“สมุทรสาคร” เตรียมต้อนรับ “ผู้ว่าฯปู-วีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี” ที่จะออกจาก รพ.ศิริราช วันนี้ (19 มี.ค.) "อนุทิน" ยันวัคซีนโควิดไม่มีคำว่าขาดแคลน พร้อมหนุนเอกชนจัดหา แบ่งเบาภาระรัฐบาล ส.อ.ท.ยื่นขอวัคซีนโควิด-19 นำร่องแสนโดส
วานนี้ (18 มี.ค.) แฟนเพจเฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.สมุทรสาคร เปิดเผยถึง ความคืบหน้าในการเตรียมต้อนรับ นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร คืนสู่ จ.สมุทรสาคร ภายใต้มาตรการ New Normal โดยระบุว่า ตามที่ ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้เปิดเผยถึงข่าวดีว่า นายวีระศักดิ์ ที่เข้ารับการรักษาใน รพ.ศิริราช ด้วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 อาการดีขึ้น จนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และจะกลับมาที่ จ.สมุทรสาครในวันที่ 19 มี.ค.นั้น การต้อนรับผู้ว่าฯสมุทรสาคร จะจัดที่ศาลากลาง จ.สมุทรสาครนั้น โดย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้แจ้งขอความร่วมมือกับทางสื่อมวลชนในพื้นที่ว่าขอให้ทำการบันทึกภาพในรูปแบบจัดเป็นตัวแทนเข้าไป เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องยึดหลักมาตรการ New Normal คือเว้นระยะห่าง สร้างความปลอดภัยให้แก่ท่านผู้ว่าฯ ที่แม้จะแข็งแรงแล้ว แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังโรคและเว้นระยะห่างต่อไป
สำหรับกำหนดการในวันที่ 19 มี.ค. จะมีการแถลงข่าวที่ รพ.ศิริราช ในเวลา 10.00 น. ณ หอประชุมราชแพทยาลัย รพ.ศิริราช โดยมี นายวีระศักดิ์ และทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วยจากนั้น คณะนายวีระศักดิ์ จะเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีคณะนายแพทย์จากศิริราชร่วมเดินทางมาส่ง คาดว่าจะถึงในเวลาประมาณ 11.30 น. และจะขึ้นไปที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ชั้น 4 เพื่อพบปะกับรองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมกับผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชน ส่วนประชาชนที่จะมาร่วมต้อนรับได้มีการจัดสถานที่ไว้ที่หน้าอาคารสำนักงานเหล่ากาชาด จ.สมุทรสาคร (อาคารนิวนามทอง)
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า เป็นการสรุปให้นายกฯ ฟังก่อนจะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 19 มี.ค. โดยนายกฯ ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนว่า ให้กรมควบคุมโรคต้องดำเนินการให้พร้อม ในเรื่องของการให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชน ต้องรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย ซึ่งยืนยันว่า วัคซีนของเราเพียงพอ จะไม่มีคำว่าขาดแคลน ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าอยากให้ รพ.เอกชน รับวัคซีนเข้ามาฉีดให้ประชาชนเพื่อเป็นทางเลือกนั้น ก็เป็นไปได้ แต่ในส่วนของรัฐ ก็ต้องมีการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง ส่วนผู้ที่สามารถจัดหาวัคซีนมาได้ด้วยตัวเอง องค์การอาหารและยา (อย.) ก็พร้อมอำนวยความสะดวกขึ้นทะเบียนให้รวดเร็วที่สุด
ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้หารือกับองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนต่อ อย.แล้วให้นำมาฉีดแก่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเห็นว่าหลังจากฉีดให้แก่ผู้ที่จำเป็นและผู้ที่เสี่ยงสูงแล้ว ภาคแรงงานในอุตสาหกรรมและส่งออกมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่ง ส.อ.ท.ได้มีการสอบถามสมาชิกถึงความต้องการไปเบื้องต้นได้เสนอความต้องการมากกว่า 51,000 ราย หรือราว 1 แสนโดส จาก 109 บริษัท ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งหมดยินดีที่จะจ่ายเงินเอง เพื่อช่วยลดภาระให้รัฐบาล คาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนในสถานที่ที่ภาครัฐจัดเตรียมให้เสร็จในระยะแรกภายในเดือน มิ.ย.นี้
“ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีความพร้อมในการจัดซื้อวัคซีนเองซึ่งเบื้องต้นคิดเป็นเงินโดสละราว 1,000 บาท ต้องฉีดคนละ 2 โดส และคาดว่าความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ส.อ.ท.ยังคงเดินหน้าเปิดรับความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 เฟส 2 ต่อไป โดยจะปิดรับในวันที่ 31 มี.ค.นี้” นายสุพันธุ์ กล่าว
วานนี้ (18 มี.ค.) แฟนเพจเฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.สมุทรสาคร เปิดเผยถึง ความคืบหน้าในการเตรียมต้อนรับ นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร คืนสู่ จ.สมุทรสาคร ภายใต้มาตรการ New Normal โดยระบุว่า ตามที่ ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้เปิดเผยถึงข่าวดีว่า นายวีระศักดิ์ ที่เข้ารับการรักษาใน รพ.ศิริราช ด้วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 อาการดีขึ้น จนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และจะกลับมาที่ จ.สมุทรสาครในวันที่ 19 มี.ค.นั้น การต้อนรับผู้ว่าฯสมุทรสาคร จะจัดที่ศาลากลาง จ.สมุทรสาครนั้น โดย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้แจ้งขอความร่วมมือกับทางสื่อมวลชนในพื้นที่ว่าขอให้ทำการบันทึกภาพในรูปแบบจัดเป็นตัวแทนเข้าไป เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องยึดหลักมาตรการ New Normal คือเว้นระยะห่าง สร้างความปลอดภัยให้แก่ท่านผู้ว่าฯ ที่แม้จะแข็งแรงแล้ว แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังโรคและเว้นระยะห่างต่อไป
สำหรับกำหนดการในวันที่ 19 มี.ค. จะมีการแถลงข่าวที่ รพ.ศิริราช ในเวลา 10.00 น. ณ หอประชุมราชแพทยาลัย รพ.ศิริราช โดยมี นายวีระศักดิ์ และทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วยจากนั้น คณะนายวีระศักดิ์ จะเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีคณะนายแพทย์จากศิริราชร่วมเดินทางมาส่ง คาดว่าจะถึงในเวลาประมาณ 11.30 น. และจะขึ้นไปที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ชั้น 4 เพื่อพบปะกับรองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมกับผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชน ส่วนประชาชนที่จะมาร่วมต้อนรับได้มีการจัดสถานที่ไว้ที่หน้าอาคารสำนักงานเหล่ากาชาด จ.สมุทรสาคร (อาคารนิวนามทอง)
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า เป็นการสรุปให้นายกฯ ฟังก่อนจะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 19 มี.ค. โดยนายกฯ ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนว่า ให้กรมควบคุมโรคต้องดำเนินการให้พร้อม ในเรื่องของการให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชน ต้องรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย ซึ่งยืนยันว่า วัคซีนของเราเพียงพอ จะไม่มีคำว่าขาดแคลน ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าอยากให้ รพ.เอกชน รับวัคซีนเข้ามาฉีดให้ประชาชนเพื่อเป็นทางเลือกนั้น ก็เป็นไปได้ แต่ในส่วนของรัฐ ก็ต้องมีการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง ส่วนผู้ที่สามารถจัดหาวัคซีนมาได้ด้วยตัวเอง องค์การอาหารและยา (อย.) ก็พร้อมอำนวยความสะดวกขึ้นทะเบียนให้รวดเร็วที่สุด
ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้หารือกับองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนต่อ อย.แล้วให้นำมาฉีดแก่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเห็นว่าหลังจากฉีดให้แก่ผู้ที่จำเป็นและผู้ที่เสี่ยงสูงแล้ว ภาคแรงงานในอุตสาหกรรมและส่งออกมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่ง ส.อ.ท.ได้มีการสอบถามสมาชิกถึงความต้องการไปเบื้องต้นได้เสนอความต้องการมากกว่า 51,000 ราย หรือราว 1 แสนโดส จาก 109 บริษัท ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งหมดยินดีที่จะจ่ายเงินเอง เพื่อช่วยลดภาระให้รัฐบาล คาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนในสถานที่ที่ภาครัฐจัดเตรียมให้เสร็จในระยะแรกภายในเดือน มิ.ย.นี้
“ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีความพร้อมในการจัดซื้อวัคซีนเองซึ่งเบื้องต้นคิดเป็นเงินโดสละราว 1,000 บาท ต้องฉีดคนละ 2 โดส และคาดว่าความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ส.อ.ท.ยังคงเดินหน้าเปิดรับความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 เฟส 2 ต่อไป โดยจะปิดรับในวันที่ 31 มี.ค.นี้” นายสุพันธุ์ กล่าว