ตำรวจกองปราบปรามบุกรวบ “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อบ่อนใหญ่ตะวันออก อีกรอบคาคฤหาสน์หรูที่ระยอง พร้อมลูกชาย ในคดีสั่งฆ่าปิดปาก “วิน จยย.” ที่แอบถ่ายรูปในบ่อนพัทยาไปแฉ พร้อมเปิดยุทธการ “หนุมานดับบูรพา” ทลายเครือข่ายหลงจู๊ระยอง
วานนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 และ กก.3 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธร ภาค 2 (บช.ภ.2) นำหมายค้นศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด จ.ระยอง จันทบุรี ชลบุรี และ กทม. เพื่อจับกุมตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีจ้างวานฆ่า” พร้อมกับกลุ่มเครือญาติและลูกสมุนในคดีร่วมกันฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกิจบ่อนพนัน
จุดสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นคฤหาสน์กลางเมืองระยอง เนื้อที่ 2 ไร่ เลขที่ 158/28 ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง บ้านพักของ นายสมชาย โดยเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อป้องกันการหลบหนี ก่อนกดกริ่งประตูหน้าบ้านแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น แต่ผู้ที่อยู่ภายในบ้านไม่มีใครออกมาเปิดประตูรั้วให้ เจ้าหน้าที่จึงใช้บันไดปีนรั้วเข้าไป กระทั่งพบตัว นายสมชาย และ นายธนา จุติกิติ์เดชา บุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาจัดให้มีการเล่นพนันและร่วมกันฟอกเงิน อยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว จึงแสดงหมายค้น และหมายจับ ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับทราบ พร้อมกับควบคุมตัวจากนั้นจึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.63 เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายประทุม สะอาดนัก อายุ 47 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง เสียชีวิตด้านหลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สามารถจับกุมนายมนัส อิ่มหนำ อายุ 39 ปี และ นายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ ก่อนให้การอ้างว่าสาเหตุมาจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ทางญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ปักใจเชื่อจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพราะเชื่อว่า ปมสังหารที่แท้จริงน่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ตายไปมีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับเรื่องบ่อนการพนัน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุนายประทุม ผู้ตายได้แอบเข้าไปถ่ายรูปสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ก่อนเรื่องดังกล่าวรู้ถึงหูของกลุ่มนายทุนเจ้าของบ่อน จึงเกิดความไม่พอใจ สั่งการให้ นายสุพรรณ ใหม่งาม อายุ 53 ปี นายถาวร สาระกูล อายุ 53 ปี ผู้ดูแลบ่อน จัดหามือปืนมาฆ่าปิดปาก
พล.ต.อ.สุวัฒน์ จึงมอบหมายให้ทางกองปราบปราม ในฐานะเลขาศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) รับโอนสำนวนคดีดังกล่าว มาอยู่ในความดูแล พร้อมกับสืบสวนขยายผลจนสามารถติดตามจับกุม นายสุพรรณ และนายถาวร ได้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่องจนกระทั่งพบความเชื่อมโยงถึง นายสมชาย ซึ่งเป็นนายทุนบ่อนดังกล่าว และบ่อนการพนันอีกหลายแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
หลังเข้าจับกุม พร้อมตรวจคต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมชาย และนายธนา บุตรชาย พร้อมพวกรวม 8 คน เข้ามาสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง จากนั้นได้นำตัวเข้า กทม.เพื่อสอบปากคำต่อที่ บก.ป. เมื่อเวลาประมาณ 13:00 น.
ในขณะที่นายสมชายถูกคุมตัวมาถึง บก.ป.โดนสวมกุญแจมือและใช้ปิดข้อมือไว้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาของตำรวจหรือไม่ แต่นายสมชายไม่ตอบคำถาม มีเพียงยักคิ้ว ส่ายหน้า เท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า ตำรวจกองปราบจะในส่วนของคดีจ้างวานฆ่า ฟอกเงิน และคดีที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำตัวไปฝากขังให้เร็วที่สุดภายในวันที่ 26 มี.ค. พร้อมเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แม้นายสมชายและพวกจะปฏิเสธก็ตาม
วันเดียวกัน ที่ บก.ป. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้แถลงผลการปฏิบัติการ “ยุทธการหนุมานดับบูรพา” ของกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจน้ำ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ระยอง, จันทบุรี, ชลบุรี และ กทม. เครือข่าย “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การจับกุมนายสมชายตามหมายจับข้อหาจ้างวานฆ่า ที่บงการสั่งฆ่าปิดปากวินจักรยานยนต์รับจ้างที่แอบถ่ายรูปบ่อนไปแฉ และความผิดฐานฟอกเงิน
ส่วนที่ 2 คือ การจับกุม นายธนา บุตรชายของนายสมชายและพวก รวม 7 คน ตามหมายจับข้อหาจัดให้มีการเล่นพนัน และร่วมกันฟอกเงิน โดยทั้งหมดยังอยู่ในควบคุมตัวไปขยายผล โดยเฉพาะนายธนาและพวก ตำรวจได้นำตัวไปตรวจสอบอายัดเรือยอชต์ของนายธนา ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าจอดเรือเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี อีกทั้งยังอายัดรถยนต์ไว้ 4 คัน และทรัพย์สินอื่นๆอีกกว่า 100 รายการ รวมมูลค่า 880 ล้านบาท อยู่ระหว่างอายัดดำเนินคดีอีกกว่า 700 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่ถูกจับกุมในปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจสอบบริษัท เดอะ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหมู่บ้านจัดสรรที่มี หลงจู๊สมชาย และนายธนา เป็นกรรมการบริษัท หลังพบว่ามีเงินจากการทำบ่อนการพนันโอนเข้าไปในบัญชีบริษัทดังกล่าว
สำหรับการดำเนินคดีและอายัดทรัพย์เครือข่ายของหลงจู๊สมชาย มีผู้ต้องหาทั้งหมด 22 คน ออกหมายจับไปแล้ว 35 หมาย จับกุมได้แล้ว 8 คน ตรวจสอบพบทรัพย์ที่อาจได้มาจากการกระทำความผิด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท จากนั้น จะประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบยึดทรัพย์ต่อไป
วานนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 และ กก.3 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธร ภาค 2 (บช.ภ.2) นำหมายค้นศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 21 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด จ.ระยอง จันทบุรี ชลบุรี และ กทม. เพื่อจับกุมตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีจ้างวานฆ่า” พร้อมกับกลุ่มเครือญาติและลูกสมุนในคดีร่วมกันฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกิจบ่อนพนัน
จุดสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นคฤหาสน์กลางเมืองระยอง เนื้อที่ 2 ไร่ เลขที่ 158/28 ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง บ้านพักของ นายสมชาย โดยเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อป้องกันการหลบหนี ก่อนกดกริ่งประตูหน้าบ้านแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น แต่ผู้ที่อยู่ภายในบ้านไม่มีใครออกมาเปิดประตูรั้วให้ เจ้าหน้าที่จึงใช้บันไดปีนรั้วเข้าไป กระทั่งพบตัว นายสมชาย และ นายธนา จุติกิติ์เดชา บุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาจัดให้มีการเล่นพนันและร่วมกันฟอกเงิน อยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว จึงแสดงหมายค้น และหมายจับ ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับทราบ พร้อมกับควบคุมตัวจากนั้นจึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.63 เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายประทุม สะอาดนัก อายุ 47 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง เสียชีวิตด้านหลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สามารถจับกุมนายมนัส อิ่มหนำ อายุ 39 ปี และ นายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ ก่อนให้การอ้างว่าสาเหตุมาจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ทางญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ปักใจเชื่อจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพราะเชื่อว่า ปมสังหารที่แท้จริงน่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ตายไปมีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับเรื่องบ่อนการพนัน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุนายประทุม ผู้ตายได้แอบเข้าไปถ่ายรูปสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ก่อนเรื่องดังกล่าวรู้ถึงหูของกลุ่มนายทุนเจ้าของบ่อน จึงเกิดความไม่พอใจ สั่งการให้ นายสุพรรณ ใหม่งาม อายุ 53 ปี นายถาวร สาระกูล อายุ 53 ปี ผู้ดูแลบ่อน จัดหามือปืนมาฆ่าปิดปาก
พล.ต.อ.สุวัฒน์ จึงมอบหมายให้ทางกองปราบปราม ในฐานะเลขาศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) รับโอนสำนวนคดีดังกล่าว มาอยู่ในความดูแล พร้อมกับสืบสวนขยายผลจนสามารถติดตามจับกุม นายสุพรรณ และนายถาวร ได้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่องจนกระทั่งพบความเชื่อมโยงถึง นายสมชาย ซึ่งเป็นนายทุนบ่อนดังกล่าว และบ่อนการพนันอีกหลายแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
หลังเข้าจับกุม พร้อมตรวจคต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมชาย และนายธนา บุตรชาย พร้อมพวกรวม 8 คน เข้ามาสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง จากนั้นได้นำตัวเข้า กทม.เพื่อสอบปากคำต่อที่ บก.ป. เมื่อเวลาประมาณ 13:00 น.
ในขณะที่นายสมชายถูกคุมตัวมาถึง บก.ป.โดนสวมกุญแจมือและใช้ปิดข้อมือไว้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาของตำรวจหรือไม่ แต่นายสมชายไม่ตอบคำถาม มีเพียงยักคิ้ว ส่ายหน้า เท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า ตำรวจกองปราบจะในส่วนของคดีจ้างวานฆ่า ฟอกเงิน และคดีที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำตัวไปฝากขังให้เร็วที่สุดภายในวันที่ 26 มี.ค. พร้อมเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แม้นายสมชายและพวกจะปฏิเสธก็ตาม
วันเดียวกัน ที่ บก.ป. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้แถลงผลการปฏิบัติการ “ยุทธการหนุมานดับบูรพา” ของกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจน้ำ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ระยอง, จันทบุรี, ชลบุรี และ กทม. เครือข่าย “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การจับกุมนายสมชายตามหมายจับข้อหาจ้างวานฆ่า ที่บงการสั่งฆ่าปิดปากวินจักรยานยนต์รับจ้างที่แอบถ่ายรูปบ่อนไปแฉ และความผิดฐานฟอกเงิน
ส่วนที่ 2 คือ การจับกุม นายธนา บุตรชายของนายสมชายและพวก รวม 7 คน ตามหมายจับข้อหาจัดให้มีการเล่นพนัน และร่วมกันฟอกเงิน โดยทั้งหมดยังอยู่ในควบคุมตัวไปขยายผล โดยเฉพาะนายธนาและพวก ตำรวจได้นำตัวไปตรวจสอบอายัดเรือยอชต์ของนายธนา ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าจอดเรือเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี อีกทั้งยังอายัดรถยนต์ไว้ 4 คัน และทรัพย์สินอื่นๆอีกกว่า 100 รายการ รวมมูลค่า 880 ล้านบาท อยู่ระหว่างอายัดดำเนินคดีอีกกว่า 700 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่ถูกจับกุมในปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจสอบบริษัท เดอะ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหมู่บ้านจัดสรรที่มี หลงจู๊สมชาย และนายธนา เป็นกรรมการบริษัท หลังพบว่ามีเงินจากการทำบ่อนการพนันโอนเข้าไปในบัญชีบริษัทดังกล่าว
สำหรับการดำเนินคดีและอายัดทรัพย์เครือข่ายของหลงจู๊สมชาย มีผู้ต้องหาทั้งหมด 22 คน ออกหมายจับไปแล้ว 35 หมาย จับกุมได้แล้ว 8 คน ตรวจสอบพบทรัพย์ที่อาจได้มาจากการกระทำความผิด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท จากนั้น จะประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบยึดทรัพย์ต่อไป