xs
xsm
sm
md
lg

เปิดช่องรื้อคดี“ค่าโง่โฮปเวลล์” “โอ๋”สั่งทบทวนค่าโดยสาร"สีแดง"ชงPPP-7หมื่นล.บูม ศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“โฆษกศาล ปค.” มองต่างคำวินิฉัย “ศาล รธน.” ชี้มติที่ประชุมใหญ่ศาล ปค.สูงสุดคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน ไม่ต้องประกาศราชกิจจาฯ-ส่งสภาฯเห็นชอบ “พีระพันธุ์” ฟันธงขาดอายุความแล้ว เผย กม.เปิดช่องรื้อคดีได้ "ศักดิ์สยาม" ลั่นเดินหน้า

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ในตุลาการศาลปกครองสูงสุด ที่กำหนดให้การนับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค.44 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.นั้น

วานนี้ (18 มี.ค.) ที่สำนักศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า มติศาลฯดังกล่าว เป็นเพียงการชี้ว่า ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ไม่ได้ดำเนินการนำมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.56 มาออกเป็นระเบียบตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ที่กำหนดว่า ระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดตาม มาตรา 44 และมาตรา 66 ต้อง ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรในวันที่ออกระเบียบดังกล่าว เพื่อให้ ส.ส.ตรวจสอบได้ ส่วนประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับผลการชี้ขาดแห่งคดีนั้น ศาลฯไม่ได้วินิจฉัย ฉะนั้นต้องดูคำวินิจฉัยฉบับเต็มก่อนว่า ประเด็นที่ศาลฯวินิจฉัยครอบคลุมไปลึกแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ใช้หลักปฏิบัติเดียวกับที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาของศาลยุติธรรม เป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 68 ที่กำหนดว่า กรณีประธานศาลปกครองสูงสุด เห็นสมควรที่จะให้มีการวินิจฉัยปัญหาใด คดีใด ให้เสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาหากประธานศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าคดีนั้นมีปัญหา หรือเป็นคดีสำคัญ หรือเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์สูงก็จะนำเข้าที่ประชุมใหญ่ฯพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีนั้น ซึ่งทำกันเกือบทุกเดือน มีเป็น 100 เรื่อง โดยไม่ได้มองว่า เป็นระเบียบที่ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือต้องส่งให้สภาฯตรวจสอบ ดังนั้นเมื่อศาลฯมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ จึงต้องดูว่า มตินี้เป็นระเบียบ เพราะอะไร

“พีระพันธุ์” ฟันธงขาดอายุความ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ ในคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ กล่าวว่า ถึงคำวินิจฉัยศาลฯทำให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ โดยคดีนี้ถือว่าขาดอายุความไปแล้ว เนื่องจากข้อพิพาทที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีเกิดขึ้นเดือน ม.ค.2541 นับจากวันที่ ครม.มีมติบอกเลิกสัญญากับบริษัทโฮปเวลล์อย่างเป็นทางการ ซึ่งในขณะนั้นการนับอายุความคดีปกครอง ต้องใช้ตามมาตรา 51 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ที่กำหนดอายุความคดีปกครองไว้แค่ 1 ปี เท่ากับคดีนี้ต้องหมดอายุความในปี 2542 แต่โฮปเวลล์ไปยื่นคำร้องต่ออนุญาโตตุลาการในปี 2547 ถือว่ากรณีนี้หมดอายุความไปแล้ว ซึ่งเป็นข้อต่อสู้ของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาโดยตลอด แม้ว่าในภายหลังจะมีการแก้ไขเพิ่มอายุความ ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะไม่ได้เป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะมีข้อพิพาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามมาตรา 75 (4) ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 เปิดช่องให้ยื่นศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอรื้อคดีใหม่ได้ ในกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษา หรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น โดยกรณีนี้อาจมีการใช้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเหตุแห่งการรื้อคดีตามกฎหมายมาตราดังกล่าว

"ศักดิ์สยาม" ลั่นเดินหน้าเคลียร์ค่าโง่

ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม พยายามศึกษาพิจารณาข้อระเบียบกฎหมาย และข้อเท็จจริง รวมถึงต่อสู้คดี เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มความสามารถเบื้องต้น ทางกระทรวงคมนาคม ขอดูผลคำวินิจฉัยกลางของศาลรธน.ก่อน เนื่องจากตามกระบวนการ กระทรวงฯไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่กระทรวง กับ รฟท.ยื่นเรื่องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนอายุความของคดีดังกล่าว คงต้องรอดูคำวินิจฉัยกลางด้วย ซึ่งจะเป็นข้อยุติตามหลักกฎหมายข้อใด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จึงจะทราบว่าต้องดำเนินการต่ออย่างไร

"เราจะต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะเราถือว่าเงินงบประมาณของรัฐบาล คือเงินของภาษีพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้นการที่จะต้องดำเนินการในเรื่องที่จะจ่าย หรือชำระค่าอะไรก็ตาม ต้องถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย และข้อเท็จจริง ถ้าอะไรไม่ถูกต้องกระทรวงคมนาคมจะดำเนินการตามขั้นตอนในการที่จะปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน" นายศักดิ์สยาม กล่าว

ตั้ง กก.สอบหาคนผิดอาญา

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ทางกระทรวงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางอาญาเพิ่มเติม โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ซึ่งเรื่องนี้มีรายละเอียดมากต้องใช้เวลาพิจารณา และขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนความผิดในการละเมิด อยู่ระหว่างการส่งรายชื่อคณะกรรมการฯ เพื่อแต่งตั้งสอบสวนหาความผิดดังกล่าวมาที่เรา ให้พิจารณา เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอำนาจที่เราสามารถแต่งตั้งได้ หากเราเกี่ยวข้อง จะเป็นอำนาจของครม. เป็นผู้พิจารณา

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างรอสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปดำเนินการขอคัดถ่ายคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อนำมาพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับประสานงานกับกระทรวงคมนาคมในการพิจารณาแนวทางเพื่อปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

ติดใจค่าโดยสารสีแดงแพง

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยถึงการเปิดให้บริการรถไฟชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน ในเดือน พ.ย.64 นี้ด้วยว่า จะมีการทดสอบเดินรถเสมือนจริง ในวันที่ 26 มี.ค.64 โดยทดสอบการเดินรถแบบไม่มีตารางเวลา และในวันที่ 28 ก.ค.64 จะเป็นการเปิดอย่างไม่เป็นทางการ ให้ประชาชนเข้าร่วมทดลองฟรี จากนั้นเดือน พ.ย.64 จะเปิดอย่างเป็นทางการ และจัดเก็บค่าโดยสาร ส่วนค่าโดยสารที่ รฟท.เสนอ อัตรา 14-42 บาท นั้นตนยังไม่เห็นด้วย โดยให้ รฟท.กลับไปทบทวน และทำรายละเอียดเพิ่มเติม โดยอธิบายเรื่องต้นทุนต่อกม.ใหม่ กรณีที่กำหนดอัตรา ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่ 2 บาท/กม. ซึ่งไม่เท่ากับ ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ 1.5 บาท/กม. อีกทั้ง ยังสูงกว่าสายสีน้ำเงิน ที่กำหนด 0.89 บาท/กม. ซึ่’ต้องอธิบายเหตุผล ทำไมไม่เท่ากัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้พิจารณาในการเปิดให้ใช้ โครงการมอเตอร์เวย์สาย บางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงลำตะคอง มีระยะทางประมาณ 30 กม. เป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ระหว่างวันที่ 8-19 เม.ย.64 รวม 12 วันด้วย โดยจะปรับทิศทางเดินรถขาออก-ขาเข้า กทม.ให้สอดคล้องกับปริมาณรถ

ชง PPP ปีนี้กว่า7หมื่นกว่าล.

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ในปีนี้จะเร่งรัดโครงการร่วมลงทุนเอกชน (PPP) 3 โครงการ เพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณา ได้แก่ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M82) ในส่วนของงานระบบและบำรุงรักษา (O&M) ตั้งแต่ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 25 กม. วงเงิน 1,850 ล้านบาท, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต–บางปะอิน ระยะทาง 18 กม. มูลค่าโครงการ 39,956 ล้านบาท ซึ่งกำลังเร่งการศึกษา และโครงการมอเตอร์เวย์ต่อขยาย ช่วงศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18.5 กม. มูลค่าโครงการ 35,685 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น