ผู้จัดการรายวัน360-“นิพิฎฐ์” จี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด ดำเนินคดี เอาผิดคนใกล้ชิด ไม่ห้ามพระตัดศีรษะตัวเอง ชี้ผิด ม.374 ด้านนักวิชาการซัดเป็นความเชื่อแบบผิดๆ เป็นแค่นิทานชาดก ไม่มีอยู่จริงในคำสอนพระพุทธเจ้า พร้อมจี้จัดการเรื่องตั้งสำนักสงฆ์ ทำลายหลักฐาน ผู้ว่าหนองบัวลำภูสั่งสำนักพุทธดูแลญาติโยม หวั่นเลียนแบบ ตำรวจรวบรวมหลักฐานเอาผิดลูกศิษย์ รู้เห็นเป็นใจ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.วัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พระตัดศีรษะตัวเอง เรื่องนี้ ชาวพุทธได้อะไร” สรุปความว่า พระตัดศีรษะตัวเอง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ช่วยเหลือ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดเห็นผู้อื่นอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
“ผมจึงอยากขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ช่วยดำเนินคดีกับบุคคลผู้ใกล้ชิดพระที่ตัดศีรษะ แล้วไม่ห้าม ตามม.374 หน่อยเถอะ แม้เป็นโทษที่ไม่หนักก็ตาม เพราะเท่ากับท่านอัยการ และตำรวจ ท่านช่วยทำให้ชาวพุทธหายโง่ หายงมงาย และเป็นพุทธบริษัทที่ดีของศาสนา”นายนิพิฎฐ์ระบุ
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการตัดหัวถวายแบบนี้ สิ่งที่เชื่อกัน เป็นเพียงนิทานชาดกที่ถูกเติมแต่งเท่านั้น การจะเชื่อคำสอนต้องดูที่พระวินัย ดูข้อมูลพุทธประวัติประกอบด้วย และปัจจุบัน ก็มีพุทธะแปลกๆ ออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง จึงมีความเป็นห่วงคำสอนที่แท้จริงจะถูกบิดเบี้ยว เราควรปฏิบัติตามคำสอนที่ถูกต้อง
นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า คำสอนดังกล่าว เป็นความเชื่อแบบผิดๆ เป็นการศึกษาแบบไม่เข้าใจ ศึกษาเพียงผิวเผิน เชื่อในเรื่องของนิทานชาดกมากเกินไป จึงควรศึกษาให้ถ่องแท้ในส่วนของพระไตรปิฎก และพระวินัย และนำคำสอนและความเชื่อเหล่านั้น มาปฏิบัติให้เกิดผลในชีวิตประจำวัน และอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาจัดการเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่ดิน การจัดตั้งสำนักสงฆ์ รวมถึงการทำลายหลักฐานพยาน เคลื่อนย้ายศพเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หลายข้อกฎหมายด้วยกัน
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ได้ทำการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางด้านความมั่นคง พระพุทธศาสนา และวัฒนธรรม และได้มอบหมายให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภูร่วมกับนักจิตวิทยา และเจ้าคณะจังหวัด กำหนดหาแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เจ้าพนักงานกำลังรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อม ทั้งพยานในที่เกิดเหตุ ทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และมูลเหตุแรงจูงใจฆ่าตัวตายมาประกอบกับการสืบสวน คือ แนวความคิดความเชื่อของผู้ตาย เพราะตามกฎหมาย เมื่อมีการตายที่ผิดธรรมชาติเกิดขึ้น ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และรักษาสภาพพื้นที่และสภาพศพไว้ดังเดิม หากใครเคลื่อนย้ายศพหรือทำลายสภาพแวดล้อม ก็อาจจะมีความผิดได้ ซึ่งกรณีนี้ทราบว่ามีคนรีบไปทำลายหลักฐาน ทั้งการล้างเลือด เคลื่อนย้ายศพ และเผาศพ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาที่เกิดเหตุ ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการส่อพิรุธหรืออาจจะคิดไปในเรื่องของความเชื่อก็ได้ ประเด็นเหล่านี้ต้องใช้ความรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทม์ไลน์ของอดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม หรือนายธรรมกร วังปรีชา อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ต.ลำภู อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู ฆ่าตัวตายโดยการก้มให้ใบมีดตัดคอตัวเอง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามความเชื่อของเจ้าตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่า วันที่ 14 เม.ย.2564 ชาวบ้านได้ใส่บาตรกับพระธรรมกรเป็นวันสุดท้าย และเช้าวันที่ 15 เม.ย.2564 ได้เสียชีวิต โดยลาสิกขาบทก่อนหน้าทำพิธีตัดศีรษะตัวเอง 1 วัน ส่วนช่วงเกิดเหตุการณ์ ลูกศิษย์ได้สวดมนต์อยู่ด้านหน้าเจดีย์ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ลูกศิษย์บางคนยอมรับว่ามีพิธีกรรมนี้ และเมื่อได้ยินเสียงใบมีด ทุกคนก็กรูกันเข้าไปนั่งเปล่งเสียง สาธุ ดังระงม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.วัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พระตัดศีรษะตัวเอง เรื่องนี้ ชาวพุทธได้อะไร” สรุปความว่า พระตัดศีรษะตัวเอง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ช่วยเหลือ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดเห็นผู้อื่นอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
“ผมจึงอยากขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ช่วยดำเนินคดีกับบุคคลผู้ใกล้ชิดพระที่ตัดศีรษะ แล้วไม่ห้าม ตามม.374 หน่อยเถอะ แม้เป็นโทษที่ไม่หนักก็ตาม เพราะเท่ากับท่านอัยการ และตำรวจ ท่านช่วยทำให้ชาวพุทธหายโง่ หายงมงาย และเป็นพุทธบริษัทที่ดีของศาสนา”นายนิพิฎฐ์ระบุ
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการตัดหัวถวายแบบนี้ สิ่งที่เชื่อกัน เป็นเพียงนิทานชาดกที่ถูกเติมแต่งเท่านั้น การจะเชื่อคำสอนต้องดูที่พระวินัย ดูข้อมูลพุทธประวัติประกอบด้วย และปัจจุบัน ก็มีพุทธะแปลกๆ ออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง จึงมีความเป็นห่วงคำสอนที่แท้จริงจะถูกบิดเบี้ยว เราควรปฏิบัติตามคำสอนที่ถูกต้อง
นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า คำสอนดังกล่าว เป็นความเชื่อแบบผิดๆ เป็นการศึกษาแบบไม่เข้าใจ ศึกษาเพียงผิวเผิน เชื่อในเรื่องของนิทานชาดกมากเกินไป จึงควรศึกษาให้ถ่องแท้ในส่วนของพระไตรปิฎก และพระวินัย และนำคำสอนและความเชื่อเหล่านั้น มาปฏิบัติให้เกิดผลในชีวิตประจำวัน และอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาจัดการเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่ดิน การจัดตั้งสำนักสงฆ์ รวมถึงการทำลายหลักฐานพยาน เคลื่อนย้ายศพเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หลายข้อกฎหมายด้วยกัน
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ได้ทำการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางด้านความมั่นคง พระพุทธศาสนา และวัฒนธรรม และได้มอบหมายให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภูร่วมกับนักจิตวิทยา และเจ้าคณะจังหวัด กำหนดหาแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เจ้าพนักงานกำลังรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อม ทั้งพยานในที่เกิดเหตุ ทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และมูลเหตุแรงจูงใจฆ่าตัวตายมาประกอบกับการสืบสวน คือ แนวความคิดความเชื่อของผู้ตาย เพราะตามกฎหมาย เมื่อมีการตายที่ผิดธรรมชาติเกิดขึ้น ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และรักษาสภาพพื้นที่และสภาพศพไว้ดังเดิม หากใครเคลื่อนย้ายศพหรือทำลายสภาพแวดล้อม ก็อาจจะมีความผิดได้ ซึ่งกรณีนี้ทราบว่ามีคนรีบไปทำลายหลักฐาน ทั้งการล้างเลือด เคลื่อนย้ายศพ และเผาศพ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาที่เกิดเหตุ ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการส่อพิรุธหรืออาจจะคิดไปในเรื่องของความเชื่อก็ได้ ประเด็นเหล่านี้ต้องใช้ความรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทม์ไลน์ของอดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม หรือนายธรรมกร วังปรีชา อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ต.ลำภู อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู ฆ่าตัวตายโดยการก้มให้ใบมีดตัดคอตัวเอง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามความเชื่อของเจ้าตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่า วันที่ 14 เม.ย.2564 ชาวบ้านได้ใส่บาตรกับพระธรรมกรเป็นวันสุดท้าย และเช้าวันที่ 15 เม.ย.2564 ได้เสียชีวิต โดยลาสิกขาบทก่อนหน้าทำพิธีตัดศีรษะตัวเอง 1 วัน ส่วนช่วงเกิดเหตุการณ์ ลูกศิษย์ได้สวดมนต์อยู่ด้านหน้าเจดีย์ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ลูกศิษย์บางคนยอมรับว่ามีพิธีกรรมนี้ และเมื่อได้ยินเสียงใบมีด ทุกคนก็กรูกันเข้าไปนั่งเปล่งเสียง สาธุ ดังระงม