ผู้จัดการรายวัน360-ทอท.แจงกรณีองค์กรต้านโกง ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามข้อศึกษาของ ป.ป.ช. ยันจะเดินหน้าขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท รวมด้านตะวันออก-ตก สนามบินสุวรรณภูมิ ตามมติคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสาร เผยกำลังรอความเห็นจาก IATA และ ICAO จากนั้นจะชง ครม. พิจารณา หากมีมติให้ดำเนินการอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (ACT) ได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขอให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตามข้อศึกษาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมิให้เกิดความเสียหายดังเช่นกรณีทุจริตจำนำข้าว
วานนี้ (5 เม.ย.) ทอท.ในฐานะผู้บริหาร ทสภ. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทอท. ได้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสาร ทสภ. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 ที่มีมติเห็นชอบให้ ทอท. ดำเนินการพัฒนา ทสภ. โดยก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ทิศตะวันตก (West Expansion) ทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ. ให้รองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ ทอท. สอบถามความเห็นจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นองค์กรสากลระดับโลก ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ เพื่อนำเสนอที่ประชุม ครม. ต่อไป
ขณะเดียวกันในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2564 ได้รับทราบข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. เพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการดังกล่าว โดยขอให้ ทอท. ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ครม. เมื่อปี 2557 ที่ให้ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ หลังจากนั้น จึงพิจารณาก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือเป็นลำดับถัดไป
“ทอท. มิได้นิ่งนอนใจในข้อกังวลของ ACT และที่ผ่านมา ทอท. ได้ดำเนินการตามกระบวนการทุกขั้นตอน ทั้งการรับฟังความคิดเห็น และรวบรวมข้อเสนอแนะจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้ เมื่อ ทอท. ได้รับผลการทบทวนและการศึกษาอย่างเป็นทางการจาก IATA และ ICAO เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และที่ประชุม ครม. ตามกฎระเบียบแล้ว หากการพิจารณาให้ดำเนินการอย่างไร ทอท. ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม และขอยืนยันว่าการดำเนินงานของ ทอท. ได้ดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ทอท. ขอขอบคุณ ACT ที่ให้ความสนใจในกิจการดำเนินงานของ ทอท. และมีความห่วงใยในผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของ ทอท. ในฐานะรัฐวิสาหกิจ และบริษัทมหาชนที่มุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศเหนือ รองรับผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ 30 ล้านคน/ปี (ขยายได้ถึง 40 ล้านคน/ปี) พื้นที่ 348,000 ตร.ม. งบประมาณ 41,260 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 25 เดือน มีอาคารจอดรถ 3,000 คัน หลุมจอดประชิดอาคาร 14 หลุมจอดสายพานรับกระเป๋า 17 ชุด ช่องตรวจ ตม. ขาออก 66 ช่อง ขาเข้า 82 ช่อง และช่องตรวจค้น49 เลน
ส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก รองรับผู้โดยสารภายในประเทศ 15 ล้านคน/ปี พื้นที่ 66,000 ตร.ม. งบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน มีเคาน์เตอร์เช็คอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง และส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันตก รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ 15 ล้านคน/ปี พื้นที่ 66,000 ตร.ม. งบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน มีเคาน์เตอร์เช็กอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจ ตม.ขาออก 34 ช่อง ขาเข้า 56 ช่อง และช่องตรวจค้น 9 ช่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (ACT) ได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขอให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตามข้อศึกษาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมิให้เกิดความเสียหายดังเช่นกรณีทุจริตจำนำข้าว
วานนี้ (5 เม.ย.) ทอท.ในฐานะผู้บริหาร ทสภ. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทอท. ได้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสาร ทสภ. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 ที่มีมติเห็นชอบให้ ทอท. ดำเนินการพัฒนา ทสภ. โดยก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ทิศตะวันตก (West Expansion) ทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ. ให้รองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ ทอท. สอบถามความเห็นจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นองค์กรสากลระดับโลก ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ เพื่อนำเสนอที่ประชุม ครม. ต่อไป
ขณะเดียวกันในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2564 ได้รับทราบข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. เพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการดังกล่าว โดยขอให้ ทอท. ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ครม. เมื่อปี 2557 ที่ให้ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ หลังจากนั้น จึงพิจารณาก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือเป็นลำดับถัดไป
“ทอท. มิได้นิ่งนอนใจในข้อกังวลของ ACT และที่ผ่านมา ทอท. ได้ดำเนินการตามกระบวนการทุกขั้นตอน ทั้งการรับฟังความคิดเห็น และรวบรวมข้อเสนอแนะจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้ เมื่อ ทอท. ได้รับผลการทบทวนและการศึกษาอย่างเป็นทางการจาก IATA และ ICAO เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และที่ประชุม ครม. ตามกฎระเบียบแล้ว หากการพิจารณาให้ดำเนินการอย่างไร ทอท. ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม และขอยืนยันว่าการดำเนินงานของ ทอท. ได้ดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ทอท. ขอขอบคุณ ACT ที่ให้ความสนใจในกิจการดำเนินงานของ ทอท. และมีความห่วงใยในผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของ ทอท. ในฐานะรัฐวิสาหกิจ และบริษัทมหาชนที่มุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศเหนือ รองรับผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ 30 ล้านคน/ปี (ขยายได้ถึง 40 ล้านคน/ปี) พื้นที่ 348,000 ตร.ม. งบประมาณ 41,260 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 25 เดือน มีอาคารจอดรถ 3,000 คัน หลุมจอดประชิดอาคาร 14 หลุมจอดสายพานรับกระเป๋า 17 ชุด ช่องตรวจ ตม. ขาออก 66 ช่อง ขาเข้า 82 ช่อง และช่องตรวจค้น49 เลน
ส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก รองรับผู้โดยสารภายในประเทศ 15 ล้านคน/ปี พื้นที่ 66,000 ตร.ม. งบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน มีเคาน์เตอร์เช็คอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง และส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันตก รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ 15 ล้านคน/ปี พื้นที่ 66,000 ตร.ม. งบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน มีเคาน์เตอร์เช็กอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจ ตม.ขาออก 34 ช่อง ขาเข้า 56 ช่อง และช่องตรวจค้น 9 ช่อง