กองปราบปรามเร่งขยายผล ทลายเครือข่าย"หลงจู๊สมชาย" พบนายตำรวจในพื้นที่ภูธร ภาค 2 มีเอี่ยว เตรียมเรียก"สันธนะ"เข้าให้ข้อมูลบ่อนพนัน
วานนี้ (28 มี.ค.) ที่กองปราบปราม รายงานข่าวแจ้งว่าชุดสืบสวนกองปราบปราม อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่าย นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊สมชาย หลังพบว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ ยักย้ายถ่ายเทไปยังญาติ และคนใกล้ชิดซึ่งเป็นเงินสด และทรัพย์สินกว่า 700 ล้านบาท รวมทั้งรถยนต์กว่า 500 คัน โดยรถยนต์ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะที่เชื่อว่าน่าจะนำมาใช้ในการกระทำความผิด ขนตู้ม้า และความผิดอื่นๆด้วย
นอกจากประเด็นเรื่องการตรวจสอบพิสูจน์ทราบทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดแล้ว ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในเครือข่ายดังกล่าวที่ยังคงหลบหนีอยู่อีกหลายราย ก่อนที่จะออกหมายจับ และตามตัวมาดำเนินคดี ขณะนี้ สามารถจับกุมเครือญาติของ หลงจู๊สมชาย ได้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม หนึ่งในนั้นคือ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ที่พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำในรายละเอียดของคดี เนื่องจากเจ้าตัวอ้างผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งว่า รู้เห็น และมีข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนัน รวมถึงเครือข่ายของหลงจู๊สมชาย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ชุดสืบสวนสอบสวนกองปราบปราม ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสมชาย และกลุ่มเครือข่าย พบว่ามีนายตำรวจในพื้นที่ภูธร ภาค 2 มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับ หลงจู๊สมชาย ขณะนี้กำลังตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะรวบรวมว่ามีทั้งหมดกี่ราย เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาออกหมายเรียกมาสอบปากคำ
ทั้งนี้ หากหลักฐานหรือเส้นทางการเงินโยงไปถึงใครนั้น พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบทุกราย นอกจากนี้ การเสนอผลประโยชน์ของนายสมชายนั้น มีหลายรูปแบบ ทั้งเงินสด โอนเข้าบีญชี ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ขึ้นอยู่กับผู้รับว่ามีความสำคัญขนาดไหน บางรายถึงขั้นยกบ้านในโครงการที่ทำอยู่ให้ ส่วนผู้รับจะไปแปรทรัพย์สินเป็นรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้รับจะเป็นคนจัดการเอง
วานนี้ (28 มี.ค.) ที่กองปราบปราม รายงานข่าวแจ้งว่าชุดสืบสวนกองปราบปราม อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่าย นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊สมชาย หลังพบว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ ยักย้ายถ่ายเทไปยังญาติ และคนใกล้ชิดซึ่งเป็นเงินสด และทรัพย์สินกว่า 700 ล้านบาท รวมทั้งรถยนต์กว่า 500 คัน โดยรถยนต์ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะที่เชื่อว่าน่าจะนำมาใช้ในการกระทำความผิด ขนตู้ม้า และความผิดอื่นๆด้วย
นอกจากประเด็นเรื่องการตรวจสอบพิสูจน์ทราบทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดแล้ว ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในเครือข่ายดังกล่าวที่ยังคงหลบหนีอยู่อีกหลายราย ก่อนที่จะออกหมายจับ และตามตัวมาดำเนินคดี ขณะนี้ สามารถจับกุมเครือญาติของ หลงจู๊สมชาย ได้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม หนึ่งในนั้นคือ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ที่พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำในรายละเอียดของคดี เนื่องจากเจ้าตัวอ้างผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งว่า รู้เห็น และมีข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนัน รวมถึงเครือข่ายของหลงจู๊สมชาย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ชุดสืบสวนสอบสวนกองปราบปราม ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสมชาย และกลุ่มเครือข่าย พบว่ามีนายตำรวจในพื้นที่ภูธร ภาค 2 มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับ หลงจู๊สมชาย ขณะนี้กำลังตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะรวบรวมว่ามีทั้งหมดกี่ราย เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาออกหมายเรียกมาสอบปากคำ
ทั้งนี้ หากหลักฐานหรือเส้นทางการเงินโยงไปถึงใครนั้น พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบทุกราย นอกจากนี้ การเสนอผลประโยชน์ของนายสมชายนั้น มีหลายรูปแบบ ทั้งเงินสด โอนเข้าบีญชี ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ขึ้นอยู่กับผู้รับว่ามีความสำคัญขนาดไหน บางรายถึงขั้นยกบ้านในโครงการที่ทำอยู่ให้ ส่วนผู้รับจะไปแปรทรัพย์สินเป็นรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้รับจะเป็นคนจัดการเอง
