017 อีกด้วย
“เสือ” หมายถึง...เจ้าหน้าที่พรรคฯ กับข้าราชการชั้นสูงที่ทุจริต ซึ่งไม่มีใครหน้าไหนกล้าแตะต้อง ส่วน “แมลงวัน” หมายถึง...เจ้าหน้าที่พรรคฯ ระดับล่างๆ กับข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่ “รีดไถกินสินบน” ประชาชนตาดำๆ เรียกว่า...“ประธานาธิบดีสี” สั่งปราบ “คนโกงชาติ” ทั้ง “โกงใหญ่” กับ “โกงเล็ก” อย่างเด็ดขาด โดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม
ด้วย “สี จิ้นผิง” รู้ซึ้งแก่ใจว่า หากยังปล่อยให้โกงชาติกันต่อไป จะกลายเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การล่มสลาย ทั้งต่อ “พรรคฯ-ชาติ-ประชาชน” แน่นอน
“ผู้นำชาติที่ดี” ต้องฉลาดใช้คนดีทำงานให้ชาติกับประชาชนเป็นหลัก! ส่วน “ผู้นำชาติ” ดีน้อยหรือเลว มักคบค้าสมาคมกับคนชั่วโกงชาติเป็นหลัก...จริงไหม?
“สี จิ้นผิง” ใช้คนดีปราบคอร์รัปชันในจีน เช่น “ลี จางฉู” ผอ.สนง.กลางพรรคฯ “เฉิน หมินเอ๋อ” เลขาฯ พรรคฯ นครฉงชิ่ง “ไช่ ฉี” เลขาฯ พรรคฯ กรุงปักกิ่ง “หวัง หูหนิง” ผอ.สนง.วิจัยนโยบายกลาง “หลิว เหอ” ปธ.กลุ่มผู้นำเพื่อกิจการการเงินและเศรษฐกิจ ฯลฯ
แค่ 9 เดือนแรกของปี 2018 มีคดีถูกนำขึ้นสู่ศาลกว่า 464,000 คดี มีการลงโทษผู้กระทำผิดถึง 406,000 คน
ตัวอย่างรายชื่อ “ผู้บริหารระดับสูง” ของจีน ที่ถูกปราบกับโดนปลดจนต้องติดคุก...
“โจว หย่งคัง” เลขาฯ คกก.กมธ.การเมืองและกฎหมาย เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีน ที่หลุดจากอำนาจก่อนเกษียณในปี 2012 “โจว” เป็นนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลอันดับ 3 ของจีน “โจว” ได้วางแผนจะลอบสังหาร
“ประธานาธิบดีสี!” ปี 2015 เขาถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ในความผิดเกี่ยวกับการรับสินบน และใช้อำนาจในทางมิชอบ รวมทั้งความผิดที่เปิดเผยความลับของรัฐ
“สือ ไช่โห้ว” รองปธ.คกก.กมธ.ทหารส่วนกลาง เกษียณอายุในปี 2013 และถูกสอบสวนในคดีรับสินบน เพื่อแลกกับการเลื่อนยศ ส่งผลให้ถูกขับออกจากพรรคฯ และถูกดำเนินคดีก่อนจะเสียชีวิตในปี 2015
“กั๋ว ป๋อสง” รองปธ.คกก.กมธ.ทหารส่วนกลาง เป็นนายทหารระดับสูงที่โดนจำคุกตลอดชีวิต ในความผิดเกี่ยวกับการรับสินบน
ในยุคของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงง..มี “นายพลจีน” กว่า 60 นายเลยล่ะ ที่ถูกสอบสวนและปลดออกจากตำแหน่ง
ที่สำคัญ...มี “สองนายพลจีนขี้โกง” มาไทย โดยเป็นแขกของนายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กับรองนายกฯ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หลังจากนั้น “นายพลจีนคู่นั้น” ก็ถูก “สี จิ้นผิง” สั่งปลดและติดคุก ในข้อหาคอร์รัปชันในพรรคฯและในวงการราชการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธ และยุทโธปกรณ์ของประเทศไทย เอ๊ะ!...แล้ว “สองนายพลจีนขี้โกง” มาพูดคุยอะไรกับ “นายพลตู่-นายพลป้อม” หว่า?
ผลงานส่วนใหญ่ของ “ประธานาธิบดีสี” ชาวจีนทั้งชาติยกย่องสรรเสริญ! ส่วนผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาชาติหลายเรื่องของ “นายกฯ บิ๊กตู่” แย่ลงจนติดอันดับโลก(ว่ะ!)
ชาวจีนโชคดี-ที่ได้ “ผู้นำชาติ” พูดจริงทำจริงอย่าง “สี จิ้นผิง!” ชาวไทยโชคร้าย-ที่ได้ “ผู้นำชาติ” พูดจริง แต่ไม่ทำจริงอย่าง “บิ๊กตู่” ว่ะ...!