ผู้จัดการรายวัน360-“กัลฟ์” ทุ่ม 5.3 แสนล้านบาท ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นทั้งหมดของ “อินทัช” ในราคาหุ้นละ 65 บาท และ “แอดวานซ์” ราคา 122.86 บาท แต่ขอผ่อนผันซื้อหุ้น “ไทยคม” เผยสถาบันการเงินสนับสนุนเงินกู้ซื้ออินทัชมูลค่า 1.69 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องเพิ่มทุน มั่นใจ “สิงเทล” ไม่ทิ้งหุ้น ขณะที่แอดวานซ์ราคาต่ำกว่ากระดานที่ปิด 169.50 บาท คาดไม่มีคนขาย ทำให้ไม่ต้องเตรียมเงินสำรองไว้ ด้านสิงเทลประกาศ ถือหุ้นอินทัช-แอดวานซ์ลงทุนระยะยาว
น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วานนี้ (19 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2564 มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65.00 บาท โดยไม่รวมหุ้นสามัญ INTUCH ที่ปัจจุบันบริษัทถืออยู่แล้วจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด รวมถึงหุ้นสามัญ INTUCH ที่บริษัทอาจได้มาจากการลงทุนเพิ่มเติมก่อนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ด้วย
ดังนั้น จำนวนหุ้นสามัญ INTUCH ที่บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ INTUCH ทั้งหมดไม่เกิน 2,599,631,112 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 81.07% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และในกรณีที่มีการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือทั้งหมดเป็นหุ้นสามัญ บริษัทจะต้องซื้อหุ้นสามัญ INTUCH เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนไม่เกิน 1,268,956 หุ้น
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC ในราคาหุ้นละ 122.86 บาท (คำนวณราคาตามวิธีต้นทุนการได้มาซึ่งการครอบงำกิจการผ่านนิติบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC ตามหลักเกณฑ์การได้มาซึ่งอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นของกิจการอยู่ก่อนแล้ว)
ทั้งนี้ จากผลการทำคำเสนอเสนอซื้อหลักทรัพย์ INTUCH ดังกล่าว ทำให้บริษัทได้มาซึ่งหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นจนถึงสัดส่วนตั้งแต่ 50% ขึ้นไปของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ INTUCH จะถือว่าบริษัทเข้ามามีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญใน INTUCH ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM อยู่ก่อนแล้วในสัดส่วน 40.45% และ 41.13% ตามลำดับ ทำให้บริษัทมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน ADVANC และ THCOM ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM และอยู่ระหว่างเตรียมการหารือกับ ก.ล.ต. ในการขอผ่อนผันในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle และข้อผ่อนผันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับมูลค่าการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ครั้งนี้ คาดจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 534,549.72 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ INTUCH ที่จะได้จากการลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของ INTUCH มีมูลค่ารวมไม่เกิน 169,058.50 ล้านบาท และมูลค่าของหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC ที่จะได้การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ADVANC ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle มีมูลค่ารวมไม่เกิน 365,491.21 ล้านบาท โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ส่วนวัตถุประสงค์ของการลงทุนในหลักทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัท สืบเนื่องจากบริษัทประเมินว่า ทั้ง 2 บริษัทเป็นกิจการที่ดีและมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัท เนื่องจากเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานประเภทโทรคมนาคมของประเทศไทย โดยบริษัทมั่นใจว่าการลงทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว
นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินทรัพย์ธุรกิจในเครือและการลงทุน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กล่าวว่า กัลฟ์ฯ ไม่มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อใช้ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เนื่องจากปัจจุบันได้มีการเตรียมวงเงินสำหรับการเข้าซื้อหุ้นใน INTUCHเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1.69 แสนล้านบาท โดยมีสถาบันทางการเงินหลายแห่งเสนอเพิ่มกรอบวงเงินกู้ให้กับบริษัท
“คาดว่าจะใช้เงินไม่ถึงวงเงิน 1.69 แสนล้านบาท เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ INTUCH คือ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. ถือหุ้น 21% ประกาศแล้วว่าจะไม่ขายหุ้น INTUCH และระบุว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น คาดว่าจะดำเนินการไปตามแผนจะแล้วเสร็จในปลายเดือนก.ค.2564 เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการบริหารงานร่วมกัน และขณะนี้บริษัทยังไม่มีการเจรจากับ SINGTEL แต่อย่างใด”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเจรจากับทางผู้ถือหุ้น INTUCH ซึ่งมองว่าการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65.00 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะที่ราคา Tender หุ้น ADVANC จะเป็นไปตามวิธีคำนวณต้นทุนการได้มาซึ่งการครอบงำกิจการผ่านนิติบุคคลอื่น (INTUCH) ราคาหุ้นละ 122.86 บาท แม้ว่าจะต่ำกว่าราคาในกระดาน ซึ่งมีสูตราคาคำนวณที่ชัดเจนตามกฎของ กลต. โดยบริษัทไม่ต้องเตรียมวงเงินรับซื้อหุ้น ADVANC เพราะเสนอซื้อในราคาที่ต่ำกว่ากระดาน ซึ่งจะแจ้ง ก.ล.ต.ขอผ่อนผันเรื่องนี้
สำหรับกรณีที่บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM นั้น บริษัทได้ทำการผ่อนผัน และเชื่อว่าจะได้รับการผ่อนผัน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีเช่นนี้แล้ว ส่วนสาเหตุที่บริษัทไม่ต้องการทำ Tender THCOM นั้น เนื่องจากมองว่าไม่ได้ต้องการเข้าไปเป็นโอเปอเรเตอร์ ในธุรกิจมือถือ หรือดาวเทียม
ส่วนบริษัทสนใจลงทุนถือหุ้นใน INTUCH นับเป็นการเตรียมพร้อมของกัลฟ์สู่โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นไปตามแพลตฟอร์ม ที่โลกดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้น และเกื้อต่อธุรกิจไฟฟ้าที่กัลฟ์ดำเนินการอยู่ มีการลงทุน ครอบคลุมการสื่อสาร โครงสร้างพื้นฐานต่างๆมากมาย มีกระแสเงินสด มีเงินปันผล
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ GULF วานนี้ (19 เม.ย.) ราคาปรับตัวลดลงจากราคาปิดครั้งก่อน โดยราคาปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือคิดเป็น 1.53% , INTUCH ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 7.69% , ADVANC ราคาปิด 169.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท บาท หรือ 0.89%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ หรือสิงเทล ได้ออกแถลงการณ์ ว่า สิงเทลมีมุมมองการถือหุ้น INTUCH และ ADVANC ในรูปแบบของ Strategic Investment เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจดังกล่าวในระยะยาว และระบุว่า สิงเทลกำลังพิจารณาถึงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้ถือหุ้น INTUCH และ ADVANC ได้รับประโยชน์สูงสุด และจะแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้กับทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ในเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ บริษัท สิงเทล โกลบอล อินเวสต์เมนท์ ในเครือของสิงเทล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 21% ใน INTUCH และถือหุ้นใน ADVANC สัดส่วน 23.32%
น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วานนี้ (19 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2564 มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65.00 บาท โดยไม่รวมหุ้นสามัญ INTUCH ที่ปัจจุบันบริษัทถืออยู่แล้วจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด รวมถึงหุ้นสามัญ INTUCH ที่บริษัทอาจได้มาจากการลงทุนเพิ่มเติมก่อนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ด้วย
ดังนั้น จำนวนหุ้นสามัญ INTUCH ที่บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ INTUCH ทั้งหมดไม่เกิน 2,599,631,112 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 81.07% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และในกรณีที่มีการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือทั้งหมดเป็นหุ้นสามัญ บริษัทจะต้องซื้อหุ้นสามัญ INTUCH เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนไม่เกิน 1,268,956 หุ้น
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC ในราคาหุ้นละ 122.86 บาท (คำนวณราคาตามวิธีต้นทุนการได้มาซึ่งการครอบงำกิจการผ่านนิติบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC ตามหลักเกณฑ์การได้มาซึ่งอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นของกิจการอยู่ก่อนแล้ว)
ทั้งนี้ จากผลการทำคำเสนอเสนอซื้อหลักทรัพย์ INTUCH ดังกล่าว ทำให้บริษัทได้มาซึ่งหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นจนถึงสัดส่วนตั้งแต่ 50% ขึ้นไปของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ INTUCH จะถือว่าบริษัทเข้ามามีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญใน INTUCH ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM อยู่ก่อนแล้วในสัดส่วน 40.45% และ 41.13% ตามลำดับ ทำให้บริษัทมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน ADVANC และ THCOM ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM และอยู่ระหว่างเตรียมการหารือกับ ก.ล.ต. ในการขอผ่อนผันในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle และข้อผ่อนผันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับมูลค่าการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ครั้งนี้ คาดจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 534,549.72 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ INTUCH ที่จะได้จากการลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของ INTUCH มีมูลค่ารวมไม่เกิน 169,058.50 ล้านบาท และมูลค่าของหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC ที่จะได้การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ADVANC ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle มีมูลค่ารวมไม่เกิน 365,491.21 ล้านบาท โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ส่วนวัตถุประสงค์ของการลงทุนในหลักทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัท สืบเนื่องจากบริษัทประเมินว่า ทั้ง 2 บริษัทเป็นกิจการที่ดีและมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัท เนื่องจากเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานประเภทโทรคมนาคมของประเทศไทย โดยบริษัทมั่นใจว่าการลงทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว
นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินทรัพย์ธุรกิจในเครือและการลงทุน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กล่าวว่า กัลฟ์ฯ ไม่มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อใช้ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เนื่องจากปัจจุบันได้มีการเตรียมวงเงินสำหรับการเข้าซื้อหุ้นใน INTUCHเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1.69 แสนล้านบาท โดยมีสถาบันทางการเงินหลายแห่งเสนอเพิ่มกรอบวงเงินกู้ให้กับบริษัท
“คาดว่าจะใช้เงินไม่ถึงวงเงิน 1.69 แสนล้านบาท เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ INTUCH คือ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. ถือหุ้น 21% ประกาศแล้วว่าจะไม่ขายหุ้น INTUCH และระบุว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น คาดว่าจะดำเนินการไปตามแผนจะแล้วเสร็จในปลายเดือนก.ค.2564 เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการบริหารงานร่วมกัน และขณะนี้บริษัทยังไม่มีการเจรจากับ SINGTEL แต่อย่างใด”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเจรจากับทางผู้ถือหุ้น INTUCH ซึ่งมองว่าการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65.00 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะที่ราคา Tender หุ้น ADVANC จะเป็นไปตามวิธีคำนวณต้นทุนการได้มาซึ่งการครอบงำกิจการผ่านนิติบุคคลอื่น (INTUCH) ราคาหุ้นละ 122.86 บาท แม้ว่าจะต่ำกว่าราคาในกระดาน ซึ่งมีสูตราคาคำนวณที่ชัดเจนตามกฎของ กลต. โดยบริษัทไม่ต้องเตรียมวงเงินรับซื้อหุ้น ADVANC เพราะเสนอซื้อในราคาที่ต่ำกว่ากระดาน ซึ่งจะแจ้ง ก.ล.ต.ขอผ่อนผันเรื่องนี้
สำหรับกรณีที่บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน THCOM นั้น บริษัทได้ทำการผ่อนผัน และเชื่อว่าจะได้รับการผ่อนผัน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีเช่นนี้แล้ว ส่วนสาเหตุที่บริษัทไม่ต้องการทำ Tender THCOM นั้น เนื่องจากมองว่าไม่ได้ต้องการเข้าไปเป็นโอเปอเรเตอร์ ในธุรกิจมือถือ หรือดาวเทียม
ส่วนบริษัทสนใจลงทุนถือหุ้นใน INTUCH นับเป็นการเตรียมพร้อมของกัลฟ์สู่โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นไปตามแพลตฟอร์ม ที่โลกดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้น และเกื้อต่อธุรกิจไฟฟ้าที่กัลฟ์ดำเนินการอยู่ มีการลงทุน ครอบคลุมการสื่อสาร โครงสร้างพื้นฐานต่างๆมากมาย มีกระแสเงินสด มีเงินปันผล
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ GULF วานนี้ (19 เม.ย.) ราคาปรับตัวลดลงจากราคาปิดครั้งก่อน โดยราคาปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือคิดเป็น 1.53% , INTUCH ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 7.69% , ADVANC ราคาปิด 169.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท บาท หรือ 0.89%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ หรือสิงเทล ได้ออกแถลงการณ์ ว่า สิงเทลมีมุมมองการถือหุ้น INTUCH และ ADVANC ในรูปแบบของ Strategic Investment เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจดังกล่าวในระยะยาว และระบุว่า สิงเทลกำลังพิจารณาถึงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้ถือหุ้น INTUCH และ ADVANC ได้รับประโยชน์สูงสุด และจะแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้กับทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ในเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ บริษัท สิงเทล โกลบอล อินเวสต์เมนท์ ในเครือของสิงเทล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 21% ใน INTUCH และถือหุ้นใน ADVANC สัดส่วน 23.32%