คณะรัฐบาลรู้สึกอยากเปิดประเทศเหลือเกิน พยายามหาข้ออ้างสารพัดมาเป็นเหตุที่จะต้องรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามา อ้างว่าสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ดีขึ้นแล้ว และจะเป็นช่องทางสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
น่าเห็นใจ รายได้จากการท่องเที่ยวเคยเป็นอันดับแรกของประเทศ มีคนต่างชาติเอาเงินเข้ามาใช้จ่ายร่วม 40 ล้านคน ก่อนการระบาดของโควิด-19 ถือว่าเป็นรายได้หลัก ซึ่งประเทศไทยพึ่งพารายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยว
เมื่อโควิด-19 ระบาด อะไรที่เคยได้ ก็ไม่มี การส่งออกลดน้อยน่าห่วงเพราะประเทศปลายทางก็ไม่นำเข้า การหยุดชะงักของธุรกิจขนส่ง โดยเฉพาะทางเรือ กับทางอากาศ มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้การค้าขายแทบหยุดนิ่ง
ผ่านมากว่า 1 ปี การระบาดยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้นอย่างน่าเบาใจ เพราะประเทศหลักในยุโรปตะวันตก เช่น เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส เผชิญกับการระบาดระลอก 3 ต้องล็อกดาวน์ สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมาก แต่เป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้
บ้านเราวนเวียนกับข้อเสนอให้เปิดประเทศ เพื่อบรรเทาภาวะตายซากในธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ขาดรายได้ มีโรงแรมประกาศขายกิจการ
ร่ำๆ จะเปิดหลายรอบ อ้างว่าจะเป็นระบบบับเบิ้ล อะไรบ้าง เพราะรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ ทำให้ไม่มีผลงานโดยปริยาย อยู่ไปแต่ละวัน เมื่อมีช่องว่าง ก็ต้องหาทางดิ้นรนเสนอให้เปิดประเทศ ประจวบเหมาะกับมีวัคซีน
ประเทศไทยเพิ่งจะได้วัคซีนมาไม่นาน ทยอยส่งเข้ามาเรื่อยๆ แต่มีปัญหาคือการฉีดล่าช้า ป่านนี้ยังไม่น่าจะถึง 2 แสนราย ทั้งๆ ที่มีวัคซีนเข้ามาหลายรอบ
ทุกวันนี้การระบาดในประเทศก็ยังไม่สร่างซา มีทั้งจากคนเดินทางเข้ามาในประเทศ และคลัสเตอร์เป็นแห่งๆ ต้องไล่ตามสกัดไม่ให้ลามไปก่อเหตุที่อื่น เมืองไทยยังโชคดี มีแต่เห็นหย่อมๆ ไม่ใช่การระบาดเป็นวงกว้าง แต่ก็ทำให้ว้าวุ่นไม่น้อย
ตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้ว การระบาดติดเชื้อในประเทศยังอยู่ในระดับหลายสิบคน มีทุกวัน และมีคลัสเตอร์ตามตลาดต่างๆ หมุนเวียนกันไป หน่วยงานสาธารณสุขก็ต้องไล่ตระเวนหาจุดสกัดไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่
แต่ภาคการเมืองยังร่ำๆ ขอเปิดประเทศ มีเงื่อนไขผ่อนปรนสำหรับผู้รับการฉีดวัคซีนแล้ว มีผ่อนคลายกฎเรื่องการกักบริเวณ มีข้อเสนอเปิดเฉพาะพื้นที่การท่องเที่ยวแบบจำกัดบริเวณ โดยใช้ภูเก็ตเป็นเมืองนำร่อง ก่อนไปเมืองอื่นๆ
เที่ยวบินแรกเข้ามาจากเยอรมนีวันที่ 1 เมษายน คนต่างชาติเข้าพักที่ภูเก็ต ถ้าไม่มีปัญหา ก็สามารถตะลอนๆ ไปเมืองอื่นๆ ได้ ฝ่ายแพทย์จะพยายามท้วงติงก็ไม่ฟัง ในความเป็นจริง คนอนุมัติให้คนต่างชาติเข้ามาไม่ต้องรับภาระรับผิดชอบอะไร
ขอให้ได้หน้าว่ามีนักท่องเที่ยวนำเงินเข้าประเทศมาได้ก็พอใจ ถ้าติดเชื้อก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบุคลากรการแพทย์ ว่างั้นเถอะ ฝ่ายหมอท้วงจนเสียงแหบแห้ง
ทุกวันนี้การติดเชื้อรายวันยังคงมีอยู่ ไม่มีประเทศใดปลอดจากการระบาดหรือความเสี่ยงอย่างสมบูรณ์ เพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม มีตัวเลขการระบาดและเสียชีวิตน้อย เพราะการควบคุม และไม่เปิดโล่งให้คนเข้าง่าย
ประเทศไทยจึงมีความพิสดาร เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ฝ่ายบริหารบ้านเมืองไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไรเมื่อเกิดความผิดพลาด โทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทั้งขึ้นทั้งล่อง ฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเมืองทำแค่เอาหน้า และหาแพะรับบาป เมื่อมีการเสียหาย
อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้ห้ามรดน้ำ แต่ยังเปิดให้คนเดินทางท่องเที่ยว มีวันหยุดยาว 6 วัน เที่ยวให้เต็มที่ รับความเสี่ยงเอาเอง ป่วยก็รักษาเอง
นักเล็งผลเลิศในรัฐบาลจึงฝันหวานถึงตัวเลขรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ว่าจะต้องได้มาเท่านั้นเท่านี้ ทั้งๆ ที่ยังดูเลื่อนลอย มีแต่การทึกทักฝันหวานว่านักท่องเที่ยวจะต้องแห่เข้ามาเมืองไทย ที่เคยเป็นปลายทางยอดนิยม
น่าเห็นใจภาคธุรกิจการท่องเที่ยวว่าอยู่ในสภาพลำบาก ต้องประกาศขายทรัพย์สิน แต่สภาวะเช่นนี้ก็เป็นเหมือนกันในประเทศ แม้แต่เจ้าสัวธุรกิจมีความมั่งคั่งหลายแสนล้านบาทก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนัก รายได้ตก ภาระเพิ่ม เจ้าหนี้เริ่มผวา
ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ กลุ่มสายป่านยาวเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้!
ผู้มีอำนาจเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะมาจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย มาในรูปแบบเช่าเหมาลำ มาพื้นที่จำเพาะ เช่นภูเก็ตก่อนสามารถเดินทางเข้ามาได้ ยังต้องมีการกักตัว ดังนั้น นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลามากกว่าที่ควรจะเป็น
ประเด็นอย่างนี้กลับเป็นฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายบริหาร สามารถตัดสินใจแทนฝ่ายสาธารณสุข การให้คนต่างชาติเข้ามา ทั้งๆ ที่ทุกวันที่คนต่างชาติเข้ามา ก็มีการติดเชื้อ คนที่ยังรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลต่างๆ ก็มีกว่า 1 พันคน
ประเทศไทยเคยได้รับคำยกย่องจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นตัวอย่างในการจัดการปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่ปลื้มได้ไม่นานก็ดีแตก เพราะตัวเลขติดเชื้อระลอกใหม่ยังสูง คนติดเชื้อแตะ 3 หมื่นราย ยอดคนเสียชีวิตเกือบ 100 รายแล้ว
ดังนั้น ช่วงสงกรานต์ถือว่าเป็นช่วงของความเสี่ยง ผู้มั่วสุมตามบาร์ ผับ สถานบันเทิงการตรวจสอบเข้มไม่ระวัง ก็ย่อมให้เกิดการระบาดติดเชื้อได้ง่าย ดังที่ได้เกิดขึ้นในสถานเริงรมย์ต่างๆ ดังเช่นผับบาร์ย่านทองหล่อที่มีคำร่ำลือว่าคนดังก็ติดเชื้อด้วย
เมื่อจะเที่ยวกันให้ได้ กระจายรายได้ ไม่ใส่ใจมากเรื่องการระบาด ก็ต้องให้ทำกันดู แล้วถ้ามีการติดเชื้อระลอกใหม่ ผู้มีอำนาจบอกด้วยว่าจะรับผิดชอบอย่างไร
จะชุบมือเปิบตีกินตลอดไป มีหน้าที่ ไม่ยอมรับผิดชอบนั้น ควรจบได้แล้ว!