xs
xsm
sm
md
lg

เอกชน30รายให้ความเห็น”สีส้ม” วัดใจรฟม.เคาะเกณฑ์ประมูลใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-รฟม.เผยมีเอกชน 30 ราย แสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศเชิญชวนประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม “บางขุนนท์-มีนบุรี” เร่งประมวลชงคณะกรรมการมาตรา 36 เคาะภายในมี.ค.นี้ ยันเกณฑ์คัดเลือกยึดตามประกาศคณะกรรมการ PPP และกฎหมายร่วมลงทุน “ศักดิ์สยาม”วัดใจ รฟม. รวมคะแนน อาจต้องรายงาน ครม. ตัดปัญหาฟ้องร้อง หวั่นไทม์ไลน์ไม่เสร็จ 6 เดือน ด้าน รฟท.รุกสื่อโซเซียล เปิดเพจ “Bang Sue Grand Station” ศูนย์กลางข้อมูลสถานีกลางบางซื่อและรถไฟสายสีแดง

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จากที่ รฟม. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) ประกอบการพิจารณาจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 2-16 มี.ค.2564 และให้จัดส่งความคิดเห็นจนถึงวันที่ 19 มี.ค.2564 นั้น ปรากฏว่า มีเอกชนร่วมแสดงความคิดเห็น ประมาณ 30 ราย โดยเอกชนมีทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายระบบรถไฟฟ้า ซัปพลายเออร์ต่างๆ กลุ่มบริษัทก่อสร้าง บริษัทที่ปรึกษา สถาบันการเงิน เป็นต้น

ทั้งนี้ รฟม.เปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเชิญชวนคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีทั้งการจัดส่งโดยตรง เช่น สถานทูตต่างๆ บริษัทที่มีชื่อเสียง บริษัทที่เป็นคู่ค้าของ รฟม. และยังประกาศผ่านเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดเอกสารการรับฟังความคิดเห็น และส่งความคิดเห็นกลับมายัง รฟม. ทางเว็บไซต์และทางอีเมล

“รฟม. อยู่ระหว่างประมวลความเห็นทั้งหมด สรุปรายละเอียดในร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน โครงการ เพื่อเสนอคณะกรรมการมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมภายในเดือนมี.ค.นี้”

ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า ในการประกวดราคาเพื่อคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายส้ม รฟม.ดำเนินการตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ซึ่งกำหนดวิธีการคัดเลือกเอกชน หลักเกณฑ์ประกาศเชิญชวน ให้ดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2563 กำหนดให้พิจารณาการคัดเลือกให้ใช้เกณฑ์และวิธีการตัดสินเป็นคะแนนในทุกด้าน ทั้งด้านคุณภาพ และด้านราคา (Price-Performance) ซึ่งพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ถือเป็นกฎหมายและประกาศคณะกรรมการ PPP เป็นกฎหมายลูก ที่กำหนดวิธีการให้ดำเนินการ

สำหรับการกำหนดข้อเสนอด้านราคา 70% ซึ่งมี 10% เป็นคะแนนด้านความน่าเชื่อถือ ซึ่งการพิจารณาจะมีสมมติฐานความเป็นไปตามทางการเงิน ทางเทคนิคว่าเอกชนเสนอเป็นสมมติฐานที่เป็นไปได้หรือไม่ มีหลักวิชาการอ้างอิง ไม่ได้ใช้ความรู้สึกตัดสิน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนที่ รฟม. จัดทำร่าง RFP ใหม่ จากนั้น รฟม. จะสรุปเสนอคณะกรรมการมาตรา 36 เห็นชอบ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ตนในฐานะรมว.คมนาคม ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ โดยอำนาจในการกำกับตามพ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ ทำได้เพียงให้หน่วยงานรายงานเข้ามา จากนั้นจึงจะสามารถให้ความเห็นได้ จึงขอให้รอถึงขั้นตอนที่ได้รับรายงานก่อน

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการมาตรา 36 ได้มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือก จากการพิจารณาข้อเสนอทีละซอง และตัดสินที่ข้อเสนอด้านการเงิน ผลตอบแทน เป็นการพิจารณาโดยรวมคะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคและการเงิน และมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้น เนื่องจากได้มีการยกเลิกประมูลไปแล้ว ถือว่ายังไม่มีใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ขณะที่เอกชน คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ รายที่ยื่นร้องต่อ สคร. ก็ไม่ได้ยื่นซองประมูลด้วย ไม่ได้หมายความว่า การปรับเหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อเอื้อให้กับผู้ร้อง เรื่องนี้จึงไม่มีการทุจริต การเอื้อประโยชน์ยังไม่เกิดขึ้น อีกทั้งยังไม่ถึงขั้นตอนที่รมว.คมนาคมและครม.พิจารณา

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า กรณีที่มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใน RFP จะต้องยึดหลักตามกฎหมาย และอำนาจของคณะกรรมการมาตรา 36 มีแค่ไหน รวมถึงมติ ครม. จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งมีประเด็นว่า หากใช้ RFP เกณฑ์รวมคะแนนเทคนิคและราคานั้น จะต้องเสนอ ครม. หรือไม่ ตรงนี้ รฟม. และคณะกรรมการมาตรา 36 ต้องพิจารณาว่ามติ ครม. เป็นอย่างไร ประกาศคณะกรรมการ PPP ตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ เป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม หาก รฟม. และคณะกรรมการมาตรา 36 ตกลง ใช้ RFP เกณฑ์รวมคะแนนเทคนิคและราคา และเห็นว่าควรจะต้องเสนอ ครม. รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฟ้องร้องภายหลัง อาจจะทำให้ขั้นตอนการประมูลใช้เวลามากขึ้น จากที่ รฟม. ได้รายงานกระทรวงคมนาคมว่าเมื่อยกเลิกและดำเนินการประมูลใหม่ จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจะได้ตัวเอกชน

วันเดียวกันนี้ นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอนุกรรมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ด้านการสื่อสารสาธารณะ กล่าวว่า ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการด้านสื่อสารข้อมูลประชาสัมพันธ์กับประชาชน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานว่า ได้ทำการเปิดเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “Bang Sue Grand Station” เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในด้านข้อมูลของสถานีกลางบางซื่ออย่างเป็นทางการทั้งหมด รวมไปถึงรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่จะมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพร้อมกันในเดือนพ.ย.2564


กำลังโหลดความคิดเห็น