ผู้จัดการรายวัน 360 - ครม.เห็นชอบให้ วธ. เสนอ “ต้มยำกุ้ง' ต่อยูเนสโก เพื่อขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” ชี้เป็นอาหารที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรม และสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง
วานนี้ (23 มี.ค.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงวัฒนธรรม เสนอ "ต้มยำกุ้ง" (Tomyum Kung) เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาฯได้รับการขึ้นทะเบียนของยูเนสโกแล้ว 2 รายการ คือ โขนและนวดไทย โดยมีรายการ "โนรา"และ "สงกรานต์ในประเทศไทย"ที่เสนอไปแล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของยูเนสโก โดยในปีนี้ จะเสนอรายการ "ต้มยำกุ้ง" เป็นลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ทางวธ.โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเห็นความสำคัญของ "ต้มยำกุ้ง" อาหารประจำชาติที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ด้วยเป็นอาหารที่มีคุณค่าสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทย ซึ่งภูมิปัญญาการทำต้มยำกุ้ง นอกจากจะมีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ อย่างกว้างขวาง และการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมฯของมนุษยชาติกับยูเนสโก ยังกระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของตน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่ออาหารของไทยในระดับนานาชาติ
"โดยสิ่งที่ประเทศไทยต้องดำเนินการ หาก "ต้มยำกุ้ง" ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ การจัดทำรายงานสถานะปัจจุบันของมรดกวัฒนธรรมฯ ที่แสดงถึงผลสำเร็จ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการสงวนรักษา และดำเนินการตามมาตรการการสงวนรักษา "ต้มยำกุ้ง" อย่างเคร่งครัด เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและความมั่นคงด้านอาหาร และส่งเสริมการศึกษาวิจัยการพัฒนานวัตกรรมอันเกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านอาหาร อันจะส่งผลดีอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ" นายอิทธิพล กล่าว
วานนี้ (23 มี.ค.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงวัฒนธรรม เสนอ "ต้มยำกุ้ง" (Tomyum Kung) เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาฯได้รับการขึ้นทะเบียนของยูเนสโกแล้ว 2 รายการ คือ โขนและนวดไทย โดยมีรายการ "โนรา"และ "สงกรานต์ในประเทศไทย"ที่เสนอไปแล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของยูเนสโก โดยในปีนี้ จะเสนอรายการ "ต้มยำกุ้ง" เป็นลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ทางวธ.โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเห็นความสำคัญของ "ต้มยำกุ้ง" อาหารประจำชาติที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ด้วยเป็นอาหารที่มีคุณค่าสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทย ซึ่งภูมิปัญญาการทำต้มยำกุ้ง นอกจากจะมีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ อย่างกว้างขวาง และการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมฯของมนุษยชาติกับยูเนสโก ยังกระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของตน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่ออาหารของไทยในระดับนานาชาติ
"โดยสิ่งที่ประเทศไทยต้องดำเนินการ หาก "ต้มยำกุ้ง" ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ การจัดทำรายงานสถานะปัจจุบันของมรดกวัฒนธรรมฯ ที่แสดงถึงผลสำเร็จ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการสงวนรักษา และดำเนินการตามมาตรการการสงวนรักษา "ต้มยำกุ้ง" อย่างเคร่งครัด เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและความมั่นคงด้านอาหาร และส่งเสริมการศึกษาวิจัยการพัฒนานวัตกรรมอันเกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านอาหาร อันจะส่งผลดีอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ" นายอิทธิพล กล่าว